โดย...สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio
เกริ่นไปแล้วหลายฉบับว่าพุดดิ้งมีอยู่หลากหลาย ถามหาพุดดิ้งแบบหนึ่งอาจได้อีกแบบหนึ่งมาแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พุดดิ้งของพวกยุโรปกับพุดดิ้งของอเมริกัน แทบจะไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกันเลย มีเพียงแค่ส่วนผสมหลักที่ใกล้เคียงกัน ปรับเปลี่ยนวิธีทำขึ้นมาหน่อยก็ได้หน้าตาที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง
สำหรับฉบับนี้เป็นพุดดิ้งสไตล์อเมริกันที่เราคุ้นเคยกันมานาน แต่อาจจะไม่ได้รับประทานเปล่าๆ ใช้ช้อนตักกินแบบที่คนอเมริกันเขากินกัน แต่เราที่ว่าคุ้นเคยเพราะว่าพุดดิ้งแบบอเมริกัน ถูกนำมาใช้หลากหลายในขนมฝรั่งๆ สไตล์ไทยๆ ไม่ว่าจะเป็นไส้วานิลลาของขนมเอแคลร์แบบไทยๆ ของเรา ด้านในที่เป็นครีมคัสตาร์ดข้นๆ กลิ่นวานิลลานั่นก็คือรูปแบบหนึ่งของ Vanilla Pudding สไตล์อเมริกัน ส่วน Chocolate Pudding สไตล์อเมริกันที่บ้านเราดัดแปลงมาเป็นหน้าของเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มนั้น ก็ได้รับอิทธิพลของพุดดิ้งสไตล์อเมริกัน
หัวใจของการทำพุดดิ้งแบบอเมริกัน คือ การกวนนมสด ไข่แดง น้ำตาลให้ข้นขึ้นโดยที่ไม่เกิดเป็นไข่คนเละๆ เพราะอาศัยการเชื่อมกันให้ข้นขึ้นด้วยแป้งข้าวโพด เมื่อกวนไปด้วย ให้ความร้อนไปด้วย ไข่ไก่ นม น้ำตาลและแป้งจะกลายเป็นครีมข้นๆ จะเนียนหรือไม่เนียนนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถและความชำนาญของผู้ปรุงเป็นหลัก เพราะต้องกะความร้อนให้สัมพันธ์กับการคนเร็วๆ ถึงจะได้พุดดิ้งเนื้อเนียนๆ
พุดดิ้งแบบอเมริกัน นิยมรับประทานเปล่าๆ โดยการตักใส่ถ้วย มักจะโปะด้วยวิปครีมเบาฟู เพื่อเข้าไปเจือจางความข้นเลี่ยนของเนื้อพุดดิ้งหนืดๆ ถ้าสูตรนั้นงกๆ หน่อย จะมีสัดส่วนของแป้งที่เยอะจนไม่ได้รสชาติของความเป็นคัสตาร์ดชนิด Stirred Custard ที่ควรจะมีส่วนผสมของไข่แดง นม เนยเป็นหัวใจ พุดดิ้งแบบอเมริกันยังถูกนำไปใช้ในขนมอีกหลากหลายชนิด อย่างเช่น พายแบบง่ายๆ สอดไส้ชูส์ครีม หรือ ใช้เป็น Filling ของพวกเค้กบางชนิดอย่าง Boston Creme Pie ที่เป็นเค้กสอดไส้ด้วยพุดดิ้งวานิลลาแล้วราดด้วยช็อกโกแลตอีกที
Chocolate Pudding สูตรดั้งเดิมแบบนี้แหละ มีส่วนผสมคือ นมสดที่เพิ่มผงโกโก้ให้เข้มข้น กวนกับไข่แดง น้ำตาลและใช้แป้งข้าวโพด เมื่อกวนจนสุกข้นดีแล้ว รีบเติมช็อกโกแลตแท้ ที่มีเปอร์เซ็นต์โกโก้แมสสูงสัก 58% ขึ้นไป จึงจะได้ช็อกโกแลตพุดดิ้งสูตรเข้มข้นที่อร่อยได้แม้รับประทานเปล่าๆ หรือจะเอาสูตรนี้ไปดัดแปลงเป็น Chocolate Cream Pie ก็ยังไหว
เราคนไทยปรับเปลี่ยนสูตรจากช็อกโกแลตพุดดิ้งแบบฝรั่งให้เป็นช็อกโกแลตหน้านิ่มโดยการใช้นมข้นจืด นมข้นหวานผสมเพื่อลดต้นทุนนมสด ให้รสชาติที่นัวลิ้นในแบบของเราเอง ปรับจากการใช้ช็อกโกแลตแท้โดยใช้ผงโกโก้ แล้วให้คงตัวนุ่มๆ ที่อุณหภูมิห้องได้ แล้วยังปาดหน้าเค้กได้ ต้องใช้ผงวุ้นเข้ามาช่วยเซตตัวโดยไม่ต้องใช้ความเย็นในตู้เย็น ถือว่าเป็นการผสมผสานความรู้แบบตะวันออก ให้เข้ากับพุดดิ้งแบบตะวันตกจนกลายเป็นช็อกโกแลตหน้านิ่มบนเค้กที่เรารับประทานกันในปัจจุบัน
สำหรับช็อกโกแลตพุดดิ้งสูตรในฉบับนี้ของผู้เขียน จัดว่าพยายามทำให้เป็นแบบดั้งเดิมตามตำรับพุดดิ้งฝรั่ง ออกมาเข้มข้นเพราะใช้ช็อกโกแลตแท้ๆ และสามารถคงตัวปาดเป็นหน้าเค้กได้ แต่ต้องอยู่ในตู้เย็นให้คงตัวเสียก่อน รับรองว่ารับประทานเปล่าก็อร่อย หรือจะปาดหน้าเค้กก็ได้เช่นกัน
ส่วนผสม
นมจืด 2 ถ้วย
ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่แดง 2 ฟอง
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) 1 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืด 1/2 ถ้วย
ช็อกโกแลต 58% 250 กรัม
ส่วนผสม Cookies Crumble
คุกกี้ที่ชอบ 150 กรัม
เนยจืดละลาย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
เริ่มจากครัมเบิลง่ายๆ : บดคุกกี้ให้แหลก เติมเนยละลายลงไป เคล้าให้เข้ากัน เกลี่ยลงบนถาดอบ นำไปอบที่ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 5-8 นาที รอให้เย็นสนิท
มาเริ่มทำพุดดิ้ง โดยผสมโกโก้และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน เติมลงในนมจืด นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟ
ในกะละมังหรือชามอีกใบ ผสมนมข้นจืด น้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด ไข่แดงเข้าด้วยกัน คนให้เนียน
เทส่วนผสมนมร้อนๆ ลงในชามไข่แดงประมาณครึ่งหนึ่ง คนให้เข้ากันแล้วเติมส่วนผสมทีเหลือกลับลงในหม้อ คนให้ส่วนผสมค่อยๆ เดือดเบาๆ จนค่อยๆ ข้นขึ้น รอจนเดือดประมาณ 3-4 นาที ยกลงจากเตา แล้วเติม ช็อกโกแลตที่หั่นหรือสับไว้เป็นชิ้นเล็กๆ ลงไป คนให้เข้ากันจนช็อกโกแลตละลาย
เก็บในภาชนะปิดสนิท โดยใช้ฟิล์มห่ออาหารทาบลงบนพุดดิ้งเพื่อไม่ให้เกิด “Skin” เมื่อต้องการเสิร์ฟ คนให้เนียนแล้วตักใส่ถุงบีบ บีบใส่ภาชนะเสิร์ฟ แล้วโรยด้วยครัมเบิล
ฝรั่งเศสสั่งสอบห้างดังลดราคา "นูเทลล่า" ถึงขั้นโกลาหล
วันที่ 30 ม.ค. 2561
ฝรั่งเศสป่วนเพราะ"นูเทลล่า"เป็นเหตุ
วันที่ 26 ม.ค. 2561
กูรูคาด "ช็อกโกแลต" อาจหมดโลกใน 30 ปี!?
วันที่ 02 ม.ค. 2561
“รูบี้ช็อกโกแลต” ช็อกโกแลตชนิดใหม่ล่าสุดของโลก
วันที่ 12 ก.ย. 2560
เทสแอนไทม์ ‘พุดดิ้ง’ ใส่นวัตกรรม
วันที่ 14 เม.ย. 2560