posttoday

แซนด์วิช Spicy Tuna

03 กุมภาพันธ์ 2560

อาหารบางชนิดที่เราสั่งกันอย่างคุ้นปาก พูดกันอย่างคุ้นหู และกินกันจนคุ้นลิ้น อันที่จริงแล้วกว่าจะมาถึงทุกวันนี้

โดย...สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

อาหารบางชนิดที่เราสั่งกันอย่างคุ้นปาก พูดกันอย่างคุ้นหู และกินกันจนคุ้นลิ้น อันที่จริงแล้วกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ มันมีที่มาที่ไปชนิดที่เรียกว่า สาวกันเป็นประวัติศาสตร์การอาหารขึ้นมาได้เลย ย้อนไปได้ถึงยุคเซเวนตี้ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คลื่นชนชาวเอเชียมีการโยกย้ายถิ่นที่อยู่จากบ้านเกิดเดิมไปยังประเทศอื่น ส่วนหนึ่งย้ายถิ่นจากบ้านเกิดไปยังอเมริกา ช่วงนั้นเกิดวัฒนธรรมใหม่ๆ ขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยุคบุปผาชนที่อยากใช้ชีวิตแบบไม่แคร์สื่อ รวมไปถึงอาหารใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มเชื้อชาติเดิมที่แสวงหาชีวิตใหม่ในต่างแดน

ผู้เขียนไปอ่านเจอจากเว็บของ History ถึงที่มาของซูชิที่เรากินกันทุกวันนี้ที่เรียก California Roll นั้น มีจุดกำเนิดในแคลิฟอร์เนียใต้ ที่มีชาวญี่ปุ่นอยู่มากหลังสงครามโลกไปสัก 10 กว่าปี จากจุดเริ่มต้นของซูชิโรลที่เรียกว่า Maki เดิมที่ข้าวอยู่ด้านในสาหร่าย กลายเป็นว่า ที่ข้าวมาอยู่ด้านนอกสาหร่าย พร้อมกับเนื้อปูอัดและอโวคาโด แบบที่ในญี่ปุ่นดั้งเดิมเองก็ไม่มี หยิบจับความเป็นญี่ปุ่นด้วยวิธีการห่อของข้าวและสาหร่าย ผสานเข้ากับเนื้อปูสด อโวคาโด เพื่อเอาใจคนญี่ปุ่นห่างบ้าน ในขณะเดียวกันได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ชาวอเมริกันที่พร้อม “เอนจอย” รสชาติของวัฒนธรรมการกินซูชิห่างบ้านเกิด

ถัดมาอีกสัก 20 ปีเข้าสู่ยุค 90 ช่วงที่เรียกได้ว่าซูชิดังระเบิดเถิดเทิงทุกย่านในอเมริกาจะต้องมีร้านขายซูชิ ดูชัดเจนว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเบาๆ ไขมันต่ำผิดแผกจากอาหารขยะเดิมในอเมริกาเป็นตัวชูโรงด้วยแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนารสชาติของ Maki หรือ ข้าวห่อสาหร่ายแบบต่างๆ ให้ถูกปากคนอเมริกัน โดยการเติมแต่งด้วยมายองเนสรสจัดจ้าน บ้างเติมครีมชีสเข้าไป ใช้แซลมอนรมควัน จนกลายเป็นติดตลาด จุดนี้เองถ้าใครไม่รู้จัก Spicy Tuna Maki ที่มีเศษทูน่า Blue fin สีแดงสด สับผสมเคล้ากับมายองเนสรสเผ็ดที่เติมซอสศรีราชา สอดไส้ข้าวห่อสาหร่ายแล้วล่ะก็ ถือว่าเข้าขั้นเชยไปได้

สิ่งที่ “กิ๊บเก๋” มาพร้อมกับกับ Spicy Tuna Maki เห็นจะเป็น “ซอสศรีราชา” ที่กลายมาเป็นซอสที่ทั่วโลกรู้จัก หนึ่งในส่วนผสมที่ทำให้มายองเนสรสชาติธรรมดาเลี่ยนๆ ของฝรั่งกลายเป็นมายองเนสรสจัดจ้านกินแล้วน้ำย่อย น้ำลายแตกซ่านฝรั่งติดใจ

เสียดายตรงที่ฝรั่งเขาคิดว่าซอสพริกศรีราชานั้นเป็นของเวียดนาม เพราะชาวเวียดนามเป็นเจ้าของโรงงานซอสศรีราชายี่ห้อดังในแคลิฟอร์เนีย จนถึงกับมี Food TV ทำเป็นซีรี่ส์ค้นหาที่มาของซอสศรีราชากันขึ้นมาเลย ว่าต้นตำรับจริงๆ แล้วอยู่ที่เมืองไทย ถึงแม้ว่าจะมีรสชาติคล้ายๆ กัน แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ฝรั่งบอกศรีราชาเวียดนามอร่อย คนไทยค้านหัวชนฝาบอกว่าซอสศรีราชาแท้ๆ ต้องมีครบทุกรสกลมกล่อมตั้งแต่ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน และอร่อย

แซนด์วิช Spicy Tuna

เกริ่นมาเสียยาว ฉบับนี้ผู้เขียนจึงอยากทำแซนด์วิชเย็นที่ต่างจากแซนด์วิชเย็นรสเบาๆ ทั่วไปด้วยการนำเอา Spicy Mayonnaise มาเคล้ากับทูน่ากระป๋อง แทนที่จะเป็นสลัดทูน่าธรรมดาแบบที่นิยมใส่ในแซนด์วิชหรือสลัด ให้กลายเป็น Spicy Tuna Salad รสจี๊ดๆ ง่ายๆ โดยการผสมซอสศรีราชากับมายองเนสที่คุณชอบ

ส่วนผสมสำคัญยกให้ทูน่า เลือกเอาตามชอบทั้งในน้ำเกลือหรือน้ำมันใช้ได้ทั้งนั้น แต่ขออย่างเดียว พยายามบีบน้ำให้หมาดๆ จากเนื้อทูน่า เพื่อไม่ให้แซนด์วิชของแฉะจากน้ำทูน่า แต่อยากให้ฉ่ำด้วยเครื่องปรุงของเรามากกว่า

รสชาติที่สำคัญขึ้นอยู่กับมายองเนส Spicy Tuna มีทั้งแบบไม่หวานและออกหวานนิดๆ ซอส Spicy Tuna ในแบบตะวันตกนั้น ไม่มีรสหวานเท่าไหร่นัก เพราะข้อแรก มายองเนสของเขาจะไม่หวานเท่ามายองเนสบ้านเรา ข้อสองคือ ซอสศรีราชาที่นิยมใช้ในอเมริกานั้น ยี่ห้อที่ดังๆ ของเวียดนามเขาเป็นรสเผ็ด เปรี้ยว เค็มนำ ไม่มีรสหวานติดลิ้นอย่างของบ้านเรา ตรงนี้เองจึงอยากแนะนำให้คุณผู้อ่านเลือกตามลิ้นที่ตัวเองชอบ คือ เฟ้นกันมาตั้งแต่วัตถุดิบเลย เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกใจ

อีกเช่นกัน Spicy Tuna Salad ป้ายบนขนมปัง ทำเป็นแซนด์วิชก็อร่อย หรือจะตักสักสกูปใส่ลงบนผักสลัดนานาชนิดก็ได้ ถ้าขยันขึ้นไปอีก หุงข้าวญี่ปุ่น ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูและเกลือ ม้วนเป็นข้าวห่อสาหร่ายไส้ Spicy Tuna ก็ไม่เลว เรื่องอาหารเนี่ย ถ้ารักจริง ชอบจริงๆ พลิกแพลงได้ไม่จำกัด

Spicy Tuna Sandwiches

ส่วนผสม ไส้ Spicy Tuna

ทูน่ากระป๋อง 2 กระป๋อง

ข้าวโพดหวานต้ม ฝานเอาแต่เม็ด 1/4 ถ้วย

มายองเนส 1/2 ถ้วย

ซอสพริกศรีราชา 1-2 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมเจียว (เอาแต่กระเทียมไม่เอาน้ำมัน) 1 ช้อนชา

ซอสโชยุ 1 ช้อนชา

น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

เกลือป่น ตามชอบ (ประมาณ 1/4 ช้อนชา)

พริกไทยดำบดใหม่ 1/4 ช้อนชา

แครอต หั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ

หัวหอมใหญ่ สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

ต้นหอม ซอยบางๆ 1/2 ช้อนชา

ไข่กุ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

(ไม่ต้องใส่ก็ได้)

สำหรับแซนด์วิช

ขนมปังแผ่น

ผักกาดแก้วล้างให้สะอาด เด็ดเป็นใบๆ

วิธีทำ

เปิดกระป๋องทูน่า พยายามบีบน้ำหรือน้ำมันออกจากเนื้อทูน่าให้หมาดเทเนื้อทูน่าลงในชามผสม

ผสมมายองเนส ให้เข้ากับซอสพริก กระเทียมเจียว โชยุ น้ำตาลทรายน้ำมะนาว ปรับรสให้เข้มข้นขึ้นด้วยเกลือป่นและพริกไทยดำคนให้เข้ากันแล้วจึงเติมส่วนผสมอื่นๆ อย่างแครอต หอมใหญ่ ต้นหอมและไข่กุ้ง

ผสมมายองเนสให้เข้ากับเนื้อทูน่าและข้าวโพดหวานต้ม เคล้าให้เข้ากัน

เตรียมขนมปังแซนด์วิช ตักไส้ Spicy Tuna ป้ายลงบนขนมปัง วางผักกาดแก้วลงแล้วตามด้วยแผ่นขนมปังประกบลงไป ปรับปริมาณไส้และผักได้ตามใจชอบ