posttoday

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

07 สิงหาคม 2559

เมื่อ 13 ปีที่แล้วผมได้มีโอกาสเดินชมร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในศูนย์การค้าทาคาชิมาย่า

โดย...โยธิน อยู่จงดี

เมื่อ 13 ปีที่แล้วผมได้มีโอกาสเดินชมร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในศูนย์การค้าทาคาชิมาย่า ประเทศสิงคโปร์ ที่ขึ้นชื่อในความใหญ่โตของร้านและหนังสือจำนวนมหาศาลที่เรียกได้ว่า ใช้เวลาอ่านทั้งชีวิตก็ไม่หมด แต่วันนี้ไทยเราก็ไม่น้อยหน้าเขาแล้วครับ เพราะบีทูเอส ได้สร้างร้านหนังสือสวยที่สุดในประเทศไทย ที่สาขาเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ริมถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ธิงค์ สเปซ บีทูเอส” ซึ่งทำให้ทุกคนถึงกับตะลึงว่า นี้คือร้านหนังสือหรือห้องสมุด หรืออะไรกันแน่ ทำไมถึงสวยขนาดนี้ แต่ไม่ว่าคุณจะนิยามว่าอะไร สำหรับผมแล้วคือสวรรค์สำหรับคนรักการอ่านจริงๆ

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส มีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 3,000 ตารางเมตร อยู่ใกล้โซนฟู้ดวิลล์ของศูนย์การค้า โดยแบ่งเป็น 5 โซนคือ ไลฟ์สไตล์ บุ๊ก, อาร์ต เอ็กซ์ ไอเดีย สเปซ, เอนเตอร์เทนเมนต์ สเปซ, เพลย์ เอ็กซ์ เลิร์น สเปซ และเน็ตเวิร์กกิ้ง สเปซ ทั้งการแบ่งโซนการออกแบบร้านหนังสือ และรูปแบบการให้บริการของที่นี่นั้นไม่เหมือนรูปแบบของร้านหนังสือร้านใดที่เราเคยพบในประเทศไทยหรือว่าที่ไหนในโลกใบนี้

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

เป็นผลงานการออกแบบของบริษัท KLEIN DYTHAM ARCHITECTURE ซึ่งเคยฝากผลงานเด่นๆ ไว้กับร้านยูนิโคล่สาขากินซา โชว์รูมเวอร์ตู แฟลกชิป กินซา, โชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู สาขาโตเกียวเบย์ และสำนักงานใหญ่ยูทูบ ประเทศญี่ปุ่น

Astrid Klein and Mark Dytham สองผู้ออกแบบอธิบายถึงแนวคิดการสร้าง ธิงค์ สเปซ บีทูเอส แห่งนี้ว่า ต้องการสร้างสถานที่และบรรยากาศให้แตกต่างและพิเศษไปจากที่อื่น ให้เป็นบรรยากาศที่ทุกคนไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

ทุกวันนี้ใครๆ ก็อยากออกไปข้างนอก ไปอยู่ในที่สบายๆ สังสรรค์กับเพื่อนซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของคนไทยในยุคนี้ ซึ่งจะเห็นได้จากการมีตลาดนัดตอนกลางคืนเกิดขึ้นมาก็เพื่อให้คนได้ออกไปข้างนอก ออกไปเจอเพื่อนฝูง จึงคิดว่าเราน่าจะจัดหาพื้นที่ในอาคาร ให้พวกเขาได้ออกมานั่งสังสรรค์แบบสบายๆ และยังได้ความรู้จากหนังสือและนิตยสารระหว่างการออกมาหาความสำราญด้วยก็น่าจะเป็นเรื่องยิ่งดี

แต่เดิมคนมักจะนึกภาพร้านบีทูเอสเป็นห้องที่ถูกล้อมด้วยกำแพง 4 ด้านพร้อมด้วยเพดาน ซึ่งสถานที่แบบนั้นไม่ได้ให้คุณค่าในเชิงประสบการณ์ จึงพยายามที่จะเปิดพื้นที่ให้โล่งมากขึ้น รวมถึงพยายามที่จะเปลี่ยนวัฒนธรรมของบีทูเอสเพื่อให้หันไปเน้นเรื่องไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยจะเน้นให้มีเครื่องเขียนและหนังสือที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ ให้บีทูเอสเป็นสถานที่ซึ่งลูกค้ามานั่งเล่น เดินเล่นได้ทั้งวัน มาอยู่สัก 2-3 ชั่วโมง ไม่ใช่แค่ 2-3 นาที

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

“คุณอาจจะคิดว่าการออกแบบร้านอย่างนี้ไม่ก่อผลดีต่อธุรกิจหรือเปล่า ทำไมมาเปิดร้านให้คนมานั่งโดยที่ไม่ต้องซื้อของล่ะ แต่สิ่งที่เราคิด คือ ผู้บริโภคยุคใหม่มีการศึกษาและมีความรอบรู้ พวกเขาจะเข้าใจอย่างแน่นอนว่าเมื่อเราเปิดร้านต้อนรับพวกเขา เราก็ต้องอยากขายของ ดังนั้น เราจึงไม่ต้องไปเน้นย้ำเรื่องการขายอีก การที่เราให้เกียรติลูกค้าผ่านการแสดงออกว่า “ไม่เป็นไรนะ คุณแวะมานั่งเล่นได้ มาเดินดูของแล้วก็มาเพลิดเพลินที่นี่ได้เลย” ลูกค้าก็จะเพลิดเพลินและมีความสุข เมื่อคุณมีความสุข คุณมักจะยินดีจ่ายมากขึ้นแค่เพราะอยากจะสร้างความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาดีๆ คุณจะไม่คิดมากกับการจับจ่ายใช้สอย คุณจะนึกแต่ว่า “ร้านนี้ให้ประสบการณ์ที่ดีกับฉัน” คุณจะอยากตอบแทน คนเราอยากตอบแทนเสมอ ผมเชื่อในด้านดีของมนุษย์” Astrid กล่าวทิ้งท้าย

เห็นจะจริงอย่างที่ทั้งคู่ว่าไว้ เพราะเมื่อเราก้าวเท้าเข้ามาในที่แห่งนี้เรารู้สึกได้เลยว่าเหมือนหลุดเข้ามาอยู่อีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วยหนังสือเป็นภูเขา ทุกโซนจะมีที่นั่งให้เราอ่านหนังสือ ไม่ต้องแอบนั่งตามพื้นร้านกันอีกต่อไป แถมมีที่ชาร์จไฟและมีไว-ไฟให้ลงทะเบียนใช้ฟรีอีกต่างหาก เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่จากร้านหนังสือที่เราเห็นแต่ชั้นวางซ้อนกันเป็นเขาวงกตในทางเดินแคบๆ ให้กลายเป็นอีกโลกหนึ่งที่ชวนค้นหา (หนังสือ)

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

ก่อนอื่นเลยเราอยากให้ทุกคนได้เดินขึ้นภูเขาแห่งหนังสือ “Book Terraces” แลนด์มาร์คประจำสถานที่แห่งนี้ แต่ไม่ต้องห่วงว่าเดินแล้วจะเหนื่อย ภูเขาเล็กๆ แห่งนี้มีทางเดินสั้นๆ มีบันไดเลื่อนเล็กๆ ให้บริการ มีการแบ่งเป็นชั้นของภูเขาไปตามหมวดหมู่หนังสือ แต่รวมๆ กันแล้วทางร้านคอนเฟิร์มมาว่ามีมากกว่า 1 แสนเล่ม

เกือบทุกชั้นทุกโซนจะมีที่นั่งอ่านหนังสือให้คุณได้เลือกหยิบทดลองอ่านดูติดใจแล้วค่อยซื้อกลับบ้าน มีโซนพิเศษ เน็ตเวิร์กกิ้ง สเปซ เป็นพื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนความคิดและต่อยอดไอเดียใหม่ๆ โซนนี้ต้องทำการจองล่วงหน้า เป็นโซนที่อยู่ในมุมที่เงียบสงบแยกจากโซนขายหนังสืออื่นๆ

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

ต่อมาเป็นโซนที่เราชอบมากที่สุดคือโซนหนังสืออาหาร ซึ่งมีร้านอาหาร “COVER ll COVER Eat & Drink” ที่เป็นร้านร่วมกันระหว่าง “ธิงค์ สเปซ บีทูเอส, เชฟพล ตัณฑเสถียร และร้านคาเฟ่ Amatissimo ในคอนเซ็ปต์ร้านอาหารและคาเฟ่รูปแบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูและหนังสือทำอาหารที่อยู่ภายในร้านบีทูเอส ทำให้โซนนี้ไม่เพียงแค่การอ่านตำราอาหารแต่ยังมีพื้นที่เปิดประสบการณ์นอกตำราอยู่ในที่เดียวกันอีกด้วย

โซนศิลปะ อาร์ต เอ็กซ์ ไอเดีย สเปซ ก็น่าสนใจนอกจากจะมีหนังสือศิลปะหายากวางจำหน่ายแล้วยังมีพื้นที่แสดงผลงานของศิลปินคนไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะอยู่ครบครัน ถ้าอยากเรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะตั้งแต่หัดวาดไปจนถึงมืออาชีพโซนเดียวตอบสนองความต้องการครบครันและเห็นว่ามีหนังสือรวบรวมผลงานพิเศษของศิลปินระดับโลกวางจำหน่ายที่สาขานี้ด้วยจะเป็นอะไรคงต้องไปดูกัน

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

ส่วนคอดนตรี น่าจะชอบห้องมิวสิครูมที่รวบรวมภาพยนตร์และเพลงครบทุกประเภท ตั้งแต่แผ่นซีดีไปจนถึงแผ่นเสียงหายาก มีเครื่องเล่นไวนิล และเครื่องเสียงให้ได้ทดลองฟัง ถูกใจคอเพลงยุคเก่าและเด็กยุคดิจิทัลแน่นอน และมีร้านเครื่องเสียงระดับพรีเมียม “B&O Play by Bang & Olufsen” ให้ลองฟังเพลงอย่างมีอรรถรสมากขึ้น  และหากสังเกตรอบๆ จะเห็นห้องพิเศษสำหรับจัดกิจกรรม นั่นคือโซน เพลย์ เอ็กซ์ เลิร์น สเปซ รวมโรงเรียนสอนทักษะเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ให้พวกเขาได้เรียนรู้ด้วยการลงมือทำจริงผ่านกิจกรรมสนุกๆ ซึ่งคงต้องพาครอบครัวกลับมาเที่ยวที่นี่อีกหลายๆ ครั้ง

เพราะแค่เดินดูหนังสือในแต่ละโซนเราอาจจะต้องใช้เวลาอยู่กับสถานที่แห่งนี้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ส่วนตัวผมใช้เวลาในการเดินเลือกอ่านหนังสือก็ร่วม 3 ชั่วโมงเห็นจะได้ เพราะหนังสือทุกเล่มของที่นี้จะมีเล่มที่เป็นตัวอย่างวางเอาไว้ให้เราได้ลองเปิดอ่านดู ชอบก็หยิบซื้อกลับบ้านได้ทันที แม้กระทั่งโซนหนังสือนิทานเด็กยังเอาใจเด็กๆ ให้ลองหยิบหนังสือเล่มโปรดมานั่งอ่านกันก่อน ยิ่งเสริมให้เด็กๆ รักการอ่านมากขึ้น

วิวอ่านหนังสือชั้นบนของร้านทำให้เรานึกถึงตอนอ่านหนังสือบนเขาทางภาคเหนือ เพียงแต่เขาที่เห็นเป็นภูเขาหนังสือสายลมเย็นที่พัดไม่ใช่ลมฤดูหนาว แต่เป็นแอร์เย็นๆ สิ่งที่เป็นของจริงมีอยู่ 2 อย่างคือ แสงที่ส่องสว่างในร้านนี้ใช้แสงอาทิตย์เป็นหลักลดการใช้พลังงาน และต้นไม้นั้นเป็นต้นไม้จริงให้เราได้รู้สึกถึงธรรมชาติภายในสถานที่แห่งนี้ และยิ่งเราใช้เวลาอยู่ในธิงค์ สเปซ บีทูเอสมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่ร้านหนังสือแต่เป็นห้องสมุดที่เราสามารถเลือกซื้อหนังสือกลับบ้าน และยังมอบประสบการณ์ความรู้ใหม่ๆ ในที่เดียวกัน ไม่ว่าใครที่ได้ลองมาที่ ธิงค์ สเปซ บีทูเอส เป็นครั้งแรกต้องหาโอกาสกลับมาอีกครั้งแน่นอนครับ

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน

 

ธิงค์ สเปซ บีทูเอส ร้านหนังสือในฝัน