posttoday

พระเอก สถาปนิก นักเดินทาง ณัฏฐ์ กิจจริต

21 พฤศจิกายน 2558

สืบทราบมาว่าพระเอกหน้าใหม่ฉายา หมูตุ๋น แห่งช่องเวิร์คพอยท์ ณัฏฐ์ กิจจริต เป็นเด็กสถาปัตย์ผลงานดีเด่น

โดย...รอนแรม ภาพ... ณัฏฐ์ กิจจริต

สืบทราบมาว่าพระเอกหน้าใหม่ฉายา หมูตุ๋น แห่งช่องเวิร์คพอยท์ ณัฏฐ์ กิจจริต เป็นเด็กสถาปัตย์ผลงานดีเด่น แถมยังชอบเดินทางเสพตึกรามบ้านช่องจึงขอเวลาหลังทำโปรเจกต์มาไถ่ถามว่าในมุมมองสถาปนิกเขาเที่ยวอย่างไร

สถาปนิก

ณัฏฐ์ ย้อนให้ฟังว่าความฝันที่อยากเป็นสถาปนิกเริ่มมาจากชอบวาดการ์ตูน ตั้งแต่ยังเด็กพออ่านการ์ตูนแล้วไม่จบอย่างที่คิดก็จะวาดตอนจบเองเสียเลย จนกระทั่งช่วงมัธยมปลายเขาได้ไปเรียนที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จำเป็นต้องเลือกวิชาหลักเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้รู้ตัวเองว่าอยากเรียนต่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จึงแน่วแน่มาในสายนี้ แต่เพราะหลายเหตุผลทำให้ ณัฏฐ์ ต้องกลับมาเรียนต่อชั้นอุดมศึกษาที่ประเทศไทย โดยในขณะนี้เรียนอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเอแบค

ล่าสุด ณัฏฐ์ และเพื่อนในทีมผ่านเข้ารอบการประกวดในเทศกาลเพื่อนแม่น้ำ โครงการที่มหาวิทยาลัย 10 แห่ง จัดการแข่งขันให้นิสิตนักศึกษาออกแบบโครงการพัฒนาชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างที่รัฐบาลกำลังจะพัฒนาอยู่ในตอนนี้ ปรากฏว่ากลุ่มของณัฏฐ์ผ่านเข้ารอบแล้วได้ไปจัดแสดงอยู่ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ชื่อโครงการว่า แม่น้ำ (Morphosis)

“คอนเซ็ปต์เราแค่จะบอกว่าในระยะทาง 14 กิโลเมตรริมแม่น้ำเจ้าพระยา มันมีทั้งชุมชน วัด ดังนั้นในทุกๆ 1 กิโลเมตร หรือน้อยกว่านั้นเราต้องดูบริบทก่อน เช่น เราจะทำสถานปฏิบัติธรรมในบริเวณที่มีวัดอยู่แล้ว เราจะทำแกลเลอรี่แถวๆ วังสุโขทัย มันคือการนำบริบทเดิมมาพัฒนาเท่านั้นเอง”

พระเอก สถาปนิก นักเดินทาง ณัฏฐ์ กิจจริต

 

นักเดินทาง

ถ้าพูดถึงไลฟ์สไตล์ ณัฏฐ์ ชอบเที่ยวย่านเมืองเก่าอย่างสี่แยกเฉลิมกรุง ที่แม้จะดูธรรมดา บางคนขับรถผ่านทุกวัน แต่ตึกเหล่านั้นมันคือมรดกความเป็นไทย แต่หากให้แนะนำสถานที่ในกรุงเทพฯ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ แห่งแรกที่เขาพูดถึงคือ วัดพระแก้ว

“ย่านนั้นไม่ได้มีแค่วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังแต่ยังเป็นย่านเก่าที่เราเรียกกันว่าเกาะรัตนโกสินทร์ ทำให้บ้านแถวนั้นอย่างท่าเตียนยังเป็นตึกเก่าที่แตกต่างจากตึกแถวปัจจุบัน”

โดยส่วนตัวเวลาณัฏฐ์ไปเที่ยวไหน ไม่ได้มุ่งไปแลนด์มาร์คของเมืองนั้น แต่จะไปตลาดที่ยังคงเป็นตลาด ไม่ใช่พลาซ่าหรือถนนคนเดินตามแหล่งท่องเที่ยว

พระเอก สถาปนิก นักเดินทาง ณัฏฐ์ กิจจริต

 

“อย่างตอนที่ผมอยู่ซิดนีย์ ทุกอย่างมันจะเป็นร้านค้าหมดถ้าอยากกินปลาก็ไปร้านขายปลา อยากกินหมูก็ไปร้านขายเนื้อหมู จะไม่มีตลาดสดที่ขายทุกอย่างไว้ที่เดียวกันเหมือนในประเทศเรา”

เขายังกล่าวถึงเมืองซิดนีย์ต่อว่า เมืองหลวงแห่งนี้เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ดังนั้นการวางผังเมืองจะเหมือนกันคือเป็นตารางหมากรุก ทำให้บ้านเมืองเป็นระเบียบและง่ายต่อการสัญจร แต่สิ่งที่เขาชอบมากที่สุดคือการอนุรักษ์ตึกเก่าๆ ไว้ในเขตชานเมือง

ณัฏฐ์ เปรียบเทียบกับประเทศไทยว่า “เราวางแผนที่จะพัฒนาไปข้างหน้า เราต้องการตึกสูง เราต้องการตึกที่สร้างยาก แต่เมื่อเราไปคุยกับคนอื่นสิ่งที่เขาจำเราได้กลับเป็นสิ่งที่เราเรียกว่าโบราณ เหมือนกับว่าเรากำลังจะหนีจากสิ่งที่คนอื่นกำลังจะจำ” เขาวรรคคำพูดชั่วอึดใจ “เราต้องทำการอนุรักษ์ให้เป็นกิจจะลักษณะเช่นว่าที่ซิดนีย์ เพราะผมคุ้นเคยมากที่สุด เขาจะมีชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่ ก็สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดอีเวนต์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมการแสดง ชมวิถีชีวิต ซึ่งพวกเขาได้เงินเยอะมาก ได้รับเกียรติ คือมันเป็นอาชีพที่เขาอยากจะเป็น ในทางกลับกันครูสอนรำไทย สอนโขนบ้านเรากลับมีรายได้น้อย แต่คนรวยกลับเป็นนักธุรกิจ มันน่าจะเปลี่ยนกัน อย่างแรกเลยเราน่าจะเปลี่ยนการให้ค่ากับระดับแล้วมันจะดีเอง เช่น คนที่รำไทยแล้วรู้ว่าเขาทำงานที่มีคุณค่าและได้เงินเลี้ยงตัวเองได้ด้วย ถ้าเป็นแบบนี้เป็นใครก็อยากทำ” ณัฏฐ์ แสดงทัศนะ

การเสพความงามเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัว ดังนั้นณัฏฐ์ก็เที่ยวตามรสนิยมของตัวเอง

พระเอก สถาปนิก นักเดินทาง ณัฏฐ์ กิจจริต

 

“ผมชอบบ้านเมืองที่ตึกยังเตี้ยๆ อย่างนิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ไม่มีอะไรเลยนะแต่ว่าสวย สวยเพราะบ้านเมืองยังไม่มีตึกสูง แต่ละบ้านไม่มีรั้ว ไม่มีขอบเขตชัดเจน มันเป็นเสน่ห์ที่ครั้งหนึ่งบ้านเราเคยเป็น แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ตอนนี้ทุกบ้านต้องมีรั้วเพราะกลัวขโมยขึ้น แต่ผมชอบอะไรที่มันเรียบง่าย”

ทริปล่าสุดเขาเปิดประสบการณ์ไปแบกเป้เที่ยวเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยเจาะเที่ยวที่จอร์จทาวน์ “ผมดูรายการของพี่เรย์ แมคโดนัลด์ มานานก็เลยอยากลองแบ็กแพ็กเองสักครั้ง” ณัฏฐ์ เริ่มเล่าประสบการณ์ “ตอนนั้นตั้งงบไว้ที่ 7,000 บาท ไปกับเพื่อนอีก 1 คน เราเริ่มต้นโดยการไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง ซื้อตั๋วไปสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ ในตั๋วเขียนว่าใช้เวลาเดินทางแค่ 8-10 ชั่วโมง แต่พอตื่นขึ้นมานึกว่าจะถึงแล้วแต่ไม่ใช่ สรุปมันใช้เวลาไป 18 ชั่วโมง กลายเป็นสนิทกับคนไปทั้งโบกี้”

พอไปถึงจอร์จทาวน์ สิ่งแรกที่ณัฏฐ์พกติดมือคือแผนที่ตามหางานศิลปะบนผนัง เขาบอกว่ามันเหมือนเกมตามล่าสมบัติที่ต้องเดินหาให้ครบทุกจุด “บ้านเมืองที่จอร์จทาวน์มันผสมหลายอย่าง ทั้งสีจัดจ้าน อิทธิพลของจีน อิสลาม รวมเข้ากันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง”

พระเอก สถาปนิก นักเดินทาง ณัฏฐ์ กิจจริต

 

การเป็นแบ็กแพ็กเกอร์ครั้งแรกใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ทำให้ได้เที่ยวแบบไร้แผนเปลี่ยนโฮสเทลไปเรื่อยๆ พกกางเกงไปตัวเดียว (อยากเหมือนพี่เรย์)และที่ลืมไม่ลงคือ ตกรถไฟไม่ได้กลับกรุงเทพฯ จึงตัดสินใจเหมารถตู้จากหาดใหญ่ขึ้นกรุงเทพฯ เพื่อมาเรียนให้ทันเป็นสาเหตุทำให้งบบานปลาย และไม่จบทริปแบบแบ็กแพ็กเกอร์เท่าไรนัก

สำหรับทริปในฝัน ณัฏฐ์ อยากไปทะเลสาบวานากา (Lake Wanaka) เมืองวานากาประเทศนิวซีแลนด์ เขาเล่าว่ามันคือภาพต้นไม้ต้นเดียวกลางน้ำที่คนชอบใช้เป็นวอลเปเปอร์คอมพิวเตอร์ เขาไปสรรหาว่าภาพนั้นคือที่ไหน และอยากไปให้เห็นด้วย
ตัวเองสักครั้ง

โลกของณัฏฐ์

ถ้ามีโลกของตัวเองหนึ่งใบ ณัฏฐ์อยากให้โลกใบนั้นเป็นอย่างในโลกปัจจุบัน แต่อยากให้ตัวเองเกิดเร็วกว่านี้สัก 50 ปี ก่อนที่ทุกอย่างจะพัง

“โลกมันก็ดีด้วยตัวของมันแต่ผมอยากสัมผัสและเข้าใจคำบางคำที่ผู้ใหญ่พูดอย่างคำว่าติดโทรศัพท์ทำไม รวมถึงสภาพบ้านเมืองสังคมรอบตัวเรา อยากรู้ว่าก่อนหน้านี้มันเป็นยังไง”

ตอนนี้ณัฏฐ์เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ซึ่งแม้ว่าจะมีโปรเจกต์เป็นการบ้านที่ต้องทุ่มเท เขาก็ยังไม่ทิ้งงานวงการบันเทิง แต่ไม่ใช่เพราะอยากดังหรืออย่างไร เขาอยากทำงานเพราะไม่อยากขอเงินพ่อแม่ จึงยินดีที่จะเหนื่อยกว่าคนอื่นแล้วทำทั้งสองอย่างให้มันดีที่สุด

ถามว่าในอนาคตณัฏฐ์อยากเป็นดาราหรือสถาปนิก เขาก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ ขึ้นอยู่กับโอกาสที่จะเข้ามา ซึ่งใจจริงไม่อยากเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะพยายามรักษาทั้งสองอย่างไว้เหมือนที่ทำอยู่ทุกวันนี้

ติดตามการเดินทางของณัฏฐ์ได้ที่อินสตาแกรม natkitcharit และซีรี่ส์เรื่องแม่จ๋าอย่าหักโหม ทางช่องเวิร์คพอยท์