posttoday

วัดพนัญเชิง

12 กรกฎาคม 2557

เวลาที่มีโอกาสไปเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิงจะเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่จะต้องไปกราบสักการะ

เวลาที่มีโอกาสไปเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิงจะเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่จะต้องไปกราบสักการะหลวงพ่อโตแห่งวัดพนัญเชิง เป็นวัดที่นำความสัมพันธ์ของสองศาสนามารวมกันได้อย่างสวยงาม ผมมีโอกาสได้เข้าไปกราบสักการะหลวงพ่อโตแล้วมีโอกาสได้เข้าร่วมในพิธีห่มผ้าหลวงพ่อโต

ผมรู้สึกทึ่งในพิธีการนี้มากครับ ตั้งแต่การโยนผ้าจีวรขึ้นไปให้กับทีมงานที่ขึ้นไปคอยรับผ้าอยู่บริเวณตักซึ่งมีความสูงที่ถือว่ามีความสูงพอสมควรเท่าที่ผมกะประมาณเองนะครับ เกือบเท่ากับตึกสองชั้น ณ บริเวณตักนะครับ ผิดพลาดขออภัยท่านผู้อ่านนะครับ แต่ได้เห็นเทคนิคการโยนผ้าทั้งผู้โยนและผู้รับคงต้องฝึกฝนกันพอสมควรเพราะขนาดและน้ำหนักของผ้าถือว่าหนักพอสมควรทีเดียว ความสูงบวกความแม่นยำในการโยนผมถือว่ายากมากทีเดียว

ขณะเดียวกันการสร้างบรรยากาศขณะโยนก็มีความสนุกสนานและเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา เพราะผู้โยนกับผู้รับจะกล่าวคำอวยพรดีๆ ติดมุขตลกนิดหน่อย หรือแม้แต่การโชว์เทคนิคการโยนในแบบต่างๆ ก่อให้เกิดความสนุกสนานตามสมควร ขั้นตอนการส่งผ้าขึ้นไปห่มองค์หลวงพ่อโตแล้วส่งชายผ้ากลับลงมาให้ผู้ที่เข้าไปกราบสักการะนำมาคลุมหัวพร้อมคำอธิษฐาน ทำให้รู้สึกถึงความศรัธาและมีมนต์ขลังอย่างมากเลยครับ

จากนั้นก็จะดึงผ้าขึ้นไปเก็บแล้วนำไปเข้าสู่ขบวนการจัดเก็บเพื่อนำมาพับผ้าใหม่ ซึ่งต้องมีขั้นตอนที่ชำนาญมากนะครับ ผมแอบเดินไปด้านหลังหลวงพ่อโตเห็นการนำผ้ามาคลี่ออกซึ่งต้องใช้พื้นที่และกำลังคน แค่ลากผ้าก็ต้องใช้คนที่ชำนาญและเทคนิคการพับที่เชี่ยวชาญ

 ผู้คนที่ทำหน้าที่นี้ล้วนแต่เป็นผู้สูงอายุผสมกับเด็กเยาวชนมารวมกันอย่างลงตัวครับ สำหรับนักถ่ายภาพในการเก็บบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ นั้น การใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การใช้ความไวชัตเตอร์ที่เหมาะสม ทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของผ้าให้เป็นภาพไหวเบลอจะสร้างเสน่ห์ให้กับภาพได้ดีทีเดียวครับ... ผมเดินผ่านด้านหลังหลวงพ่อโตได้พบกระดานชนวนที่พิมพ์ข้อความประวัติหลวงพ่อโตโดยสังเขป ผมเลยขออนุญาตคัดลอกมาเล่าสู่ท่านผู้อ่านนะครับ

วัดพนัญเชิง

 

วัดพนัญเชิง เป็นวัดเก่าสร้างสมัยเมืองอโยธยาเป็นราชธานี ก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี พระเจ้าดวงเกรียงกฤษณราช (พระเจ้าสายน้ำผึ้ง) ครองเมืองเสนาราชนครตั้งอยู่ปากน้ำแม่เบี้ยเป็นผู้สร้างวัดนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางสร้อยดอกหมาก พระเจ้าศรีธรรมโศกราช (สมเด็จพระเอกาทศรฐ) เป็นผู้สร้างพระเจ้าพะแนงเชิง คือ องค์พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) สร้างก่อนกรุงศรีอยุธยา 26 ปี สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระเจ้าสายน้ำผึ้งผู้เป็นพระอัยยกา นามเดิมหลวงปู่โตเรียกว่า พระเจ้าพะแนงเชิง ในรัชกาลที่ 4 คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก

จึงได้นามมาตลอดปัจจุบันนี้ พระมหากษัตรได้อุปถัมภ์ตลอดมาโดยลำดับ วัดนี้เป็นพระอารามหลวงมาแต่สมัยโบราณ และปัจจุบันนี้ก็เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ คือ องค์พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) และพระพุทธรูปทองสมัยสุโขทัยประดิษฐานในพระอุโบสถ 2 องค์ จึงเป็นที่เคารพและสักการะทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

วัดพนัญเชิงเป็นวัดเก่ามานาน เสนาสนสงฆ์และปูชนียสถานได้ชำรุดทรุดโทรมไปเป็นอันมาก ทางคณะสงฆ์และทางราชการได้ช่วยกันบูรณปฏิสังขรมาโดยลำดับ ตลอดปัจจุบันนี้ก็ได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์อยู่เสมอ

 วัดพนัญเชิงตั้งอยู่บนคลองสวนพลู ริมฝั่งแม่น้ำแควป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แวะมากราบหลวงพ่อโตมาเข้าพิธีห่มผ้าสร้างสิริมงคลให้กับชีวิตกันนะครับ

วัดพนัญเชิง

 

วัดพนัญเชิง

 

วัดพนัญเชิง