เลือกตั้ง66:จับตา กลเกม ยุบพรรคการเมือง ตามหลอกหลอน
ยามการเมืองเข้าโหมด ช่วงชิงความได้เปรียบ ส่งผลต่อ กระดานอำนาจและการเปลี่ยนแปลง มักมีสิ่งหนึ่งเกิดเสมอ ‘การยุบพรรคการเมือง’ พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ชาติไทย มัชฌิมาธิปไตย ประชาธิปัตย์ อนาคตใหม่ ต่างเคยสัมผัสประสบการณ์ลุ้นระทึก ผลที่ออกมามีทั้ง ‘ร่วง’ และ ‘รอด’
จับตา ยุบพรรคการเมือง ตามหลอกหลอน
ย้อนถอยหลังไปร่วม 20ปี หากการเมืองเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงชิงความได้เปรียบ ส่งผลต่อ กระดานอำนาจและการเปลี่ยนแปลง มักมีสิ่งหนึ่งเกิดเสมอ ‘การยุบพรรคการเมือง’ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ ต่างเคยสัมผัสประสบการณ์ลุ้นระทึกจาก ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มาแล้วทั้งสิ้น
ผลสุดท้ายที่ออกมา มีทั้ง ‘ร่วง’ และ ‘รอด’ บางพรรค ได้พรรคใหม่ ปรับกลยุทธ์ ลงสู้ศึกสนามเลือกตั้งต่อไป บางพรรค หายจากสารบบการเมืองไปเลย บางพรรค รอดพ้น ทำการเมืองในนามพรรคตัวเองต่อไป
ก่อนการเลือกตั้ง 14พ.ค.66 เริ่มมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กลเกมการยุบพรรค ถูกพูดกันในวงกว้าง เมื่อไปไล่เรียงดู เท่าที่พอปรากฎผ่านสื่อรายวัน ได้เห็น บรรดานักร้องที่คุ้นหูทางการเมือง ‘เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ’ ‘ศรีสุวรรณ จรรยา’ ‘ณฐพร โตประยูร’ ‘สนธิญา สวัสดี’ หรือแม้แต่ ตัวแทนพรรคการเมือง ผุู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทยอยยื่นเอาผิด พรรคการเมืองต่างๆ หลายกรณีหวังเอาผิดถึงขั้น ขอให้ คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ไต่สวน สอบสวน หากมีมูลส่งต่อให้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยยุบพรรคนั้นๆไปเลย
เมื่อไล่เรียงประเด็นต่างๆ ที่ปรากฎเป็นข่าว หลายเรื่องหลายราวก็น่าสนใจ จับตามอง ที่อาจส่งผลต่อกระดานการเมืองใหญ่ ทั้งตัวบุคคลและพรรคการเมือง
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.66 ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 มีคำสั่งให้ "วินัย พ้นภัยพาล" หรือ " กำนันนัย " นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา พร้อมด้วย 6 สมาชิก ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมเหตุ "กกต." ยื่นฟ้องทุจริตการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564
"กำนันนัย" หนึ่งใน สมาชิกกลุ่มบ้านใหญ่ชลบุรี ภายใต้แม่ทัพใหญ่ "สนธยา คุณปลื้ม" แกนนำพรรคเพื่อไทยและผู้กว้างขวางชลบุรีและภาคตะวันออก คอยบัญชาการสมรภูมิเลือกตั้ง ย่านอ่างศิลาเป็นที่รู้กัน "กำนันวินัย" ถือเป็นคนสนิทของ "กำนันเป๊าะ" ดูแล "กำนันเป๊าะ" มาตลอดจนกระทั่งเสียชีวิต
เขตเลือกตั้งที่ 1 รอบนี้ เป็นการแข่งขันกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ที่มีผู้สมัครระหว่าง ‘น.ส.สุภีพันธุ์ หอมหวล’ หรือ "สจ.แอ้" พรรคเพื่อไทย กับ ‘น.ส.ณภัสนันท์ อรินทคุณวงษ์’ พรรครวมไทยสร้างชาติ น้องเมีย เฮ้ง "สุชาติ ชมกลิ่น" รมว.แรงงาน แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ กลุ่มบ้านใหม่ ที่กำลังสร้างบารมี วัดรอยเท้า กลุ่มบ้านใหญ่ ในเวลานี้
"สมชาย แสวงการ" สมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เนื้อหาที่เขาอ้างว่า เป็นแชทไลน์บทสนทนาของ "นายกฯ ท" เกี่ยวกับการชักชวนให้กลุ่มคนเสื้อแดง 6 จังหวัดกลับบ้านมาสนับสนุนพรรคช่วย ให้ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ในลักษณะถล่มทลายที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเหมือนในอดีต ซึ่งทำให้ถูกมองว่า น่าจะเป็นกรณี คนนอกเข้ามาสั่งการ ชี้นำ ในพรรคการเมืองหรือไม่
ทำให้ "ศรีสุวรรณ จรรยา" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นต่อกกต. พิจารณาเพื่อส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยชี้ขาด เนื่องจาก เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (1) และมาตรา 75 รวมถึงดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) (3) (4)
"เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ปราศรัยบนเวทีปราศรัย ที่ จ.นครพนม เกี่ยวกับนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย เรียกร้องให้ประชาชนอย่าเลือกพรรคดังกล่าว โดยกล่าวอ้างเหตุผล อาจจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับเข้ามาบริหารประเทศเหมือนห้วงเวลา 8 ปี ในอดีตที่ผ่านมา
"ศุภชัย โพธิ์สุ" อดีตรองประธานสภาฯ และอดีตส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย เข้าร้องเรียนกับ กกต.นครพนม ในฐานะเป็นผู้เสียหายจากคำปราศรัยของ เศรษฐา เตรียมดำเนินคดีเอาคืนกับ "ประเสริฐ จันทรรวงทอง" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตามกฎหมาย ฐานความผิดมาตรา 73 (5) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และมาตรา 101 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
"สมชัย ศรีสุทธิยากร" อดีตกกต. ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวอ้าง การปราศรัยของพรรคการเมืองหนึ่ง ได้มีการเก็บบัตรประชาชน ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ แต่กรณีนี้ กกต. ได้ออกเอกสารชี้แจง พร้อมยืนยันเป็นการดำเนินการของพรรคพลังประชารัฐ ในการเก็บข้อมูลสมัครสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2566 ที่เมื่อบันทึกเสร็จได้คืนบัตรประชาชนให้กับผู้มาร่วมกิจกรรม ภาพที่ปรากฏต่างเวลา ต่างสถานที่ รวมเป็นเรื่องเดียวกัน ขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
แม้ 'ปกรณ์ มหรรณพ' หนึ่งในกกต. ยืนยันกับผู้สื่อข่าว จะไม่มีการยุบพรรคก่อนการเลือกตั้งแน่นอน ขณะเดียวกันเจ้าตัวได้เปรยเป็นนัยๆไปอีกว่า อีก1-2วัน กกต. จะเปิดเผย มติบางอย่างออกมา
ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามว่า มติดังกล่าวจะมีผลอย่างหนึ่งอย่างใดกับพรรคการเมืองหรือไม่ นายปกรณ์ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถาม เลยทำให้สื่อมวลชนมองและเข้าใจได้ว่า มติของกกต. ที่จะมีขึ้นอาจส่งผลกับพรรคการเมืองบางพรรคแน่นอน
อย่างไรก็ดีนับแต่ก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จนถึงช่วง มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง มีคดีที่มีผู้ร้อง ทั้งที่เป็นตัวแทนพรรคการเมือง นักร้องขาประจำ หรือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมือง ยื่นขอให้กกต.ตรวจสอบ พรรคการเมืองชื่อดัง ที่อยู่ในสนามเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็น พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคการเมืองขนาดเล็ก
หลายเรื่องร้องเรียน หวังเอาผิดถึงขั้นยุบพรรค เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค แถมยังอาจโดนคดีทางอาญา ตามมาอีก หากท้ายสุด ศาลวินิจฉัยว่า 'ผิดจริง'
ยังเป็นประเด็น ต้องจับตากันต่อไป นับจากวันนี้ถึงวันเลือกตั้ง อาจยังไม่มีอะไร แต่หลังเลือกตั้ง ในช่วงของความ ขมุกขมัวทางการเมือง รวมเสียงตั้งรัฐบาล การต่อรอง ท่ามกลางการหักเหลี่ยมเฉือนคม คงไม่มีใครการันตรีได้เช่นกัน ปรากฎการณ์ยุบพรรค จะตามมาหลอกหลอน บางพรรคการเมือง อีกหรือไม่