posttoday

เลือกตั้ง66 : กกต.เรียกผู้ตรวจการชุดเคลื่อนที่เร็วปราบทุจริตเลือกตั้ง

28 เมษายน 2566

อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.ประชุมผู้ตรวจการชุดเคลื่อนที่เร็วหาข้อมูลข่าวสาร ปราบปรามการทุจริต เลือกตั้ง66

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และป้องกันปราบปรามการทุจริต โดยมี ผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 2,113 คน ประกอบด้วยผู้ตรวจการเลือกตั้งจำนวน 423 คนชุดเคลื่อนที่เร็ว 400 ชุดโดยจับประจำ 400 เขตเลือกตั้งจำนวน 1,239 คน ผู้บริหารกลุ่มภารกิจสืบสวนไต่สวนวินิจฉัยและดำเนินคดีในศาลและชุดปฏิบัติการข่าว (ส่วนกลาง) 11 ชุดชุดละ 3 คนจำนวน 66 คนผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานครจำนวน 77 คน รองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานครจำนวน 77 คน และชุดปฏิบัติการข่าวส่วนจังหวัด 77 ชุดชุดละ 3 คนจำนวน 231 คน 

นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายระเบียบประกาศหรือมติกกต.ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสนับสนุนการเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.ในการป้องปรามและหาข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิดในการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงองค์กรเอกชนที่จะ ร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งและได้รับความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ในการดูแลตรวจสอบเป็นหูเป็นตาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และพร้อมที่จะเป็นพยานในการสืบสวนไต่สวนเพื่อให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐานมาประกอบก็จะช่วยให้ กกต.สามารถทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาวินิจฉัย และนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้ การทำงานแบบบูรณาการร่วมกันย่อมจะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การเลือกตั้ง เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกกต.ที่จะดำเนินการอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม

ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ จะประกอบด้วย ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด ที่ปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 , ชุดเคลื่อนที่เร็ว มีภารกิจที่ต้องตามหาข่าวเฝ้าระวังการกระทำความผิดในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ โดยขอให้มุ่งเน้นการสืบสวนหาข่าวจากประชาชน จากผู้นำชุมชน จากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจะช่วยป้องปรามป้องกันความผิดที่จะเกิดขึ้นตลอดจนนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ  จะโดยชุดเคลื่อนที่เร็วจะมีในทุกจังหวัดรวมแล้ว 400 ชุด ชุดละ 3 คนซึ่งแต่งตั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ สัญญาบัตร 1 นาย และชั้นประทวน 2 นายเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยป้องปรามการกระทำความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งในการสรุปการวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว

โดยชุดเคลื่อนที่เร็วและผู้ตรวจการเลือกตั้งจะต้องทำงานร่วมกันประสานกันทำงานเพื่อให้เข้าถึงพิกัดของสถานที่ให้ได้โดยเร็วและใช้เวลาน้อย นอกจากนี้ยังมี กกต.ประจำจังหวัดจะเป็นหนึ่งในการผู้สืบสวนไต่สวนด้วยเมื่อได้รับข้อมูลเบื้องต้นจากผู้ตรวจการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นกลุ่มผู้นำชุมชนต้องทราบข้อมูลต่างๆเป็นอย่างดีและเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากเจ้าหน้าที่ของรัฐ
 
ประชาชนที่ต้องมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการเลือกตั้งด้วย เพราะจะทำให้ได้ผู้แทนที่มาบริหารประเทศบริสุทธิ์ ไม่ทุจริต ซึ่งประชาชนจะมีส่วนร่วมได้คือการชี้เบาะแสการกระทำผิดหากชี้เบาะแสจนนำไปสู่ตัวผู้กระทำความผิดได้จะได้รับเงินรางวัลเมื่อชี้เบาะแสแล้วสามารถมาขอให้คุ้มครองพยานได้เพราะอาจจะกลัวอิทธิพลในพื้นที่จะไม่กล้ามาเป็นพยาน ทั้งนี้ เมื่อถ้ากระทำผิดแล้วกลับใจ กกต.จะกันไว้เป็นพยาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดได้จริง ซึ่งมาเป็นพยานก็จะไม่ได้รับผิดในความผิดที่กระทำ

อีกส่วนคือองค์กรเอกชน ที่จะเป็นอาสาสมัครในการเผยแพร่ข้อมูลการเลือกตั้งและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนรวมทั้งตรวจสอบการทุจริตและความผิดทางกฎหมายถูกต้องด้วย ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้องค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในทางการเมือง