เลือกตั้ง66: ประชาธิปัตย์ดำเนินคดีคู่แข่งทำลายป้ายหาเสียง
ประชาธิปัตย์ โอดถูกทำลายป้ายหาเสียง ขอทุกฝ่ายรณรงค์เลือกตั้ง66 สร้างสรรค์ พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายหากไม่หยุดพฤติกรรมทำลายกัน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2566 นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าขณะนี้พบว่าป้ายหาเสียงของพรรคในเขตกรุงเทพมหานครบางพื้นที่โดนเก็บ หรือมีการทำลายป้ายให้เสียหาย ล่าสุดได้รับแจ้งจากนายธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางเขน (เฉพาะแขวงอนุสาวรีย์) เขตจตุจักร (เฉพาะแขวงจันทรเกษม และแขวงเสนานิคม)-เขตหลักสี่ (เฉพาะแขวงตลาดบางเขน) เบอร์ 5 ว่าป้ายของตนเองถูกเก็บและทำลายหลายป้าย จึงอยากให้ทุกพรรคการเมืองแข่งขันกันในกติกาบนแนวทางที่สร้างสรรค์และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน
นายธีรวิทย์ ระบุว่าป้ายที่ถูกทำลายอยู่บริเวณซอยรัชดา 36 แยก 11 มีการนำปากกามาขีดเขียนเพื่อทำลายป้ายและระบุว่าจะเลือกพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ทำแต่ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำก็อยากให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว
นอกจากนี้นายธีรวิทย์ ยังพบว่ามีการเก็บป้ายของตนเองลงในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในซอยพหลโยธิน 57 ตั้งแต่ปากซอย ซึ่งก็ได้มีการตรวจสอบแล้วว่าป้ายดังกล่าวไม่ได้มีการบดบังทัศนียภาพหรือบดบังการจราจรแต่เพียงอย่างใดจึงอยากร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ช่วยตรวจตรา ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่าเกิดจากฝีมือของใครซึ่งตนเองมีหลักฐานแล้วทั้งหมด หากยังไม่หยุดการกระทำดังกล่าวจะนำหลักฐานไปยื่นร้องเรียนต่อ กกต. ด้วย จึงขอวิงวอนให้ทุกพรรคการเมืองรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งอย่างสร้างสรรค์ ภายใต้กฎกติกา มารยาท และตามกฎหมาย เพราะถ้าผู้ที่อาสามาเป็นตัวแทนของประชาชนยังรณรงค์หาเสียงอย่างไม่สุจริต และถ้าได้ไปทำหน้าที่ ส.ส.แล้ว ก็ไม่สามารถเชื่อได้ว่าผู้นั้นจะทำงานได้อย่างซื่อสัตย์สุจริตเช่นเดียวกัน
นางดรุณวรรณ กล่าวต่อว่านายธีรวิทย์ เป็นผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรค มีพื้นฐานการเป็นนักกีฬาที่อยากนำความรู้มาช่วยพัฒนาเยาวชนและคนในพื้นที่ มีจิตสำนึกในการแข่งขันที่ต้องเคารพกติกาและมีน้ำใจเป็นนักกีฬา บางครั้งไปพบป้ายของคู่แข่งไม่เรียบร้อยก็ยังเข้าไปช่วยดูแลด้วยเช่นกัน
”การจงใจทำลายป้ายถือเป็นการทำผิดกฎหมายอาญา เนื่องจากป้ายหาเสียงในการเลือกตั้งถือเป็นทรัพย์สินของผู้สมัคร การปลดป้ายหาเสียงไปทิ้งทำลายจึงเป็นการทำให้เสียทรัพย์ หากยังพบว่ามีการทำลายหรือปลดป้ายอีก พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำผิดต่อไป”