เลือกตั้ง66: "ธรรมนัส" แซะ "เศรษฐา" ไม่จับขั้วพปชร.

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การจับมือจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอผลการเลือกตั้งก่อน ส่วนที่หลายพรรค ออกมาปฏิเสธว่าไม่จับมือกับคนนั้นคนนี้ แต่วันหนึ่งเมื่ออยากเป็นรัฐบาล ก็มานั่งผิดคำพูดตัวเองต่อสาธารณะ ในทางการเมือง มันก็ไม่เหมือนเดิม พร้อมฝากทุกท่านที่ออกมาพูดด้วย

อย่างกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดชัดเจน ถือเป็นการปิดประตูแล้วใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสย้อนถามว่า "คนที่ออกมาพูด มีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ บางคนเวลาไมค์จ่อปาก ก็พูดเอามัน ลืมไปว่า อ้าว ผมไม่ได้มีอำนาจ ในการตัดสินใจ เรื่องของพรรคเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค"

ส่วนทันที ที่รู้ผลเลือกตั้งใครจะเป็นผู้ประสานจัดตั้งรัฐบาล ต้องช่วยกัน ภายใต้นโยบายของหัวหน้าพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง และเชื่อว่าในทางการเมือง ก่อนปิดหีบก็จะรู้แล้วว่าใครจับมือกับใคร   

ส่วนกรณีผลโพล หลายสำนักประเมินว่า พรรคพลังประชารัฐน่าจะได้ 70 ที่นั่งนั้น ผลที่ออกมาเราก็นำมาทำการบ้าน แต่ก็ประเมินกันว่าผลน่าจะได้หลักร้อย และเรายังคงมั่นใจในตัว ส.ส. เขตเดิม และเชื่อว่า ตัวเลขจะใกล้ปี 62 เพราะเรามองว่าเขตเดิมที่เราเคยได้ ตอนนี้พื้นที่ยังคงแข็งแรง แม้ ส.ส.เก่าจะย้ายไปอยู่พรรคอื่น แต่เราก็หาคนใหม่มาลง และทำพื้นที่ จึงมั่นใจว่าเราจะสามารถรักษาแชมป์ได้ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่าหลายสำนัก ก็มองว่าเราน่าจะได้รองจากพรรคเพื่อไทย ใกล้เคียงกับพรรคภูมิใจไทย
 
นอกจากนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ยังเปิดเผยว่า ในช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐจะยกทัพใหญ่ไปปราศรัยในพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น ช่วงปลายเดือนจะไปสงขลานครศรีธรรมราช และต่อด้วย ขอนแก่น ร้อยเอ็ด  ส่วนที่ช่วงผลายเดือน พลเอกประยุทธ์ กับพลเอกประวิตร จะลงพื้นที่ชนกัน ที่ภาคใต้นั้น ย้ำว่า 28 เมษายน เราจัดปราศรัยใหญ่ที่สงขลา 29 เมษายน ที่นครศรีธรรมราช มันเป็นเรื่องการเมือง อย่าไปมองเป็นประเด็น และแผนการปราศรัยนี้เราทำไว้นานแล้ว 

ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชหนักใจหรือไม่ที่ ส.ส.ย้ายออกไป ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า น้ำเก่าออกไป น้ำใหม่เข้ามา มั่นใจว่าจะสามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้ และพื้นที่ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐก็ยังมีกระแสอยู่