posttoday

เลือกตั้ง66:เลขากกต. ย้ำแบ่งเขตเลือกตั้ง ทำตามกฎหมาย

20 มีนาคม 2566

แสวง บุญมี เลขาธิการกกต. พบ วิษณุ หารือ รัฐมนตรี รักษาการหลังยุบสภาฯ ทำอะไรได้บ้าง ไม่รู้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งวันใด ยัน กกต.ทำตามกฎหมาย แบ่งเขตเลือกตั้ง ไม่หวั่น พรรคการเมืองร้องศาล

วันที่20มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวภายหลัวจากการเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีว่า นายวิษณุ เชิญมาถามขั้นตอนหากยุบสภาแล้ว คณะรัฐมนตรีรักษาการจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไรได้บ้างตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ได้เดินทางมาเพื่อชี้แจงเรื่องนี้เพราะถือเป็นเรื่องใหม่ ตนไม่รู้ว่า จะมีการกำหนดวันเลือกตั้งวันใด มาคุยเรื่องมาตรา169 อย่างเดียว เรื่องวันเลือกตั้ง ให้ไปถาม กกต.ชุดใหญ่ คงจะประกาศวันเลือกตั้งหลังมีการยุบสภา

ถามว่า หากยุบสภาวันนี้ เป็นไปได้หรือไม่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 7 หรือ 14 พ.ค. นายแสวงกล่าวว่า วันเลือกตั้งอยู่ในช่วง 45-60 วันหลังยุบสภาฯ วันไหนก็ต้องไปดู ที่หลายคนห่วงบทบาทข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ จะวางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้งนั้น มีกฎหมายควบคุมเรื่องนี้เพียงพออยู่แล้ว คาดว่าเมื่อมีการยุบสภาฯไปแล้ว กกต.จะประชุมพิจารณาร่างประกาศที่เกี่ยวกับวันรับสมัครส.ส. การกำหนดวันเลือกตั้ง กำหนดเขตเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า พรรคการเมืองไปร้องเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งต่อศาลปกครองแล้ว ขอให้มีการคุ้มครองฉุกเฉิน จะกระทบทำให้วันเลือกตั้งต้องขยับออกไปหรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า เราเดินตามรัฐธรรมนูญ วันเวลาเป็นตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายให้ทำอย่างไรเราก็ทำอย่างนั้น สุดท้ายต้องรอดูการวินิจฉัยของศาลปกครองว่า ผลจะเป็นอย่างไร ทุกคนมีสิทธิใช้สิทธิ อย่าเพิ่งไปคาดคะเน คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร
 

ถามว่า ขณะนี้มีการร้องยุบพรรคหลายพรรค จะทำให้การเลือกตั้งสะดุดหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า เป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ผ่านมาทำตามกฎหมาย การแข่งขันอย่าไปกังวลอะไรถ้าเราไม่ได้ทำผิด เพราะกฎหมายให้การคุ้มครองทุกคนที่ไม่ได้กระทำผิด และเมื่อได้รับการร้องเรียนเราก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งกับผู้ร้องและผู้ถูกร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรัฐธรรมนูญมาตรา 169 มีเนื้อหาเกี่ยวกับกรณี คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 167 (2) และต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามมาตรา 168 ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(1) ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป เว้นแต่ที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี

(2) ไม่แต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำหรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นจากตำแหน่ง หรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน

(3) ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน

(4) ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดอันอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง และไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด