posttoday

ช้างศึกหัวใจบิ๊กไบค์

15 เมษายน 2560

ส่องบิ๊กไบค์คันรักคันหวงของ "ปีโป้" สิโรจน์ ฉัตรทอง และ "หนุ่ย" ศราวุฒิ มาสุข ดาวเตะดีกรีทีมชาติไทย

โดย...ชมณัฐ

กระแสรถมอเตอร์ไซค์ “บิ๊กไบค์” กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ไม่เว้นแม้แต่ในวงการฟุตบอล ซึ่งปัจจุบันมีพ่อค้าแข้งหลายรายที่หลงใหลในมนตร์ขลังของโลก 2 ล้อ รวมถึง “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง และ “หนุ่ย” ศราวุฒิ มาสุข ดาวเตะดีกรีทีมชาติไทยด้วยเช่นกัน

“ผมหลงใหลในรถบิ๊กไบค์มาเกือบ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ได้ลองจับครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 15-16 ซึ่งเป็นรถรุ่นพี่ ฮอนด้า เอสอาร์ 400 ซีซี แต่ผมจนไม่มีเงินจะซื้อ จึงได้แต่เก็บเป็นความฝันมาโดยตลอด” สิโรจน์ ย้อนความ

อย่างไรก็ตาม ศูนย์หน้าวัย 24 ปี ก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องฝันค้าง หลังจากที่ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด เมื่อปี 2016 และมีรายได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองที่แน่นอน จึงตัดสินใจสานต่อความฝันด้วยการถอย “ดูคาติ 899 พานิกาเล” สปอร์ตไบค์เจ้าแห่งความแรงที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 898 ซีซี มาเชยชมในราคา 7.49 แสนบาท

“พอได้เซ็นสัญญาก็เริ่มมีเงินมากขึ้น คันนี้ก็ชอบตั้งแต่แรกเห็น เพราะรูปทรงและสไตล์เท่ดี สีสวยดูดุดันมาก จึงตัดสินใจซื้อมาขี่ ซึ่งก็มีคนบอกเหมือนกันว่าเงินขนาดนี้ทำไมไม่เอาไปซื้อบ้านหรือเอาเงินไปทำอย่างอื่น แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ เพราะเหมือนคุยกันคนละแง่มุม ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าไม่ซื้อความสุขให้ตัวเองแล้วจะไปซื้อให้ใคร”

กองหน้าทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า แม้รถคันเก่งจะมีพละกำลังถึง 148 แรงม้า แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะเร่งความเร็วถึงจุดสูงสุด เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำให้ส่งผลกระทบต่ออาชีพนักฟุตบอล โดยส่วนใหญ่จะใช้งานเวลาขี่ไปซ้อมที่สโมสร หรือออกทริประยะสั้นเท่านั้น

“ส่วนใหญ่ผมก็ไม่ค่อยได้ขี่ไปไหนไกลๆ จะขี่ไปซ้อมหรือขี่เล่นใน จ.อุบลฯ ซึ่งที่นี่จะมีร้านที่รู้จักกันชื่อ เอชที มอเตอร์ (Ht Motor) คอยดูแลและให้คำปรึกษา เวลาผมเดินทางไปเก็บตัวทีมชาติหรือแข่งฟุตบอลจังหวัดอื่นก็จะฝากรถไว้ที่นี่ แล้วพี่ๆ เขาก็ช่วยดูแลให้อย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีพี่ในสโมสรอย่างพี่เปรมกับพี่ปาน (สุรีย์-สุรัตน์ สุขะ) ที่ขี่ดูคาติเหมือนกัน คอยพูดคุยและปรึกษาเรื่องนี้กัน” ปีโป้ ทิ้งท้าย

 

ช้างศึกหัวใจบิ๊กไบค์ ศราวุฒิ มาสุข

ไม่ต่างจาก ศราวุฒิ มาสุข ที่ปันใจให้ ดูคาติ มอนสเตอร์ 795 เครื่องยนต์ 803 ซีซี 87 แรงม้า ซึ่งถอยมาสำหรับออกทริปโดยเฉพาะ

“ผมเป็นคนชอบขี่มอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่เด็กแล้วโดยเฉพาะบิ๊กไบค์ ก่อนหน้านี้ตอนอายุ 20 ได้ซื้อคาวาซากิ นินจา 650 มาขี่ เพราะราคาไม่สูงมากและกำลังเงินเรามีเท่านั้น แต่พอเริ่มมีเงินก็อยากได้อีกคันไว้สำหรับเดินทาง พอได้ไปเห็นดูคาติ มอนสเตอร์ 795 ก็ถูกใจในสไตล์การออกแบบจึงได้ซื้อมาทันทีราคาเต็ม 4.4 แสนบาท แต่ดาวน์ไป 1 แสนกว่าบาท” เจ้าหนุ่ย ย้อนความ

แข้งวัย 26 ปี เล่าว่าหลังจากจบโปรแกรมทีมชาติ ทำให้มีเวลาว่างมากขึ้นจึงได้ออกทริปทางไกลตามที่เคยฝันไว้ โดยออกสตาร์ทที่บ้านพัก จ.นนทบุรี เรื่อยไปจนถึง จ.นครสวรรค์ ต่อด้วย จ.เชียงใหม่ พร้อมแวะชมความสวยงามของธรรมชาติที่ดอยม่อนแจ่ม, อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน, ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์, เขาใหญ่ จ.สระบุรี, จ.นครสวรรค์ และวกกลับสู่จุดเริ่มต้น เบ็ดเสร็จเป็นระยะเวลารวม 6 วัน 5 คืน

“มีความสุขและสนุกมาก ถือเป็นทริปทางไกลครั้งแรก ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของผมมานานแล้ว แต่ 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ผมไม่มีเวลาได้พัก เพราะจบจากสโมสรก็ต้องเก็บตัวทีมชาติ พอมีเวลาเลยไปกับเพื่อน 2 คัน การขี่มอเตอร์ไซค์ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศสองข้างทางได้เต็มอิ่มมากกว่าขับรถยนต์” ศราวุฒิ เผยความรู้สึก

กระนั้นด้วยภาระที่มากขึ้นในฐานะคุณพ่อมือใหม่ของ “น้องไออุ่น” ลูกสาววัยขวบเศษ ศราวุฒิจึงตัดสินใจขายรถสุดรักเพื่อเสียสละให้กับครอบครัวที่รักที่สุด

“พอมีลูกก็มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น อะไรที่ลดได้ก็ควรลด รวมถึงภรรยาก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยด้วย ซึ่งหลังจากจบทริปที่ฝันไว้แล้ว ผมจึงตัดสินใจขายรถคันนี้เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว โดยตอนนี้เหลือนินจากับรถยนต์นิสสัน เทียนา อย่างละคัน แต่ผมก็ยังมีความฝันว่าอยากได้ฮาร์เลย์ เดวิดสัน 48 หรือบีเอ็มดับเบิลยู จีเอส ไว้เดินทางไกลในอนาคตอีก”

เจ้าหนุ่ย ทิ้งท้ายถึงเพื่อนนักฟุตบอลที่มีหัวใจเดียวกันว่า อยากให้ทุกคนขี่รถโดยไม่ประมาท ไม่ขี่เร็วเกินไปจนเอารถไม่อยู่ ซึ่งหากใครอยากลองหรือยังเป็นมือใหม่ควรที่จะไปเรียนการขับขี่อย่างถูกวิธีเสียก่อน เพราะต้องใช้ร่างกายในการแบกน้ำหนักรถ และข้อเท้าคือสิ่งสำคัญที่นักฟุตบอลใช้หากิน หากไม่รู้วิธีที่ถูกต้องจะส่งผลกระทบต่ออาชีพได้