posttoday

"เฟด-ราฟา"มหากาพย์ชิงศึกเฟรนช์ภาค4

05 มิถุนายน 2554

หากเป็นมวยก็ถือว่าเป็นมวยถูกคู่ สำหรับการเจอกันของ “ราชาคอร์ตดิน” ราฟาเอล นาดาล กับ “เฟดเอ็กซ์” โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงชนะเลิศ “เฟรนช์ โอเพน”

หากเป็นมวยก็ถือว่าเป็นมวยถูกคู่ สำหรับการเจอกันของ “ราชาคอร์ตดิน” ราฟาเอล นาดาล กับ “เฟดเอ็กซ์” โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงชนะเลิศ “เฟรนช์ โอเพน”

หากเป็นมวยก็ถือว่าเป็นมวยถูกคู่ สำหรับการเจอกันของ “ราชาคอร์ตดิน” ราฟาเอล นาดาล (มือ 1 โลก/สเปน) กับ “เฟดเอ็กซ์” โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (3/สวิส) ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกเทนนิสแกรนด์สแลมที่ 2 ของฤดูกาล “เฟรนช์ โอเพน” ซึ่งดวลกันบนคอร์ตดิน ณ โรลองด์ การ์รอส กรุงปารีส, ฝรั่งเศส ในวันอาทิตย์นี้

 

"เฟด-ราฟา"มหากาพย์ชิงศึกเฟรนช์ภาค4 นาดาล-เฟเดอเรอร์

นาดาล ยอดนักหวดแดนกระทิง ดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม 9 สมัยนั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลงานในศึกเฟรนช์ฯ เนื่องจากเขาคือ เจ้าพ่อเคลย์คอร์ตที่ครองแชมป์มาถึง 5 สมัย (ปี 2005-2008, 2010) และหากทำสำเร็จในคราวนี้ ก็จะทำสถิติแชมป์ 6 สมัยเทียบเท่า บียอร์น บอร์ก ตำนานนักหวดชาวสวีดิช

แต่ก็ไม่ใช่ว่า นักหวดกล้ามโตถนัดซ้ายจะยุบไม่เป็นบนคอร์ตดิน เพราะก่อนจะถึงหวดเฟรนช์ฯ ราฟา เพิ่งโดน โนวัก โจโควิช (2/เซอร์เบีย) ที่ฟอร์มฮอตสุดในปีนี้ สยบถึง 2 ครั้งติดๆ ในรอบชิงชนะเลิศศึกระดับมาสเตอร์สที่กรุงมาดริด, สเปน และกรุงโรม, อิตาลี มาแล้ว

ขณะที่ เฟเดอเรอร์ เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลมถึง 16 สมัย ซึ่งหลายคนอาจมองว่า เฟดเอ็กซ์ อดีตมือ 1 โลก เริ่มขาดความท้าทายนับแต่สามารถผงาดชูโทรฟีแชมป์ศึกเฟรนช์ฯ เป็นครั้งแรกในชีวิตได้ซะที หลังเอาชนะ โรบิน โซเดอร์ลิง (4/สวีเดน) ในรอบชิงชนะเลิศ ปี 2009

แต่ขึ้นชื่อว่า เฟด นั้น หากไร้อาการบาดเจ็บรบกวนแล้ว มาตรฐานการเล่นของเขาสูงโด่ตลอด มิฉะนั้นคงไม่เป็นผู้ที่ยัดเยียดความปราชัยครั้งแรกปีนี้ให้แก่ โจโควิช พร้อมกับหยุดสถิติชนะรวดของหนุ่มเซิร์บตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2011 ไว้ที่ 41 แมตช์ ชวดทำสถิติ 42 แมตช์ เทียบเท่า จอห์น แม็คเอนโร ตำนานนักหวดสหรัฐที่ทำไว้เมื่อปี 1984

ทั้ง เฟด และ ราฟา ต่างก็กวาดแกรนด์สแลมมาได้ครบหมดทั้ง 4 รายการ (ออสเตรเลียน โอเพน, เฟรนช์ โอเพน, วิมเบิลดัน, ยูเอส โอเพน) แล้ว ทว่าความกดดันน่าจะอยู่ที่ นาดาล ซะมากกว่า เพราะนี่เป็นการเล่นบนคอร์ตที่เขาถนัดที่สุด แถมไม่เคยเสียท่าให้ เฟเดอเรอร์ ในศึกเฟรนช์ฯ แม้แต่ครั้งเดียว จากการเคยเจอกันในรอบชิงฯ 3 ครั้ง (ปี 2006-2008) และรอบตัดเชือก 1 ครั้ง (2005)

ณ เวลานี้ ฟันธงไม่ถูกจริงๆ แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้รู้ว่า ราฟา จะย้ำชัยพร้อมนั่งแท่นราชาต่อไป หรือจะโดน เฟด สอยร่วงพร้อมชำระแค้นซะที

บ้าพลัง VS มันสมอง...ต้องวัดกันบนคอร์ต

ก่อนที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกแกรนด์สแลมคอร์ตดิน “เฟรนช์ โอเพน 2011” ระหว่างมือ 1 โลก ราฟาเอล นาดาล (มือวาง 1/สเปน) กับอดีตมือ 1 โลก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (3/สวิส) ในวันนี้ เชื่อว่าหลายคนที่เห็นการจัดแบ่งสายประกบคู่กันตั้งแต่รอบแรก คงคาดเดากันว่า ราฟา คงเดินหน้าโชว์พลังถล่มคู่แข่งแหลกราญแบบวันเวย์ โดยอาจจะต้องเหนื่อยบ้างก็แค่รอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบตัดเชือกเท่านั้น

แต่ โรบิน โซเดอร์ลิง (5/สวีเดน) คู่ต่อกรรอบ 8 คนสุดท้าย ที่แม้เคยสอย นาดาล ร่วงรอบ 4 มาแล้วเมื่อปี 2009 คราวนี้ก็ไม่ท็อปฟอร์มพอที่จะหยุดนักหวดกล้ามโตจากแดนกระทิงได้ รวมทั้งก้างขวางคอในรอบรองชนะเลิศอย่าง แอนดี เมอร์เรย์ (4/สกอตแลนด์) ที่พกอาการเจ็บข้อเท้าลงเล่น ก็ยิ่งแล้วใหญ่ ทำให้ นาดาล เคี้ยวนิ่มๆ สบายๆ 6-4, 7-5, 6-4

 

"เฟด-ราฟา"มหากาพย์ชิงศึกเฟรนช์ภาค4 นาดาล

เท่ากับว่า “ราชาคอร์ตดิน” นาดาล หืดจับที่สุดก็คือ รอบแรก กับ จอห์น อิสเนอร์ (สหรัฐ) นักหวดก้านยาวเสิร์ฟหนัก โดยต้องเล่นถึง 5 เซต แถมโดนนำก่อน 2-1 เซตด้วย แต่หลังจากนั้น ราฟา ไม่ยอมเสียเซตให้ใครอีกเลย

“การเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศคือสิ่งที่ผู้คนต่างฝันถึง ผมมีความสุขจริงๆ ที่ได้เข้าไปเล่นรอบชิงฯ ทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญที่สุดของโลกรายการหนึ่งบนคอร์ตดิน ผมเจอปัญหายุ่งยากมาก่อนหน้านี้ แต่ผมลืมมันหมดแล้ว พร้อมกับมีความเชื่อมั่นมากขึ้นด้วย” นาดาล ที่โชว์พลังเหลือเฟือวิ่งไล่หวดทุกลูกบนคอร์ตชนิดไม่กลัวเจ็บ กล่าว

นอกจากนี้ ราฟา แชมป์ศึกเฟรนช์ฯ 5 สมัย ที่เพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 25 ปีเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังบอกอีกว่า เขาไม่ได้สนใจที่จะทำสถิติแชมป์ 6 สมัยเทียบเท่ากับ บียอร์น บอร์ก อดีตมือ 1 โลกผู้ยิ่งใหญ่ชาวสวีดิช แต่ขอมุ่งมั่นกับเกมและเล่นให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยที่ โรลองด์ การ์รอส เท่านั้น

ด้านเส้นทางในสายของ “เฟดเอ็กซ์” เฟเดอเรอร์ มีโอกาสชนกับ “โนเล” โนวัก โจโควิช (2/เซอร์เบีย) แบบเต็มๆ ในรอบตัดเชือก ซึ่งดูยังไงก็หนักกว่าสายของ นาดาล แล้วยิ่งฟอร์มของ โนเล ในปีนี้ ใครๆ ก็พากันซูฮก เพราะชนะมา 41 แมตช์ติดต่อกัน ยังไม่แพ้ใครเลย (หากรวมที่ชนะ 2 แมตช์ ช่วยทีมชาติเซอร์เบียผงาดคว้าแชมป์เดวิส คัพ ก็จะเท่ากับ 43 แมตช์รวด) พร้อมกับกวาดไปถึง 7 แชมป์โดยไม่เกรงใจใครอีกด้วย

เฟเดอเรอร์ พยายามเก็บพลังไว้รอหวดกับ โจโควิช ด้วยการชนะมาดะตั้งแต่รอบแรกยันรอบ ก่อนรองชนะเลิศ โดยไม่เสียแม้แต่เซตเดียว แม้การเจอกับ กาเอล มงฟิลส์ (9/ฝรั่งเศส) รอบ 8 คน กองเชียร์เจ้าถิ่นจะเข้ามาเชียร์ มงฟิลส์ สร้างความกดดันอย่างไร แต่ยอดนักหวดสวิสก็นิ่งพอที่จะผ่านไปได้ไม่ยากเย็นนัก มีแค่ออกแรงเล่นไทเบรกในเซต 3 เท่านั้น

และแล้วเมื่อถึงรอบตัดเชือก เฟเดอเรอร์ ก็งัดฟอร์มเทพเหมือนเมื่อสมัยเรืองอำนาจนั่งบัลลังก์โลก ด้วยการดับซ่า โจโควิช ลงได้แบบค่อนข้างพลิกความคาดหมาย เนื่องจากหนุ่มเซิร์บกำลังมีความมั่นใจสุดๆ ที่จะขึ้นเป็นมือ 1 โลกทันที หากผ่าน เฟด เข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่ก็ต้องฝันสลายในที่สุด หลังแพ้ เฟเดอเรอร์ 6-7, (5/7), 3-6, 6-3, 6-7 (5/7)

เฟเดอเรอร์ มองถึงรอบชิงฯ เฟรนช์ โอเพน ว่าตัวเขามีโอกาสเป็นฝ่ายชนะคว้าแชมป์ได้เช่นกัน  

“เราเพิ่งเล่นแมตช์ที่ยิ่งใหญ่กันมาในมาดริด มาสเตอร์ส ปีนี้ (เฟเดอเรอร์ ได้เซตแรก แต่แพ้ นาดาล 1-2 เซต รอบรองชนะเลิศ) จึงเห็นได้ชัดว่า ผมต้องใส่สุดฝีมือในการเล่นกับเขา และทุกคนต่างรู้ดีเมื่อต้องเจอกับ ราฟา ที่ปารีส ผมคงต้องงัดเอาฟอร์มที่เฉียบเป็นพิเศษออกมาสู้” เฟด วัย 29 ที่มักอ่านเกมคู่ต่อสู้ก่อนหวดสวนกลับ กล่าว

ทั้งนี้ โจโควิช ได้ขอถอนตัวจาก “ควีนส์ คลับ” (วันที่ 6-12 มิ.ย.) รายการอุ่นเครื่องก่อนศึกแกรนด์สแลมที่ 3 ของซีซั่น “วิมเบิลดัน” ซึ่งดวลกันบนคอร์ตหญ้า ที่กรุงลอนดอน, อังกฤษ วันที่ 20 มิ.ย.-3 ก.ค.นี้ เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเอ็นหัวเข่าและอยากพัก ขณะที่ เมอร์เรย์ ก็ส่อแววถอนตัวตามด้วย เพราะข้อเท้ายังเดี้ยงอยู่เช่นกัน 

นาดาลรับไม่ง่าย-เฟดเชื่อมีโอกาส

การเจอกันของ นาดาล กับ เฟเดอเรอร์ ในนัดชิงชนะเลิศ เฟรนช์ โอเพน ปีนี้ น่าจะเป็นการดวลลูกสักหลาดสุดคลาสสิกอีกแมตช์หนึ่งของวงการเทนนิสโลกเลยทีเดียว

 

"เฟด-ราฟา"มหากาพย์ชิงศึกเฟรนช์ภาค4 เฟเดอเรอร์

นาดาล มีสถิติ ชนะถึง 44 แพ้แค่ 1 ครั้ง ในศึกเฟรนช์ฯ นับแต่ปี 2005 (พ่าย  โซเดอร์ลิง รอบ 16 คน ปี 2009) แถมยังเล่นแค่ 3 เซต เอาชนะ เมอร์เรย์ ในรอบรองชนะเลิศ จึงน่าจะมีพลังเหลือเฝือ ทั้งที่เดิมทีก็มีมากจนล้นเหลืออยู่แล้ว

“เมื่อครั้งที่ผมชนะแมตช์แรกที่นี่ (เฟรนช์ โอเพน) ตอนอายุ 18 ผมคิดแค่ว่า โอ้! ผมชนะมา 1 แมตช์แล้ว และเดี๋ยวนี้มันดูง่ายขึ้นในการเล่นอาชีพ แต่ผมบอกได้เลยว่า มันไม่ง่ายเสมอไป หากเป็นฝ่ายชนะ ก็จะเพิ่มความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะย่อมต้องการชนะในแมตช์ต่อๆ ไปอีก จนกระทั่งเข้าถึงรอบชิงฯ ก็ยังคงปรารถนาชัยชนะอยู่ไม่รู้จบ แล้วก็จะวนซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ ในรายการต่อๆ ไป ซึ่งผมก็ยังคงรู้สึกแบบนั้น”          

ขณะที่ เฟเดอเรอร์ ซึ่งเหนื่อยล้ากว่า โดยต้องเล่นถึง 4 เซต (ไทเบรก 2 เซต) ก่อนเอาชนะ โจโควิช รวมทั้งยังเป็นการเข้าชิงระดับแกรนด์สแลมครั้งแรก นับแต่คว้าแชมป์ศึกออสเตรเลียนฯ ปี 2010 ทว่าด้วยฝีมือในแมตช์กับ โจโควิช น่าจะเป็นที่ประจักษ์ตาแก่ผู้ชมและแฟนๆ เทนนิสได้เป็นอย่างดีว่า เฟด สามารถกลับมาสู่ช่วงขาขึ้นได้อีกครั้ง

“ผมคิดว่ามันเป็นการดวลกัน (กับโจโควิช) ด้วยฟอร์มที่สุดยอดทั้งคู่และนานมากทีเดียว ผมกำลังเล่นได้ดี แม้จะเริ่มต้นเซตแรกด้วยการเบรกกันไปเบรกกันมา เขาสามารถรีเทิร์นลูกได้ดี แถมยังหนักหน่วงรุนแรงมาก และมีโอกาสที่จะเบรกเกมเสิร์ฟของผมได้ตลอด ตอนนี้ร่างกายของผมสมบูรณ์เต็มที่สำหรับรอบชิงชนะเลิศ ผมจึงคิดว่ามีโอกาสที่จะเอาชนะ ราฟา พร้อมคว้าแชมป์ได้แน่” 

ผลงานเจอกันมาทั้งหมด 24 ครั้ง

ราฟาเอล นาดาล ชนะ 16 แมตช์ (คอร์ตดิน 11, ฮาร์ตคอร์ต 4, คอร์ตหญ้า 1)

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ชนะ 8 แมตช์ (คอร์ตดิน 2, ฮาร์ตคอร์ต 4, คอร์ตหญ้า 2)

เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกเฟรนช์ โอเพน 2011

ราฟาเอล นาดาล (1/สเปน) แชมป์แกนด์สแลม 9 สมัย – ออสเตรเลียน โอเพน (2009), เฟรนช์ โอเพน (2005-2008, 2010), วิมเบิลดัน (2008, 2010), ยูเอส โอเพน (2010)

รอบแรก ชนะ จอห์น อิสเนอร์ (สหรัฐ)
6-4, 6-7 (2/7), 6-7 (2/7), 6-2, 6-4

รอบสอง ชนะ พาโบล อันดูจาร์
(สเปน) 7-5, 6-3, 7-6 (7/4)

รอบสาม ชนะ อันโตนีโอ เวอิค (โคร
เอเชีย) 6-1, 6-3, 6-0

รอบ 16 คน ชนะ อิวาน ลูบิซิช (โคร
เอเชีย) 7-5, 6-3, 6-3

รอบ 8 คน ชนะ โรบิน โซเดอร์ลิง
(5/สวีเดน) 6-4, 6-1, 7-6 (7/3)

รอบรองชนะเลิศ ชนะ แอนดี เมอร์
เรย์ (4/สกอตแลนด์) 6-4, 7-5, 6-4

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (3/สวิตเซอร์แลนด์) แชมป์แกนด์สแลม 16 สมัย – ออสเตรเลียน โอเพน (2004, 2006, 2007, 2010), เฟรนช์ โอเพน (2009), วิมเบิลดัน (2003-2007, 2009), ยูเอส โอเพน (2004-2008)

รอบแรก ชนะ เฟลิเซียโน โลเปซ
(สเปน) 6-3, 6-4, 7-6 (7/3)

รอบสอง ชนะ แม็กซิเม ไทไซรา
(ฝรั่งเศส) 6-3, 6-0, 6-2

รอบสาม ชนะ แยนโค ทิปซาเรวิช
(29/เซอร์เบีย) 6-1, 6-4, 6-3

รอบ 16 คน ชนะ สแตนนิสลาส วาริน
กา (14/สวิส) 6-3, 6-2, 7-5

รอบ 8 คน ชนะ กาเอล มงฟิลส์
(9/ฝรั่งเศส) 6-4, 6-3, 7-6 (7/3)

รอบรองชนะเลิศ ชนะ โนวัก โจโควิช
(2/เซอร์เบีย) 7-6, (7/5), 6-3, 3-6, 7-6 (7/5)  

ยอดนักหวดทั้งสองต่างมีดีด้วยกัน โดย นาดาล ชำนาญในการเคลื่อนที่บนคอร์ตดิน จนราวกับว่ามีตัวเขาอยู่ทั่วสนามไปหมด ไม่ว่าคู่ต่อสู้ตีลูกไปตกตรงไหน หากเขาไม่ล้มร่วงลงกับพื้น ก็จะตามไปตีโต้กลับไปได้หมด เรียกว่า พลังและความแข็งแกร่งเหลือเฟือ (ระวังเข่าพังบ้างก็แล้วกัน) แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องจะเสียมือ 1 โลกด้วย เพราะ เฟด ช่วยสกัด โจโควิช ไว้ให้แล้ว

ส่วน เฟเดอเรอร์ เล่นด้วยลีลาที่สวยงาม โดยเฉพาะการยิงวินเนอร์ด้วยแบ็กแฮนด์มือเดียวขนานเส้น ดูเมื่อไหร่ก็ช่างสวยงามไม่มีที่ติจริงๆ รวมทั้งพักนี้เสิร์ฟได้เยี่ยมด้วย แถมยังคอยจับทางอ่านเกมคู่แข่งตลอด หากเขาเล่นได้เหมือนแมตช์รอบตัดเชือก น่าจะเบียดกันมันหยดติ๋งๆ ไปเลย

โอกาสคว้าแชมป์มีพอกัน ซึ่งคงต้องมีเรื่องของบุญวาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องพอสมควรทีเดียว (ลืมดูดวงของทั้งคู่ จึงบอกไม่ได้ว่าใครมีโชคกว่ากัน)