พรีเมียร์กระเป๋าแฟบ ตลาดนักเตะ ม.ค. 2010 ทำสถิติเงียบที่สุด

ทั้งที่เป็นช่วงเปิดตลาดนักเตะกลางฤดูกาล แต่ปีนี้การซื้อขายนักเตะในพรีเมียร์ลีกกลับเงียบยิ่งกว่าเป่าสาก

ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา สโมสรต่างๆในพรีเมียร์ลีกเสริมทัพนักเตะเป็นเงินน้อยที่สุดนับตั้งแต่ระบบเปิดตลาดกลางฤดูกาลเริ่มต้นใช้เมื่อปี 2003 โดยในปีนั้นมีการใช้เงิน 35 ล้านปอนด์ (ราว 1,855 ล้านบาท)

หนังสือพิมพ์เดลิเมล์รายงานว่า ปีนี้เหลือเพียง 32 ล้านปอนด์ (ราว 1,696 ล้านบาท) ใกล้เคียงกับตัวเลขตามรายงานของดีลอยต์คือ 30 ล้านปอนด์ (1,590 ล้านบาท) และคิดเป็นเพียง 17.6% ของการเสริมทัพเมื่อเดือนม.ค.ปีที่แล้ว

แดน โจนส์ หุ้นส่วนของดีลอยต์ กล่าวว่า ไม่เพียงแต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่บรรดาผู้จัดการทีม ผู้อำนวยการและเจ้าของสโมสรยังไม่เชื่อใจว่า การซื้อขายในเดือนม.ค.จะส่งผลต่อทีมมากน้อยเพียงใด

"จึงไม่น่าประหลาดใจเลยที่จะไม่ได้เห็นความเคลื่อนไหวราคาแพง สโมสรที่มีความเคลื่อนไหวจะทำสัญญายืมตัวเสียมากกว่า" โจนส์กล่าวด้วยว่า การขาดเจ้าของสโมสรรายใหม่ๆ นโยบายรัดเข็มขัด และเครดิตของสโมสรมีส่วนให้การจับจ่ายในตลาดนักเตะลดลง

ขณะที่ พอล มิลเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินในวงการฟุตบอล กล่าวว่า ธนาคารปล่อยให้มีการเบิกเงินเกินบัญชีลดลง จากที่เคยเบิกได้ 40-50 ล้านปอนด์ (ราว 2,120-2,650 ล้านบาท) มาง่ายๆ

ความเคลื่อนไหวสูงสุดในวันสุดท้ายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอยู่ที่เวสต์แฮมที่คว้าศูนย์หน้ามาร่วมทีมถึง 3 คนคือ เบนนี แม็กคาร์ธี จากแบล็กเบิร์น ยืมตัว มิโด มาจากมิดเดิลสโบรช์ และยืมตัว อิลาน มาจากแซงต์ เอเตียน

รายใหญ่ที่สุดของวันคือ อดัม จอห์นสัน จากมิดเดิลสโบรช์มาแมนเชสเตอร์ ซิตีด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ (ราว 318 ล้านบาท) และที่ฮือฮาที่สุดคือ ร็อบบี คีน ที่ย้ายจากสเปอร์สไปเซลติกแบบยืมตัว