posttoday

คู่ชิงสุดคลาสสิก...แพงโคตร

25 มกราคม 2554

คู่ชิงศึกคนชนคนระหว่าง กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส และ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์นั้น ได้ชื่อว่ามีค่าโฆษณาแพงหูฉี่ตก 3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 90 ล้านบาท) ต่อ 30 วินาที หรือวินาทีละ3ล้านบาท!!!

คู่ชิงศึกคนชนคนระหว่าง กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส และ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์นั้น ได้ชื่อว่ามีค่าโฆษณาแพงหูฉี่ตก 3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 90 ล้านบาท) ต่อ 30 วินาที หรือวินาทีละ3ล้านบาท!!!

โดยเด็กสวนฯ

หลังจากเราได้ทราบกันแล้วว่า “เนยแข็ง” กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (แชมป์สายเอ็นเอฟซี) กับ “ม่านเหล็ก” พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส (แชมป์สายเอเอฟซี) คือ 2 ทีมที่ซิวตั๋วเข้าไปเล่นซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 45 ณ คอยบอยส์ สเตเดียม ที่ดัลลัส ช่วงเช้าวันที่ 7 ก.พ.ตามเวลาไทย ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วสารทิศตามมามากมาย

ส่วนใหญ่เชื่อว่า เป็นหนึ่งในคู่ชิงศึกคนชนคนที่น่าตื่นเต้นและสุดคลาสสิก รวมทั้งยากแก่การคาดเดาจริงๆ เพราะด้วยอดีตและชื่อชั้นที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันมากนัก

คู่ชิงสุดคลาสสิก...แพงโคตร โรธลิสเบอร์เกอร์

แพ็คเกอร์ส เคยคว้าแชมป์เอ็นเอฟแอล มาทั้งหมด 12 สมัยก็จริง แต่ชัยชนะ 9 ครั้งเกิดขึ้นก่อนที่จะเริ่มมีศึกซูเปอร์โบว์ล ครั้งแรกเมื่อปี 1967 และก็เป็น แพ็คเกอร์ส ที่ประเดิมชูถ้วย “วินซ์ ลอมบาร์ดี” ทันทีเลย แถมยังเบิ้ลแชมป์

ต่อในปีถัดมาอีกด้วย แล้วก็หายไปนาน ก่อนที่ทีมเนยแข็งจะมาทำได้เป็นสมัยที่ 3 เมื่อปี 1997

ขณะที่ สตีลเลอร์ส กวาดแชมป์ซูเปอร์โบว์ลถึง 6 สมัย ซึ่งมากกว่าทุกทีมในศึกเอ็นเอฟแอล โดยทำได้ถึง 4 ครั้งช่วงปี 1974-1979 และหากสามารถเอาชนะ แพ็คเกอร์ส ได้ในปีนี้ ก็เท่ากับว่าจะเป็นแชมป์ซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 3 ใน 6 ฤดูกาลล่าสุด

ทั้ง 2 ทีมที่ฟันฝ่าเข้ามาถึงเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศึกคนชนคนนั้น ต่างเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ค่อยดีนักแพ็คเกอร์ส แพ้ถึง 3 จาก 6 เกมแรก และจบฤดูกาลปกติ (16 เกม) ด้วยสถิติ ชนะ-แพ้ 10-6 ก่อนที่จะมาเริ่มเข้าฝักเอาในช่วงเพลย์ออฟ ด้วยการเอาชนะเรียบไล่ดะมาตั้งแต่ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์, แอตแลนตา ฮอว์กส์ และ ชิคาโก แบร์ส โดยเฉพาะ แอรอน ร็อดเจอร์ส ยอดควอเตอร์แบ็กของทีม ยิ่งเล่นยิ่งรุ่ง จนสามารถหลุดออกมาจากร่มเงาความสำเร็จของ เบรตต์ ฟาฟร์ ตำนานจอมทัพทีมเนยแข็งได้สำเร็จ

“เรารู้อยู่เสมอว่า เราเป็นทีมที่ดีทีเดียว  ตอนนี้เราก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และนั่นคือ การคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ที่ดัลลัส พร้อมกับนำถ้วยลอมบาร์ดีกลับบ้าน” ไมค์ แม็คคาร์ธี หัวหน้าโค้ชของ แพ็คเกอร์ส กล่าว

ด้าน สตีลเลอร์ส ต้องเริ่มต้นซีซั่นโดยไม่มี “บิ๊กเบน” เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ควอเตอร์แบ็กคนดังจอมฉาว ซึ่งโดนเอ็นเอฟแอลสั่งแบน 4 เกม กรณีทำผิดกฎเสื่อมเสียด้านพฤติกรรม หลังโดนข้อหาข่มขืน แต่ก็รอดคุกมาได้ พร้อมกลับมาลงสนามช่วยทีมจบซีซั่นปกติด้วยสถิติ ชนะ-แพ้ 12-4

“เราเพิ่งจะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง หลังมีทั้งคนที่ให้และไม่ให้โอกาสเรา แต่ทุกคนในห้องแต่งตัวยังคงรวมกันเป็นหนึ่ง และเชื่อว่าเราจะไปซูเปอร์โบว์ลด้วยกัน” ไฮน์ส อวร์ด ปีกตัวเก่งทีมม่านเหล็ก กล่าว

ทั้ง แพ็คเกอร์ส และ สตีลเลอร์ส ต่างเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ โดยมีแฟนๆ ให้การสนับสนุนจำนวนมหาศาล ดังนั้นการเจอกันในเดือนหน้านี้ ถือเป็นเกมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งบนแผ่นดินชาวอเมริกันเลยทีเดียว

ความจุสนามคาวบอยส์ราว 100,000 ที่นั่ง คงหาที่ว่างยากจริงๆ แต่หวั่นเรื่องอากาศจะหนาวยะเยือก อาจต้องปิดหลังคาระหว่างแข่ง ซึ่งยังมีผู้ชมทั่วโลกดูการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์อีกกว่า 100 ล้านคน และค่าโฆษณาแพงหูฉี่แน่นอน ตกประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 90 ล้านบาท) ต่อ 30 วินาที

โอ้โห! วินาทีละตั้ง 3 ล้านบาท บ้าไปแล้ว

ส่วนเรื่องใครเป็นต่อนั้น ล่าสุดบริษัทรับพนันถูกกฎหมายที่ลาสเวกัส ให้ แพ็คเกอร์ส เป็นต่อเล็กน้อย 2-2.5 แต้ม แต่รอดูของจริงในสนามดีกว่าว่า เนยแข็ง กับ ม่านเหล็ก ใครจะแกร่งกว่ากัน