posttoday

พี่เสือ...น้องโจมาแว้ว

20 ธันวาคม 2553

เคยลองคิดกันดูบ้างมั้ยว่า ทำไมในวงการกอล์ฟโลกนั้น เราไม่ค่อยได้เห็นโปรผิวสีจากแอฟริกาเอาเสียเลย....

เคยลองคิดกันดูบ้างมั้ยว่า ทำไมในวงการกอล์ฟโลกนั้น เราไม่ค่อยได้เห็นโปรผิวสีจากแอฟริกาเอาเสียเลย....

โดย.....SK’92

เคยลองคิดกันดูบ้างมั้ยว่า ทำไมในวงการกอล์ฟโลกนั้น เราไม่ค่อยได้เห็นโปรผิวสีจากแอฟริกาเอาเสียเลย โดยทัวร์อื่นๆ อาจจะพอได้เห็นอยู่บ้าง แต่ใน พีจีเอ ทัวร์ ไม่ค่อยจะพบแน่ แม้จะยกเลิกกฎข้อที่ว่า “เฉพาะคนขาวเท่านั้น” มาตั้งแต่ปี 1960 แล้ว

งานนี้อดีตมือ 1 โลกอย่าง วีเจย์ ซิงห์ ไม่เกี่ยว เพราะเป็นโปรฟิจิเชื้อสายอินเดียที่โอนสัญชาติไป

แล้วไม่แปลกใจกันบ้างเหรอ เพราะไม่ได้มีการเหยียดผิวในกีฬาชนิดนี้กันซะหน่อยโดยทุกอย่างขึ้นอยู่กับฝีมือ ไม่ใช่สีผิว จึงทำให้ชาวโลกได้เห็นนักกอล์ฟแอฟริกัน-อเมริกัน โดดเด่นอยู่แค่คนเดียว

พี่เสือ...น้องโจมาแว้ว แบรมเล็ต

นั่นคือ “พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ วัย 34 ซึ่งแม้เขาเพิ่งจะร่วงลงไปรั้งมือ 2 โลก หลังเสียบัลลังก์ให้แก่ ลี เวสต์วูด จากอังกฤษ เมื่อปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมานี่เอง แต่ก็ต้องยอมรับว่า วูดส์ คือสุดยอดโปรที่ทำสถิติไว้มากมาย และยากที่ใครจะเทียบเคียงได้ในรอบหลายสิบปีนี้เลยก็ว่าได้

และแล้ว ล่าสุด หลังจบการแข่งขันคัดเลือกจอมสวิงเข้าสู่ศึกยูเอส พีจีเอ ทัวร์ เมื่อไม่นานมานี้ โดยเลือกเฟ้นแบบเน้นๆ เนื้อๆ เฉียบๆ จริงๆ ปรากฏว่าได้มาทั้งหมด 27 คน

หนึ่งในนั้นมีหนุ่มน้อยวัย 22 อยู่ด้วย นามว่า โจเซฟ แบรมเล็ต (Joseph Bramlett)

แม้เขาสามารถคว้าทัวร์การ์ดด้วยอันดับ 16 แต่ก็ตกเป็นข่าวครึกโครมสุดๆ ในสหรัฐ เนื่องจาก แบรมเล็ต เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับคำชมจาก ไทเกอร์ โดยผ่านทาง ทวีตเตอร์

“ยินดีด้วยนะ โจ แบรมเล็ต ที่สามารถผ่าน คิวสกูล มาได้ น่าประหลาดใจมากที่ทำได้สำเร็จ ทั้งที่ต้องพักมาเป็นปีเลยทีเดียวเพราะข้อมือเจ็บ พี่แทบจะคอยเล่นกับน้องในฤดูกาลหน้าไม่ไหวแล้วนะเนี่ย” จากข้อความใน ทวีตเตอร์ ของ ไทเกอร์

ทั้งนี้ แบรมเล็ต ประสบอุบัติเหตุระหว่างขี่จักรยาน จนต้องหยุดเล่นกอล์ฟไปนานถึง 20 เดือน ก่อนจะกลับมาเข้าสู่ คิวสกูล 

ไม่รู้ พี่เสือ ลำเอียงอ๊ะป่าว เพราะ หนุ่มโจเซฟ ถือเป็นโปรแอฟริกัน-อเมริกัน คนที่ 2 ต่อจากเขานั่นเอง และเป็นสวิงผิวดำคนแรกในรอบ 25 ปีที่ฉลุยผ่าน คิว สกูล

แถมยังมีบิดาเป็นคนผิวสี และมารดาเป็นคนผิวขาว เหมือนกับคุณพ่อเอิร์น และคุณแม่กุลธิดา ของ ไทเกอร์ เป๊ะเลย รวมทั้งยังต้องเจอกับสภาพกดดันจากการโดนเหยียดสีผิวมาตลอดตั้งแต่เด็ก (นี่ก็เหมียนอีกแล้ว) โดยเขาเติบโตอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ที่เต็มไปด้วยคนหลากหลายเผ่าพันธุ์

ไม่รู้บังเอิญหรือตั้งใจ แต่ดูแล้วน่าจะจงใจซะมากว่า เพราะ น้องโจ เล่นเดินวัดรอยพี่ไทเกอร์อยู่นะนี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว, เริ่มหวดลูกกอล์ฟเล่นกับพ่อตั้งแต่วัย 3 ขวบ ต่อด้วยทำสถิตินักสวิงวัยละอ่อนสุดแค่ 14 ปี ที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่ง ยูเอส อเมเจอร์ ยังๆ ยังไม่หมด พอโตขึ้นก็เลือกไปเรียนที่มหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด เหมือนอีก

ที่สำคัญคือ ก่อน แบรมเล็ต จะจบมหาลัย เขายังช่วยให้ สแตนฟอร์ด คว้าแชมป์ระดับมหาวิทยาลัยแห่งชาติในปี 2007 ด้วย ทั้งที่ ไทเกอร์ ยังไม่เคยทำได้

เชื่อว่า ในปีหน้าหรือฤดูกาล 2011 ที่กำลังจะมาถึง ไทเกอร์ คงหายเหงาไปเยอะแน่ เพราะมี โจเซฟ เป็นโปรแอฟริกัน-อเมริกันอีกคน มาร่วมเดินเล่นเคียงบ่าเคียงไหล่กัน

เอาเป็นว่า ในปีหน้าเมื่อทั้งคู่ได้เจอกันในสนาม หาก พี่เสือ ที่หาแชมป์ไม่เจอมาตลอดปีนี้ ยังฟอร์มแย่อยู่ แล้ว น้องโจ ที่เกิดหลัง 1 รอบพอดี (12 ปี) ดันเล่นได้ดีโดดเด่นเด้งดึ๋งกว่า ก็อย่าเคืองกันนะ

เพราะน้องกำลังเดินตามรอยพี่อยู่...ขอบอก