คาร์ดิฟฟ์ เมท...สโมสรที่"เรื่องเรียนมาก่อนฟุตบอล" แต่ได้ไปยูโรป้าลีกซีซั่นเดียวกับแมนยู

ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาปริญญาตรี แถมมีบางคนกำลังเรียนปริญญาโท และปริญญาเอก...ไปพบกับทีมลูกหนังมหาวิทยาลัย "คาร์ดิฟฟ์ เมโทรโพลิแทน" ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องการเรียนเป็นอันดับหนึ่งเหนือฟุตบอล แต่สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าตั๋วไปลุยศึกยูโรป้าลีก พร้อมหวังว่าจะได้ปะทะฝีเท้ากับขุนพล “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด

ฟุตบอล “ยูโรป้าลีก” อาจจะเป็นเวทีลูกหนังที่บรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ไม่พิศมัยเท่าใดนัก หากเทียบกับสังเวียนแข้ง “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” ที่เข้มข้น ยิ่งใหญ่ อีกทั้งเต็มเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีและเม็ดเงินที่มากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้อยู่ในสถานะเป็นพ่อค้าแข้งอาชีพเต็มตัว การได้ลงสนามสัมผัสทัวร์นาเมนท์ระดับทวีปอย่างยูโรป้าลีกก็น่าจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยในชีวิต

อย่างเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทีมฟุตบอล “มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ เมโทรโพลิแทน” หรือที่เรียกสั้นๆว่า “คาร์ดิฟฟ์ เมท” ซึ่งดวลจุดโทษชนะ บาลา ทาวน์ คว้าตั๋วไปยูโรป้าลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

คาร์ดิฟฟ์ เมท เป็นทีมในลีกฟุตบอลของประเทศเวลส์ ซึ่งแม้จะเล่นอยู่ในลีกอาชีพ แต่สถานะของสโมสรเรียกว่าเป็น “กึ่งอาชีพ” มากกว่า เพราะผู้เล่นของพวกเขาไม่ได้ใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือหาเลี้ยงชีพ โดยนักเตะแทบทุกคนในทีมมีสถานะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ เมโทรโพลิแทน

มีทั้งนักศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท แม้กระทั่งนักศึกษาระดับปริญญาเอกก็ยังมี!!

และที่สำคัญ แนวทางการทำทีมลูกหนังของพวกเขานั้น คือ...เรื่องการเรียนสำคัญอันดับหนึ่ง ฟุตบอลเป็นอันดับสอง

“ผู้เล่นของเราจัดการเรื่องเวลาได้ดีมาก ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับพวกเขาเลยเพราะถ้าคุณโฟกัสแค่ฟุตบอลอย่างเดียว มันคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่พวกเขาจัดการได้อย่างสมดุลว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และให้ความสำคัญกับอะไรเป็นอย่างแรก ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องการเรียน จากนั้นฟุตบอลจึงมาเป็นอันดับสอง” ดร.คริสเตียน เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้จัดการทีมคาร์ดิฟฟ์ เมท ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี

ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า คาร์ดิฟฟ์ เมทไม่มีการจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักเตะ แถมยังต้องจ่ายค่าสมาชิกเป็นเงิน 150 ปอนด์ (ราว 6,300 บาท) ให้กับสโมสรอีกต่างหาก

“เราพัฒนาเด็กหนุ่มเหล่านี้ให้มีโอกาสที่ดีในเส้นทางอาชีพ นั่นคือการที่พวกเขาได้เล่นฟุตบอลมาตรฐานสูงอย่างที่พวกเขาต้องการ เราไม่มีความสามารถที่จะจ่ายค่าจ้างผู้เล่นได้ แต่เรามอบโอกาสให้พวกเขาได้เล่นฟุตบอลยุโรป และนั่นเป็นจุดขายที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร” เอ็ดเวิร์ดส์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม คำถามที่ตามมาก็คือ คาร์ดิฟฟ์ เมท มีจุดแข็งอะไรที่ทำให้พวกเขาสร้างทีมฟุตบอลขึ้นมาได้แข็งแกร่งเหนือทีมอื่น ?

คำตอบคือว่า มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ เมโทรโพลิแทน เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีความโดดเด่นในสาขาวิชาการกีฬาและวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยมีการลงทุนทุ่มงบประมาณเรื่องเทคโนโลยี บุคลากร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาจจะเรียกได้ว่าพรั่งพร้อมกว่าทีมฟุตบอลอาชีพบางทีมด้วยซ้ำ และไม่ใช่เพียงแค่ฟุตบอลอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงกีฬาชนิดอื่นๆด้วย

ขณะเดียวกัน การคว้าตั๋วยูโรป้าลีกในครั้งนี้ไม่ใช่ความสำเร็จที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน แต่ คาร์ดิฟฟ์ เมท ค่อยๆยกระดับทีมและพยายามมาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยได้เพลย์ออฟแย่งสิทธิไปยูโรป้าลีกมาแล้ว 2 ครั้งซ้อนในปี 2017 และ 2018 แต่ก็อกหักไปทั้งหมด จนกระทั่งได้ฉลองเสียทีในปีนี้

สำหรับการได้ไปเฉิดฉายในเวทียูโรป้าลีกซีซั่นหน้า คาร์ดิฟฟ์ เมท ต้องไปออกสตาร์ทตั้งแต่รอบ Preliminary หรือรอบก่อนรอบคัดเลือกเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าคงเป็นเรื่อง “ยากมาก” ถึง “ยากที่สุด” ที่สโมสรซึ่งเต็มไปด้วยนักศึกษาอย่างพวกเขาจะทะลุเข้ารอบไปจนกระทั่งได้ดวลฝีเท้ากับสโมสรชั้นนำของยุโรปอย่าง เซบีญ่า, ลาซิโอ, โวล์ฟสบวร์ก หรือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“เส้นทางมันไกลมากกว่าจะไปถึงจุดนั้น แต่ในฐานะที่ผมเป็นแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด มันคงเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆถ้าผมได้ลงสนามเจอกับพวกเขา” ไคล์ แม็คคาธี่ย์ แนวรับวัย 26 ปี นักศึกษาปริญญาโทสาขาการพัฒนากีฬา กล่าว

ภาพ : www.facebook.com/CardiffMetFC/