‘ผีแดง-เรือใบ’แมทช์ตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีก!

ความพ่ายแพ้แบบเละเทะต่อเอฟเวอร์ตัน 0-4 ในนัดล่าสุด อาจจะเป็น “สปริงบอร์ด” ที่ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดต้องฮึดและถีบตัวเองขึ้นมาสู้กับ แมนฯ ซิตี้ ในเกมนัดตกค้าง คืนวันพุธที่ 24 เม.ย. ซึ่งอาจจะเป็นแมทช์ตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้

โดย...สไปเดอร์แมว

เหลืออีกเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น แฟนบอลทั่วโลกก็จะได้ทราบกันแล้วว่าถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018-2019 จะถูกนำไปประดับตู้โชว์ที่สนามแอนฟิลด์ หรือเอติฮัด สเตเดี้ยม

สถานการณ์ ณ วินาทีนี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลสยายปีกยึดเก้าอี้จ่าฝูงจากผลงานลงเตะ 35 นัด มี 88 แต้ม โดยโปรแกรม 3 นัดสุดท้าย แข้งหงส์จะพบกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า) นิวคาสเซิ่ล (เยือน) และวูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า) ซึ่งว่ากันตามตรง มีโอกาสสูงที่กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ และชาวคณะ จะกวาดชัยเรียบทั้ง 3 นัดที่เหลือ

ขณะที่อันดับสอง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีอยู่ 86 แต้ม แต่เหลือโปรแกรมเตะมากกว่า โดยขุนพลเรือใบมีคิวลงสนามอีก 4 นัด พบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน) เบิร์นลี่ย์ (เยือน) เลสเตอร์ (เหย้า) และไบรท์ตัน (เยือน)

และเมื่อกวาดสายตาดูโปรแกรมที่เหลือ เกมที่กุนซือเปป กวาร์ดิโอล่า อาจจะต้องกังวลมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นเกม “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมทช์” ที่แมนฯ ซิตี้จะต้องยกพลไปเยือนคู่อริร่วมเมืองอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ในเวลาตีสอง คืนวันพุธนี้!! 

แน่นอนว่าหากเทียบผลงานล่าสุดแล้ว แมนฯ ซิตี้ดูดีมีชาติตระกูลมากกว่าหลายขุม ตรงข้ามกับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งทำให้สาวกเรดอาร์มี่ “กุมขมับ” พร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย หลังจากบุกไปพ่ายแบบหมดสภาพต่อเอฟเวอร์ตัน 0-4

แต่ในขณะเดียวกัน ไม่แน่ว่าความพ่ายแพ้อันยับเยินในนัดล่าสุดอาจจะกลายเป็น “สปริงบอร์ด” ที่ทำให้บรรดาขุนพลปีศาจแดงต้องพยายามดีดตัวเองขึ้นมา เพื่อลบล้างความผิดหวังและเรียกศรัทธากลับคืนมาจากแฟนบอลให้ได้

“แฟนบอลต้องการเห็นปฎิกิริยาตอบสนองจากพวกเรา ซึ่งวิธีเดียวที่จะขอโทษพวกเขาคือต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างลงไปในสนาม เราต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อสโมสร เพื่อชุดแข่ง เพื่อเพื่อนร่วมทีม และเพื่อตัวเราเอง เพราะเราไม่สามารถโชว์ฟอร์มเหมือนที่ผ่านมาได้อีกแล้ว” ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าว

เช่นเดียวกับ เปป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งเชื่อว่าเกมนี้ไม่ใช่งานง่ายของแข้งแมนฯ ซิตี้แน่นอน เนื่องจากแมนฯ ยูไนเต็ดต้องการแก้ตัวต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง อีกทั้งยังมีศักดิ์ศรีของความเป็น “อริร่วมเมือง” ค้ำคออยู่ด้วย

“มันเป็นเกมดาร์บี้แมทช์ ซึ่งถือเป็นเกมที่พิเศษกว่าปกติเสมอ เพราะผู้เล่นทุกคนจะพยายามทำเต็มที่ที่สุดเพื่อแฟนบอลและสโมสร” นายใหญ่เรือใบสีฟ้า กล่าว

เชื่อแน่ว่าเกมนี้ไม่ได้มีแค่ “เด็กผี” และ “เด็กเรือ” เท่านั้นที่เกาะขอบจอรอเชียร์อย่างใกล้ชิด เพราะยังมี “เด็กหงส์” ที่พร้อมขายวิญญาณแปลงร่างกลายเป็น “เรดอาร์มี่” เป็นการชั่วคราว หนึ่งในนั้นคือ เจมส์ มิลเนอร์ มิดฟิลด์ลิเวอร์พูล ซึ่งยอมรับกันแบบตรงไปตรงมาเลยว่า...

“นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ผมจะเชียร์ยูไนเต็ด!”