posttoday

บิ๊กอ๊อดวางใจ"โค้ชโต่ย"คุมต่อ เตรียมนำทัพช้างศึกล่าแชมป์คิงส์คัพ

09 เมษายน 2562

สมาคมฟุตบอลยังไว้วางใจ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย คุมทัพช้างศึกต่อไป ในศึกลูกหนังคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 เดือนมิ.ย.นี้

สมาคมฟุตบอลยังไว้วางใจ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย คุมทัพช้างศึกต่อไป ในศึกลูกหนังคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 เดือนมิ.ย.นี้

 

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศแต่งตั้ง โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย และ ทีมสตาฟฟ์โค้ช อันประกอบไปด้วย โชคทวี พรหมรัตน์, เนบอยซ่า สตาเมนโควิช, ซาซ่า โทดิช ทำหน้าที่คุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ ทำศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ที่สนามช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 5-8 มิ.ย.นี้

บิ๊กอ๊อดวางใจ"โค้ชโต่ย"คุมต่อ เตรียมนำทัพช้างศึกล่าแชมป์คิงส์คัพ

"จากผลงานที่ผ่านมาของทีมชาติไทยตั้งแต่เอเชียน คัพ และไชน่า คัพ ก็นับว่าเป็นที่ยอมรับได้ ใจจริงผมอยากจะสนับสนุนทีมงานคนไทยให้ทำหน้าที่ตรงนี้ จึงได้มอบหมายให้โค้ชโต่ย และ โค้ชโชค ทำหน้าที่ต่อในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งนี้" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม กล่าว

"ส่วนการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย และสามารถดำเนินการในส่วนที่ เกี่ยวกับ กฏ ระเบียบ ต่างๆ ได้ และหากโค้ชโต่ยผ่านการอบรม โปร ไลเซนส์ โมดูลที่ 2 ในช่วงเดือนมิถุนายน สมาคมฯ ก็จะประสานงานกับทางเอเอฟซี เพื่อให้โค้ชโต่ยสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งแม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปได้ เพราะผมก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้โค้ชโต่ยทำงานต่อไป"

บิ๊กอ๊อดวางใจ"โค้ชโต่ย"คุมต่อ เตรียมนำทัพช้างศึกล่าแชมป์คิงส์คัพ

ขณะที่ โค้ชโต่ย กล่าวว่าจะพยายามทำหน้านี้ให้ดีที่สุด พร้อมกับตั้งเป้าพาขุนพลช้างศึกคว้าแชมป์คิงส์คัพให้ได้ หลังจากปีที่แล้ว ทีมชาติไทยจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์

"ฟุตบอลคิงส์คัพครั้งนี้ เราก็ต้องการที่จะคว้าแชมป์มาครองให้ได้ ด้วยศักดิ์ศรีของคนไทย นักเตะไทย และตัวผมที่ได้รับผิดชอบในรายการนี้ ก็จะทำผลงานให้ดีที่สุด ผมได้คุยกับท่านนายกแล้วว่าผมจะพยายามทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด"

สำหรับฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ที่สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 มีทีมเข้าร่วม 4 ชาติได้แก่ “เจ้าภาพ” ทีมชาติไทย  (อันดับ 114 ของโลก) ทีมชาติเวียดนาม (อันดับ 98) ทีมชาติอินเดีย (อันดับ 101) และทีมชาติกือราเซา (อันดับ 82) ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประกบคู่แข่งขันอีกครั้ง โดยผู้ชนะจะเข้าไปเจอกันในรอบชิงชนะเลิศ ส่วนผู้แพ้ไปชิงอันดับ 3