posttoday

พรีวิว : "ช้างศึก" ดวลเจ้าภาพ ขอแค่เจ๊าเพื่อเข้ารอบ

14 มกราคม 2562

ทัพ “ช้างศึก” พกความมั่นใจเต็มเปี่ยมขอแค่ผลเสมอกับ “เจ้าภาพ” สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ก็เพียงพอที่จะเข้ารอบ ในศึกเอเชียน คัพ 2019 นัดสุดท้ายกลุ่มเอ คืนนี้ (14 ม.ค.) ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เวลา 23.00 น.

ทัพ “ช้างศึก” พกความมั่นใจเต็มเปี่ยมขอแค่ผลเสมอกับ “เจ้าภาพ” สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ก็เพียงพอที่จะเข้ารอบ ในศึกเอเชียน คัพ 2019 นัดสุดท้ายกลุ่มเอ คืนนี้ (14 ม.ค.) ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เวลา 23.00 น.

ไทย (อันดับ 118 โลก)-ยูเออี (อันดับ 79 โลก)

สนามฮัสซา บิน ซายิด

ทีมชาติไทยมี 3 คะแนน จาก 2 นัด รั้งอันดับ 3 กลุ่มเอ เกมนี้หากชนะหรือเสมอได้จะการันตีตั๋วเข้ารอบ แต่ถ้าแพ้ก็ยังมีโอกาสลุ้นติดโควตาอันดับ 3 ที่ดีที่สุด (4 ทีม จาก 6 กลุ่ม) โดยมีเงื่อนไขเดียวที่จะทำให้ตกรอบทันที คือ ปราชัยต่อยูเออี (อันดับ 1 มี 4 คะแนน) แล้วผลอีกคู่ บาห์เรน (อันดับ 4 มี 1 คะแนน) ชนะ อินเดีย (อันดับ 2 มี 3 คะแนน) เนื่องจากทัพ “ช้างศึก” เฮดทูเฮดเป็นรองทีมจากแดนภารต

“แม้ยูเออีจะมีโอกาสผ่านเข้ารอบสูง แต่พวกเขาเป็นเจ้าภาพต้องเล่นอย่างเต็มที่แน่นอน ผมบอกเด็กๆ ไปว่า เราไม่ต้องไปพึ่งใคร ไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันคู่อื่นๆ เราต้องพึ่งตัวเองก่อนแล้วผลงานจะออกมาดีเอง เป้าหมายเราคือเก็บคะแนนให้ได้เพื่อลุ้นเข้ารอบต่อไป” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือช้างศึก กล่าว

แม้จะมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมหลังชนะบาห์เรนมาได้ 1-0 ในเกมที่แล้ว แต่สถิติการพบกันทั้งหมดอย่างเป็นทางการ 9 ครั้ง "ช้างศึก" ยังเป็นรอง ชนะได้เพียงเกมเดียวคือเกมเปิดบ้านชนะ 3-0 ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชียเมื่อปี 2004 ที่เหลือเสมอ 2 ครั้ง และแพ้ 6 ครั้ง ที่สำคัญไม่เคยบุกชนะยูเออีได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยเกมสุดท้ายที่พบกันในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ไทยสามารถยันเสมอได้ 1-1 

“เรื่องสถิติก็คือสถิติ เราไม่ได้คิดมากอะไรกับตรงนั้น เพราะเราโฟกัสกันที่ปัจจุบันและถ้าเราลงไปสู้เต็มที่ ผมคิดว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ การเล่นกับเจ้าภาพเรารู้อยู่แล้วว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง โดยเฉพาะแรงกดดันจากแฟนบอล แต่เชื่อว่าทุกคนผ่านสถานการณ์แบบนั้นมาหมดแล้ว ผมมั่นใจว่าทุกคนจะรับมือได้” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางตัวเก่ง เผย

สภาพทีม “โค้ชโต่ย” จะไม่สามารถใช้งาน พรรษา เหมวิบูลย์ กองหลังตัวหลักที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 2 นัด ส่วนที่เหลือคาดว่าจะยึดแข้งตัวจริงจากเกมนัดที่แล้วในระบบ 3-5-2 ผู้รักษาประตูยังเป็น ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แนวรับ มิก้า ชูนวลศรี จะได้ออกสตาร์ทร่วมกับ สุพรรณ ทองสงค์ และอดิศร พรหมรัตน์ โดยมี ธีราทร บุญมาทัน กับ ทริสตอง โด เล่นวิงแบ็กซ้าย-ขวา

แดนกลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่มีอาการบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกในเกมที่แล้วน่าจะถูกเข็นลงสนามร่วมกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และมี “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ สร้างสรรค์เกมด้านหลัง ธีรศิลป์ แดงดา กับ อดิศักดิ์ ไกรษร

ขณะที่ ยูเออี ภายใต้การคุมทัพของ “อิลซัค” อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี กุนซือจอมแท็กติกชาวอิตาเลียน คืนฟอร์มแกร่งด้วยการอัด อินเดีย 2-0 หลังนัดแรกสะดุดเสมอบาห์เรน 1-1 ทำให้โอกาสเข้ารอบสดใส

ขุมกำลังชุดนี้แม้จะไร้สตาร์ตัวเก่งอย่าง โอมาร์ อับดุลราห์มาน ที่บาดเจ็บจนหลุดโผ แต่ยังมี “พี่ชาย” อาเมอร์ คุมแดนกลาง พร้อมด้วย อาลี มับคุต และ อาเหม็ด คาลิล สองศูนย์หน้าตัวความหวังที่เคยพังประตูใส่ไทย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก

ความน่าจะเป็น : “ช้างศึก” ดูเป็นรองก็จริง แต่นักเตะหลายคนเคยได้ปะทะฝีเท้ากันมาแล้ว และสตาฟฟ์โค้ชก็มีข้อมูลอยู่ในมือ ทำให้ยังมีหวังเล็กๆ ที่จะยันเสมอแบ่งแต้มได้