สถานีต่อไป‘มูรินโญ’

เรื่อง...เจษฎา

แม้ว่าจะเป็นสุดยอดผู้จัดการทีมที่พาทีมประสบความสำเร็จมาแล้วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่ว่า โจเซ มูรินโญ ก็ยังไม่สามารถที่จะหนีพ้นจากการถูกไล่ออกได้ เมื่อบอร์ดบริหาร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่อดทนอีกต่อไปกับผลงานที่ดิ่งลงเหวอย่างต่อเนื่อง น่าสนใจว่าสถานีต่อไปของ กุนซือจอมอหังการรายนี้จะไปลงเอยที่ไหน?

ด้วยชื่อชั้นของ โจเซ มูรินโญ ที่เสกความสำเร็จให้กับเกือบทุกทีมที่รับงานคุมทีมขนาด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผลงานไม่น่าประทับใจ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเขาช่วยทีมคว้าโทรฟี่แชมป์ลีกคัพ และยูโรป้าลีก รวมไปถึงถาดคอมมูนิตี้ชิลด์ เข้าตู้โชว์ของสโมสร แต่มันอาจจะไม่เพียงพอต่อความคาดหวังของบอร์ดบริหารและแฟนบอล ทำให้สุดท้ายจบลงที่การแยกทางกัน

หลายคนมองว่าการที่กุนซือชาวโปรตุเกสล้มเหลวกับ “ปีศาจแดง” เพราะว่าได้คุมทีมที่ไม่เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง ทำให้ชื่อของเขายังคงเนื้อหอม และมีหลายทีมทั้งทีมเก่าที่เคยฝากผลงานและทีมใหม่ต้องการได้ตัวไปคุมทีม

เรอัล มาดริด

สโมสรเก่าที่กำลังใช้งาน ซานติอาโก โซลารี อดีตนักเตะในทีมเข้ามารับบทผู้จัดการทีมชั่วคราวหลังจาก ยูเลน โลเปเตกี อดีตกุนซือทีมชาติสเปนที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง จนทำให้ โซลารี ต้องเข้ามากู้วิกฤต แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังทำได้แค่ประคองตัวเท่านั้น ทำให้บอร์ดบริหารต้องมองหาผู้จัดการทีมที่เชื่อมือได้เข้ามาทำทีม และเมื่อ
โจเซ มูรินโญ ว่างงาน ทำให้ดูเหมือนว่าถ่านไฟเก่าจะกลับมาปะทุอีกครั้ง

ตลอดระยะเวลาที่ มูรินโญ คุมทีมเรอัล มาดริด มีเพียงแค่แชมป์ยุโรปเท่านั้นที่เขาไม่สามารถคว้ามาประดับตู้โชว์สโมสร และต้องต่อกรกับบาร์เซโลนาในช่วงที่พีกสุดๆ โดยมี เปป กวาร์ดิโอลา คุมทีม แต่ก็ยังแย่งแชมป์ลาลีกามาครองได้ นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ ฟลอเรนติโน เปเรซ ยังดีอยู่ จากการเปิดเผยของ รามอน กัลเดรอน อดีตประธานสโมสรเรอัล มาดริด

“มูรินโญคือโค้ชคนเดียวที่ ฟลอเรนติโน เปเรซ เคารพนับถือหรือคอยหนุนหลัง แม้กระทั่งตอนที่เขาทำพลาดหลายอย่าง ตามความเห็นของผม เขาเป็นโค้ชคนหนึ่งที่เอาแต่ตำหนิคนอื่นๆ สำหรับความล้มเหลวของเขา ถ้า มูรินโญ ว่างอยู่ในตอนนี้ เขาจะได้มาที่นี่แน่ๆ คุณมั่นใจในเรื่องนี้ได้เลยทีเดียว คอนเต เป็นหนึ่งในเป้าหมายของท่านประธานก็จริงอยู่ แต่เขารู้ดีว่าอะไรเกิดขึ้นที่นี่ เขาก็เลยยังลังเล” อดีตนายใหญ่มาดริด กล่าว

ก่อนหน้านี้ มูรินโญ เคยหวนกลับมารับงานคุมทีมเชลซีมาแล้ว แม้ว่าจะเคยถูกทีมสิงโตลอนดอนไล่ออกจากตำแหน่ง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะหวนกลับมารับงานคุมทีมเก่าอีกครั้ง

อินเตอร์ มิลาน

นี่คือสโมสรที่กุนซือเลือดฝอยทองฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้มากที่สุดอีกทีมหนึ่ง และแน่นอนว่าแฟนบอลงูใหญ่จะต้องอ้าแขนต้อนรับเขาอย่างแน่นอน จะมีแค่คนเดียวที่ไม่ยินดียินร้ายนั่นก็คือ ลูเซียโน สปัลเลตติ กุนซือคนปัจจุบันเท่านั้น

ทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 2010 ฤดูกาลสุดท้ายของเขากับอินเตอร์ มิลาน ทำให้เขาก้าวลงจากตำแหน่งจากจุดสูงสุดก่อนย้ายไปคุม เรอัล มาดริด ทำให้ภาพของแฟนบอลจดจำเขาในฐานะพระเจ้าอีกคน ไม่ต่างจากที่ ปอร์โต ทีมที่เขาใช้สร้างชื่อจนกลายเป็นผู้จัดการทีมแถวหน้าของยุโรป

การตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้น้ำหนักในการที่จะปลดลูเซียโน สปัลเลตติ มีเพิ่มสูงขึ้นในระยะหลัง บอร์ดบริหารงูใหญ่พยายามปรับเปลี่ยนทีมโฉมใหม่ด้วยการลงทุนซื้อนักเตะฝีเท้าดีมาร่วมทัพ และการได้แม่ทัพชั้นแนวหน้ามาบัญชาการย่อมทำให้ทีมมีโอกาสที่จะทำผลงานให้ดีขึ้น และขยับไปทาบรัศมีของยูเวนตุสได้บ้าง

เบนฟิกา

ก้าวแรกบนถนนกุนซือของ โจเซ มูรินโญ มีเบนฟิกาเป็นสโมสรแรกที่เขาเริ่มงานตั้งแต่การรับตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชของทีม หลังจากที่สะสมประสบการณ์ในศาสตร์ลูกหนังกับบาร์เซโลนาในตำแหน่งล่าม ก่อนที่จะได้รับโอกาสเข้ามาคุมทีมอย่างเต็มตัว แต่ก็ทำงานได้แค่ 3 เดือนเท่านั้น ก่อนที่จะถูกไล่ออกจากตำแหน่งและย้ายไปคุมทีมอูเนียว ไลเรีย

ก่อนที่จะได้มาคุมทีมเอฟซี ปอร์โต ก่อนกลายเป็นตำนานพาทีมกวาดแชมป์ และหนึ่งในนั้นคือแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก จนชื่อของเขาดังเปรี้ยงข้ามคืน บางทีการย้อนกลับไปคุมเบนฟิกาอาจจะเป็นการแก้ปมในใจของเขาที่เคยล้มเหลวกับทีมมาก่อน

ทีมชาติโปรตุเกส

ที่ผ่านมายอดผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสยังไม่เคยรับงานคุมทีมในระดับทีมชาติมาก่อน ไม่แน่ว่าฟุตบอลที่เน้นผลการแข่งขันมากกว่าเอนเตอร์เทนแฟนบอลในระดับทีมชาติอาจจะเหมาะกับเขาก็เป็นได้ และชาติที่เป็นตัวเต็งหนีไม่พ้นโปรตุเกสบ้านเกิด แม้ว่าครั้งหนึ่ง มูรินโญ เคยกล่าวว่ายังไม่อยากรับงานทีมชาติเพราะสนุกกับสโมสรอยู่ แต่หลังจากการตกงานล่าสุด ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเปลี่ยนความคิดและลองอะไรใหม่ๆ ดู

แม้ว่าในตอนนี้ โจเซ มูรินโญ จะต้องตกงาน แต่สิ่งที่มั่นใจได้อย่างแน่นอนคือเขาจะกลับมาสร้างสีสันให้วงการฟุตบอลอีกครั้ง อยู่ที่ว่าปลายทางจะเป็นที่ไหนเท่านั้น