posttoday

พรีวิว : ไทย-ฟิลิปปินส์ ‘ราเยวัช’ดวลกึ๋น‘สเวน’

21 พฤศจิกายน 2561

ทีมชาติฟิลิปปินส์ ภายใต้การคุมทัพของ สเวน โกรัน อีริกส์สัน กุนซือชื่อก้องโลกคว้าชัยมา 2 นัดรวด เกมนี้จึงเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของ มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชทีมชาติไทย ว่าจะโชว์แท็กติกที่เหนือกว่าได้หรือไม่

ทีมชาติฟิลิปปินส์ ภายใต้การคุมทัพของ สเวน โกรัน อีริกส์สัน กุนซือชื่อก้องโลกคว้าชัยมา 2 นัดรวด เกมนี้จึงเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของ มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชทีมชาติไทย ว่าจะโชว์แท็กติกที่เหนือกว่าได้หรือไม่ เพราะหากชนะได้จะเข้ารอบทันที ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 กลุ่มบี นัดที่ 3 เย็นวันนี้ (21 พ.ย.)

ฟิลิปปินส์-ไทย
สนาม : ปานาอัด สเตเดี้ยม
เวลา 18.30 น. (ช่อง 7)

ฟิลิปปินส์ หมายมั่นปั้นมือที่จะประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์นี้ หลังที่ผ่านมาผลงานดีสุดคือรอบรองชนะเลิศ จนต้องทุ่มทุนดึง สเวน โกรัน อีริกส์สัน กุนซือมากประสบการณ์ชาวสวีเดน มานั่งแท่นเฮดโค้ชด้วยสัญญา 6 เดือน ซึ่งเทรนเนอร์วัย 70 ปี ที่ผ่านการคุมทีมมาแล้วเป็นทีมที่ 17 ได้แสดงให้เห็นว่าแท็กติกของตัวเองยังดีพอในระดับอาเซียนจากผลงาน 2 นัดแรก ชนะ สิงคโปร์ 1-0 ต่อด้วยเฉือน ติมอร์ เลสเต 3-2 มี 6 คะแนนเท่าไทย แต่เป็นรองผลต่างประตูได้เสีย

“มันเป็นเกมใหญ่แน่นอน ใครที่สามารถชนะในเกมนี้ก็มีโอกาสที่จะเข้ารอบรองชนะเลิศและเป็นแชมป์กลุ่ม ดังนั้นจึงเป็นเกมที่สำคัญมาก นี่คือการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม พวกเขาออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นถ้าคุณต้องการจะทำอะไรสักอย่าง คุณต้องเล่นเกมฟุตบอลที่แท้จริง และไม่เล่นแบบน่าเกลียด เราต้องเล่นแบบนั้น ถ้าเราต้องการจะชนะในเกม ทีมชาติไทยเป็นตัวเต็งแชมป์กลุ่ม ผมหวังว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้ ถ้าเราเล่นได้ดีก็มีโอกาส” อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ กล่าว

เกมนี้ทัพ “ดิ อัซกาลส์” จะไม่มี นีล เอเธอริดจ์ นายด่านมือ 1 ที่ต้องกลับต้นสังกัด คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เนื่องจากหมดช่วงฟีฟ่าเดย์ แต่ที่เหลือสมบูรณ์พร้อม คาดว่าจะยึดแผนเดียวกับ 2 นัดที่ผ่านมาในระบบ 4-4-2 นำโดยคู่กองหน้า ฟิล ยังฮัสแบนด์ และแพทริก ไรเชลท์

ด้าน มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซิร์บของทีมไทย ยอมรับในฝีมือของสเวน โกรัน อีริกส์สัน และเชื่อว่าเกมนี้จะสนุกแน่นอน หลังพาทัพ “ช้างศึก”คว้าชัย 2 นัดรวดเหนือ ติมอร์ฯ 7-0 และอินโดนีเซีย 4-2 รั้งจ่าฝูงกลุ่มผลต่างประตูได้เสียดีกว่า 7 ลูก ซึ่งหากแมตช์นี้ชนะได้จะการันตีผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์

“ส่วนตัวผมรู้จักกับสเวนมาก่อนหน้านี้แล้ว เขาเป็นโค้ชที่มีประสบการณ์สูง ผมรู้จักแท็กติกการเล่นของเขาดี และเรามีแนวทางการเล่นที่เน้นผลการแข่งขันเหมือนกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นเกมที่น่าสนใจมากๆ มันคงเป็นอีกเกมที่ยาก แต่เราก็มีการเตรียมตัวที่ดี และพร้อมเต็มที่สำหรับเกมนี้” ราเยวัช กล่าว

เทรนเนอร์วัย 64 ปี เชื่อว่า แม้ 2 นัดที่ผ่านมา “ช้างศึก” จะยิงประตูคู่แข่งได้เยอะกว่าแต่ก็ใช้วัดอะไรไม่ได้ เช่นเดียวกับเรื่องสถิติที่เหนือกว่าเพราะเป็นแค่อดีต (พบกัน 20 ครั้ง ไทยชนะ 17 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 64 เสีย 9)  โดยปัจจุบันฟุตบอลของฟิลิปปินส์มีการพัฒนาอยู่ตลอด เห็นได้จากการที่พวกเขาผ่านเข้ารอบสุดท้ายเอเชียนคัพ เหมือนกัน

ขณะที่ กรกช วิริยอุดมศิริ แบ็กซ้ายที่ทำไปแล้ว 1 ประตู 1 แอสซิสต์ ยกย่อง “สเวน” ว่าเป็นโค้ชที่เก่งเรื่องความรัดกุม หลังจากที่เคยร่วมงานกันมาแล้วเมื่อปี 2012 สมัยที่เจ้าตัวเข้ามารับตำแหน่งที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิคให้กับ บีอีซี เทโรศาสน

“แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงมาคลุกคลีกับทีมมากนัก แต่ก็รู้สึกว่าเขาเป็นโค้ชที่เก่งคนหนึ่ง สิ่งที่ชัดเจนที่สุด คือ เขาเป็นโค้ชที่ให้ความสำคัญกับการยืนตำแหน่ง รวมถึงเล่นรัดกุมเหมือนเรา อีกทั้งยังพยายามย้ำผู้เล่นว่าให้คิดเร็วทำเร็ว เปลี่ยนจากรับเป็นรุกให้เร็ว หรือทำยังไงก็ได้ให้บอลเคลื่อนที่จากหลังไปสู่หน้าให้เร็วสุด ดังนั้นสิ่งสำคัญที่เราต้องมีในเกมนี้คือสมาธิ” แข้งวัย 30 ปี เผย

เกมนี้ ทัพช้างศึกไม่มีปัญหาในการจัดทัพ แต่อาจมีอาการล้าจากการเดินทางเล็กน้อยเพราะมาถึงก่อนแข่งเพียงวันเดียว โดยคาดว่าจะยึด 11 คนแรกจากเกมที่แล้ว นำทัพโดย อดิศักดิ์ ไกรษร ศูนย์หน้าที่ยิงไปแล้ว 7 ประตู พร้อมด้วย สรรวัชญ์ เดชมิตร เพลย์เมกเกอร์ที่ทำไปแล้ว 4 แอสซิสต์คอยสร้างสรรค์เกม

ความน่าจะเป็น : ฟิลิปปินส์ฟอร์มดีขึ้นแต่อาจต้องใช้เวลา คงไม่คณามือช้างศึกในการบุกคว้าชัยกลับบ้าน