สมรักษ์พร้อมนำขบวนม็อบค้านกฎหมายมวยฉบับใหม่ จี้สอบคนจัดกรณีเด็กโดนน็อกดับ

ฮีโร่กำปั้น คัดค้าน พ.ร.บ.กีฬามวยฉบับใหม่เต็มตัว เชื่อของเดิมดีอยู่แล้วแต่ต้องไม่ให้เป็นเสือกระดาษ

สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ยืนยันว่ายังคงคัดค้าน "ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติกีฬามวย ฉบับใหม่ พ.ศ. 2561" กรณีห้ามให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชกมวยไทย เพื่อป้องกันอันตราย และการกระทบกระเทือนทางสมอง แม้จะมีเหตุสลด "เพชรมงคล ป.พีณภัทร" หรือ ด.ช.อนุชา ทาสะโก นักชกมวยเด็กวัย 13 ปี เสียชีวิตจากอาการเลือดคั่งในสมองหลังถูกน็อกสลบคาเวที

"ผมคัดค้านแน่นอน เพราะมวยไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ สมัยก่อนอายุ 7 ขวบ ก็ชกกันแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือน้องอาจจะไม่สบายอยู่หรือเปล่า ต้องไปเช็กอย่างละเอียด เพราะลองไปย้อนดูว่าในรอบ 100 ปี มีเกิดเหตุแบบนี้สักกี่ครั้ง มันไม่ค่อยมีแน่นอน ถ้ามีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้จริง ผมจะเป็นคนนำขบวนเกณฑ์เพื่อนนักมวยอีกหลายร้อยคนตั้งม็อบเดินต่อต้านแน่นอน" เจ้าบาส กล่าว

ทั้งนี้ มีการเผยแพร่คลิปวินาทีที่ "เพชรมงคล" ขึ้นสังเวียนครั้งสุดท้ายเมื่อคืนวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา และโดนหมัดชุดของ "ฟ้าใหม่ ส.พระนคร" รัวใส่ไม่ยั้งเข้าที่ศีรษะจนสลบกลางอากาศร่วงลงไปกองกับพื้นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนกลายเป็นเรื่องที่เศร้าสลด โดยคนในวงการมวย นำโดย เพชรพระกาฬ ศิษย์นายโย และ เอกลักษณ์ ส.สมานการ์เมนท์ ได้นำกางเกงมวยไทยออกมาประมูลเพื่อหาทุนช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต

"เราไม่ควรห้ามไม่ให้เด็กชกมวย แต่เราควรหาทางป้องกัน ซึ่งที่ผ่านมา พ.ร.บ.กีฬามวยฉบับเดิมก็ดีอยู่แล้ว แต่ที่ต้องทำคือบังคับใช้ให้จริงจังไม่ให้เป็นเสือกระดาษ ในกฎมีระบุอยู่แล้วว่าต้องใส่นวมขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 10 ออนซ์เพื่อป้องกัน ต้องมีตรวจเช็กสภาพความพร้อมของร่างกายทุกครั้งก่อนชก และนักมวยต้องพัก 21 วันจึงจะชกได้อีกครั้ง แต่โปรโมเตอร์ตามต่างจังหวัดส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้นต้องไปตรวจสอบว่าเหตุที่เกิดมาจากอะไร" สมรักษ์ ทิ้งท้าย

ด้าน สกล วรรณพงษ์ อดีตผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย และอดีตผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและมวย ไม่เห็นด้วยเช่นกัน พร้อมชี้ว่าจะเป็นการปิดกั้นการผลักดันกีฬามวยไทยสู่การเป็นมรดกโลก

"การห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชกเป็นการสกัดกั้นการพัฒนามวยไทยอย่างแท้จริง เพราะนักมวยต้องเรียนรู้ตั้งแต่เด็ก ที่ผ่านมากระทรวงวัฒนธรรมพยายามเสนอให้มวยไทยเป็นมรดกโลกแต่ติดอยู่ที่แผนพัฒนาเยาวชนที่ยังไม่ชัดเจน ดังนั้นหากกฎหมายนี้บังคับใช้ก็จะยิ่งเป็นการปิดโอกาสและอาจทำให้มวยพม่ามวยลาวเสนอตัวเป็นมรดกโลกแทน" สกล เผย

นอกจากนี้ "บิ๊กเสือ" ยังเสนอต่อว่า ทุกฝ่ายควรหาทางออกการชกมวยเด็กร่วมกัน ไล่ตั้งแต่ การกำหนดหลักสูตรการฝึกให้ชัดเจน บังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็ง และนำการป้องกันอันตรายมาใช้ให้มากขึ้น

"กีฬาต่อสู้ทุกประเภท อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด แต่ไม่ถึง 1% ที่ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งการวิจัยที่ออกมาแม้จะเป็นคำเตือนแต่ก็ควรที่จะต้องวิจัยให้ถี่ถ้วนหลายๆ ครั้ง และพิจารณากันให้รอบคอบก่อนบังคับใช้จริง เพราะคนทำมาอาจไม่ใช่คนวงการมวย ที่สำคัญที่ผ่านมาก็มีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว อาจจะมาหาทางออกร่วมกัน เช่น เด็ก 5 ขวบ สามารถฝึกได้ ประลองได้ แต่ชกไม่ได้ หรือใช้เครื่องป้องกัน เช่น สนับเข่า สนับศอก ที่มีระบุไว้อยู่แล้ว" สกล กล่าว