‘ริชาร์ลิสัน’ จากซีโร่ทูฮีโร่
จากเด็กขายไอติมที่จวนจะหันหลังให้ฟุตบอล สู่การเป็นกองหน้าทีมชาติบราซิลที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในเวลานี้
เรื่อง... เจษฏา
จากเด็กขายไอติมที่จวนจะหันหลังให้ฟุตบอล สู่การเป็นกองหน้าทีมชาติบราซิลที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในเวลานี้
“ริชาร์ลิสัน” กลายเป็นนักเตะที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเวลานี้ หลังระเบิดฟอร์มฮอตในการประเดิมลงสนามให้กับทีมชาติบราซิลเป็นครั้งแรก แต่กว่าจะก้าวขึ้นติดธง “เซเลเซา” ทีมซึ่งอุดมไปด้วยแข้งมากพรสวรรค์ในวันนี้ เจ้าตัวต้องฝ่าฟันอุปสรรคมานานัปการ จากเด็กขายไอติมที่จวนจะหมดฝัน สู่กองหน้าค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,100 ล้านบาท)
ดาวเตะวัย 21 โชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์พีซจากการทำ 2 ประตู พร้อมเรียกจุดโทษให้กับทีม ในการลงสนามครั้งแรกในนามทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ ในเกมที่อุ่นเครื่องถล่ม เอลซัลวาดอร์ 5-0 จนได้รับคำชมจากแฟนบอลอย่างล้นหลาม หากย้อนกลับไปไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ กองหน้าจากจากเอฟเวอร์ตันเคยคิดหันหลังให้กับฟุตบอลเพราะโดนปฏิเสธโอกาสมาหลายครั้ง
“ผมใช้นิ้วมือสองข้างของผมนับไม่พอเลยว่าโดนกี่สโมสรปฏิเสธมาบ้าง ผมอยู่ในจุดที่จะต้องหันหลังให้กับฟุตบอล แต่ยังสู้ต่อและเดินทางไปเบโลโอรีซอนชีเพื่อทดสอบฝีเท้ากับ อเมริกา มิไนโร ผมมีเงินแค่ค่าตั๋วเดินทาง หากทำไม่สำเร็จ ไม่มีแม้แต่เงินที่จะกลับบ้านที่ห่างออกไป 600 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นต้องสู้แบบถวายหัวจนได้รับสัญญา ถ้ายอมแพ้ตั้งแต่ถูกปฏิเสธครั้งแรก ผมคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้”
อดีตนักเตะเมืองโนวา วาเลนเซีย ที่เคยถูกหลายสโมสรปฏิเสธ พัฒนาตัวเองจาก อเมริกา มิไนโร สโมสรแรก แล้วย้ายมาอยู่กับฟลูมิเนนเซ หนึ่งในสโมสรระดับท็อปของบราซิล ก่อนย้ายมาเล่นกับวัตฟอร์ดในพรีเมียร์ลีกหนึ่งในลีกที่แกร่งที่สุดในโลก ทั้งหมดใช้เวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น
“การมาเล่นในอังกฤษค่อนข้างราบรื่น ผมมีปัญหาแค่อากาศหนาวกับระยะทางที่ต้องห่างไกลครอบครัวและเพื่อนเท่านั้น แต่ผมสนใจเฉพาะงานและวิธีการรับมือกับอะไรยากๆ คือผมเข้าเรียนภาษาอังกฤษ ทำให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ ปัญหาตอนนี้อยู่ที่การพูด มันคงใช้เวลาในการปรับอีกไม่นาน”
เพียงแค่ฤดูกาลเดียวกับวัตฟอร์ด ริชาร์ลิสัน ลงเล่นไปครบ 38 เกม และยิงได้แค่ 5 ประตู แต่เพียงพอแล้วที่จะทำให้เอฟเวอร์ตันยอมจ่ายเงินที่เป็นสถิติของสโมสร เพื่อดึงตัวมาร่วมทัพและจากผลงาน 3 ประตูจาก 3 เกมแรก ดูเหมือนว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” คิดถูก
“ผมยังคิดว่ามันเป็นความฝัน ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น ผมฝันมาเสมอว่าอยากเล่นในพรีเมียร์ลีก ตอนนี้เมื่อมองไปที่ตารางดาวซัลโวเห็นชื่อตัวเอง มันเป็นอะไรที่ยังไม่ชิน”
สำหรับการติดทีมชาติบราซิลคือความฝันของนักเตะทุกคนในแดนแซมบ้า และยิ่งประเดิมสนามด้วยการยิงประตูมันเป็นยิ่งกว่าฝัน
“ตอนนั้นผมอยู่ที่บ้านและกำลังเล่นเกมอยู่ตอนที่รู้ตัวว่าติดทีมชาติ มันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์ที่เฝ้ารอมานานแสนนาน”
แม้ว่าอดีตแข้ง “แตนอาละวาด” จะกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงและได้รับค่าจ้างอย่างงาม แต่เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนเข้าใจ
“สถานการณ์ของครอบครัวผมไม่ค่อยดี ผมต้องอยู่ที่บ้านของลุงเพราะว่ามันอยู่ใกล้กับสนามซ้อม ผมไม่มีเงินพอจะขึ้นรถ ผมขายลูกกวาดและไอศกรีม และทำงานอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือครอบครัว ความฝันของผมคือการเป็นนักฟุตบอล และมันต้องใช้ความอดทน ความศรัทธา เพื่อไปให้ถึงจุดนั้น” ดาวยิงเอฟเวอร์ตันทิ้งท้าย