"พาณิภัค"พร้อมเต็มสูบ ขอล้างตาเอเชียนเกมส์
"น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเบอร์1โลก ที่มุ่งมั่นจะคว้าเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ที่อินโดนีเซียให้ได้
"น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเบอร์1โลก ที่มุ่งมั่นจะคว้าเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ที่อินโดนีเซียให้ได้
*******************
โดย...ชมณัฐ
ทัพเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองในเอเชียนเกมส์มา 2 สมัยติด ดังนั้นครั้งนี้ที่ประเทศอินโดนีเซีย จึงถือเป็นกีฬาความหวังลำดับต้นๆ ที่จะสร้างความสำเร็จให้ประเทศ โดยเฉพาะ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเบอร์ 1 โลก ที่หมายมั่นปั้นมือจะล้างตาจากความผิดหวังเมื่อครั้งที่แล้ว
พาณิภัค สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นนักเทควันโดหญิงหมายเลข 1 ของโลกในรุ่น 49 กก.คนปัจจุบัน พร้อมยังผงาดคว้าแชมป์โลกมาแล้วเมื่อปี 2015 ทว่ายังมีสิ่งค้างคาใจนั่นก็คือเหรียญทองในศึกเอเชียนเกมส์ ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนที่ประเทศเกาหลีใต้ เจ้าตัวอกหักได้เพียงแค่เหรียญทองแดงปลอบใจในรุ่น 45 กก.
“เอเชียนเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของตัวเอง ครั้งที่แล้วเสียดายมากที่ได้เพียงเหรียญทองแดง แต่เหรียญทองก็มีคนได้แค่คนเดียว เราอยากได้คู่แข่งก็อยากได้ ซึ่งตอนนี้พร้อมเต็มร้อยแล้วทั้งร่างกายและจิตใจ ถือว่ามีโอกาสสูงที่จะคว้าเหรียญทองมาได้ เพราะเราโตขึ้นและมีประสบการณ์มากขึ้น” จอมเตะวัย 21 ปี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องที่ทำให้ “เทนนิส” หนักใจเล็กน้อย นั่นก็คือการปรับเปลี่ยนกติกาใหม่ให้นักกีฬาสามารถผลักและดันคู่แข่งได้ ทำให้นักเทควันโดเจ้าของส่วนสูง 173 ซม.อย่างเธอ เสียเปรียบผู้เล่นที่ความสูงน้อยและแข็งแรงกว่า อย่างเช่นที่เคยพลาดท่าพลิกล็อกแพ้ คังโบรา จอมเตะหน้าใหม่จากเกาหลีใต้ ที่ปรี่เข้าสู้ประชิดตัว จนจอดป้ายศึกชิงแชมป์เอเชีย 2018 เพียงรอบ 16 คนสุดท้าย ทั้งที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่ามา 2 สมัย เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
“เป็นกติกาใหม่ที่คนตัวสูงอย่างเราก็ลำบาก และทำให้คนตัวเล็กได้เปรียบ เพราะเขาจะเข้าทำระยะใกล้ได้ดี จึงต้องฝึกยืนเตะไกลๆ ไม่ให้คู่แข่งเข้ามาถึงตัวได้ และต้องซ้อมหนักมากทั้งการไปเข้าคู่ฝึกที่ประเทศเกาหลีใต้ พยายามลงฝึกซ้อมเจอคู่ต่อสู้ตัวเล็ก รวมถึงฝึกซ้อมที่เชียงใหม่ ที่ฝึกความอดทน ความแข็งแรง ด้วยการวิ่งขึ้นเขาและดอยสุเทพทุกวัน”
นอกจากนี้ พาณิภัค ยังภาวนาว่าอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่าของตัวเองจะไม่กำเริบขึ้นมาระหว่างทัวร์นาเมนต์ด้วย โดยจะพยายามรักษาสภาพร่างกายให้ดีที่สุด พร้อมเชิญชวนแฟนกีฬาทั่วประเทศร่วมส่งแรงเชียร์ทัพเทควันโดทีมชาติไทย ซึ่งประเภทต่อสู้จะลงแข่งวันที่ 20-23 ส.ค.นี้ สัญญาว่าทุกคนจะทำเต็มที่แน่นอน และเชื่อว่าจะนำความสำเร็จมาฝากคนไทยได้เช่นกัน
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย
ด้าน ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมถึงจอมเตะสาวในสังกัด ว่าได้ฝึกซ้อมมาอย่างหนัก และมั่นใจว่าเจ้าตัวเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น วุฒิภาวะและความคิดความอ่านสูงขึ้น ประสบการณ์เพิ่มขึ้น ทำให้มีลุ้นอย่างแน่นอน
“หลังจากมีการเปลี่ยนกฎเทนนิสได้ฝึกซ้อมอย่างหนัก และหวังว่าจะทำให้เขาแข็งแรงมากขึ้น มีพละกำลังและกล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้นที่จะไปดันกับคู่แข่งได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าแม้จะเจอคู่แข่งที่เตี้ยล่ำได้เปรียบเรื่องความแข็งแกร่ง แต่เทนนิสก็ยังสามารถใช้จุดเด่นเรื่องความสูงยาวเตะศีรษะเขาได้แน่นอน” บิ๊กเอ เผย
นายใหญ่ทัพเทควันโดไทยทิ้งท้ายว่า เรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินนั้นไม่น่าเป็นห่วง เพราะทุกวันนี้ใช้เกราะไฟฟ้าที่แสดงผลชัดเจนแล้ว แต่ก็เน้นย้ำทุกคนว่าห้ามประมาทยิ่งหากเจอ “เจ้าภาพ” ก็ต้องเตะให้ขาด พร้อมมั่นใจว่าจะมีลุ้นเหรียญทองทั้งประเภทต่อสู้และประเภทพุมเซ่แน่นอน
ทั้งนี้ ทัพจอมเตะไทยส่งนักกีฬาเข้าชิงชัยในประเภทต่อสู้ทั้งสิ้น 7 คน แบ่งเป็น หญิง 3 คน โดยนอกจาก “เทนนิส” แล้วยังมี “นก” พรรณภา หาญสุจินต์ (53 กก.) กับ “ฟ้า” วิภาวรรณ ศิริพรเพิ่มศักดิ์ (57 กก.) และชาย 4 คน นำโดย “เจ้าเทม” เทวินทร์ หาญปราบ ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ขยับน้ำหนักมารุ่น 63 กก. “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารีย์ (58 กก.) “นัด” ณัฐวีร์ กล่อมพงศ์ (68 กก.) และ “ร็อค” ณัฐภัทร ตันตรามาตย์ (มากกว่า 80 กก.)
นอกจากนี้ ยังมีประเภทพุมเซ่ (ร่ายรำ) อีก 6 คน (ชาย 3 หญิง 3) ซึ่งจัดแข่งในเอเชียนเกมส์ครั้งแรก