"ฝรั่งเศส"แกร่งทั่วแผ่น สมราคาแชมป์โลก 2018

ทัพนักเตะฝรั่งเศสยังบลัดชุดนี้ยังมีภารกิจสำคัญในรายการต่อไปคือการล้างตาในศึกยูโร 2020

********************

โดย...ชมณัฐ

ฝรั่งเศสปิดฉาก 20 ปีที่รอคอย ผงาดคว้าแชมป์โลก 2018 มาครองอย่างยิ่งใหญ่ และกลายเป็นทีมที่ถูกจับตาว่าจะเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจากขุมกำลังดาวรุ่งที่แข็งแกร่งทั่วทั้งทีม

ทัพเลเบลอส์โชว์ศักยภาพให้ทั่วโลกได้เห็นด้วยการปราบโครเอเชีย 4-2 ในนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ต่อจากปี 1998 ที่บ้านเกิด และยังเป็นการลบล้างความผิดหวังในการคว้าตำแหน่งพระรองศึกยูโร 2016 ก่อนหน้านี้

“เราเป็นทีมคนหนุ่มที่ก้าวขึ้นมายืนบนจุดสูงสุดของโลก บางคนเป็นแชมป์ในวัยเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น เราแสดงให้เห็นถึงหัวใจที่แข็งแกร่ง และสุดท้ายเราก็ยิงได้ 4 ประตู เราสมควรเป็นผู้ชนะ พวกเราทำงานกันอย่างหนัก และต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความเจ็บปวดที่แพ้ในยูโรเมื่อ 2 ปีก่อนทำให้เราได้เรียนรู้” ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือตราไก่ กล่าว

เทรนเนอร์วัย 49 ปี ยังจารึกสถิติเป็นคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลกทั้งในฐานะนักเตะและโค้ช ต่อจาก มาริโอ ซากัลโล (บราซิล) และฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ (เยอรมนี)

ฝรั่งเศสชุดนี้ไม่แพ้ใครตลอดทัวร์นาเมนต์ที่ลงเล่น 7 นัด (เสมอ 1 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม) ยิงได้รวม 14 ประตู เสีย 6 ประตู มี อองตวน กรีซมันน์ และคีเลียน เอ็มบัปเป ยิงเยอะสุดที่ 4 ประตู เป็นรอง แฮร์รี เคน ดาวซัลโวจากอังกฤษ เพียงลูกเดียว ขณะที่แผงกองกลางก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถกำราบมิดฟิลด์ประสบการณ์สูงของโครเอเชียได้อยู่หมัด โดย ปอล ป็อกบา และเอ็นโกโล ก็องเต มีสถิติลงตัวจริงพร้อมกัน 19 นัดทีมไม่เคยแพ้ (ชนะ 15 เสมอ 4)

“คุณใส่หัวใจของคุณให้กับมัน คุณทำให้ประเทศของคุณภาคภูมิใจ มีชาวฝรั่งเศส 66 ล้านคนกำลังเฝ้ารอคอยคุณ มีเด็กหนุ่มมากมายที่นั่น คุณคือตัวอย่างของประเทศ” เอ็มมานูเอล มาครงประธานาธิบดีของฝรั่งเศส กล่าวหลังร่วมฉลองแชมป์กับนักเตะอย่างใกล้ชิดในห้องแต่งตัว

ที่สำคัญที่สุด “ตราไก่” คือทีมที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ในบรรดา 32 ทีมที่ฟาดแข้งที่ 26 ปีเท่านั้น ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

“การยิงประตูในแมตช์ชิงชนะเลิศเป็นสิ่งที่พิเศษ แต่ผมมองไปข้างหน้า ผมควรจะทุ่มเทอย่างหนักเพื่อพัฒนาฝีเท้าให้ดีขึ้นอีก เมื่อคุณคว้าแชมป์โลกมาครองคุณย่อมก้าวไปอีกระดับ ผมจึงสามารถพูดได้เลยว่าเส้นทางสำหรับผมยังอีกยาวไกล นี่เพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้น” เอ็มบัปเป เจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมและสถิติอายุน้อยสุดอันดับ 2 ที่ยิงในได้นัดชิงฯ (19 ปี 207 วัน) เผย

ดาวรุ่งจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ยืนยันจะไม่ย้ายทีมแน่นอน ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามในทัวร์นาเมนต์นี้ ถึงขนาดที่ เปเล่ ตำนานทีมชาติบราซิล และเจ้าของสถิติอันดับ 1 แข้งอายุน้อยสุดที่ยิงในนัดชิงฯ (17 ปี 249 วัน เมื่อปี 1958) ยังกล่าวชื่นชม

ขณะที่หลังบ้านคู่เซ็นเตอร์อย่าง ราฟาเอล วาราน (25 ปี) และซามูเอล อุมติตี (24 ปี) ก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนในแนวรับ โดยเฉพาะรายแรกที่คว้าแชมป์สโมสรกับเรอัล มาดริด มาแล้วถึง 15 ใบ นำโดย ลาลีกาสเปน 2 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย ซึ่งเป็นการผลัดใบต่อจาก อดิล รามี กองหลังวัย 32 ปี ที่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติหลังคว้าแชมป์

“บรรยากาศในห้องแต่งตัวของเราบ้ามากหลังจากคว้าแชมป์ ตอนนี้เราต้องดื่มด่ำกับช่วงเวลานี้อย่างเต็มที่ ผมรู้ว่าสิ่งที่น่าทึ่งกำลังเกิดขึ้นที่ฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน ผมแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะกลับถึงปารีสและร่วมฉลองกับทุกคน” วาราน ที่มี ลิลิยอง ตูราม เป็นไอดอล ทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสยังบลัดชุดนี้ยังมีภารกิจสำคัญในรายการต่อไปคือการล้างตาในศึกยูโร 2020 ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่าทีมชุดนี้จะสานต่อความสำเร็จคว้าแชมป์ 2 รายการใหญ่ติดต่อกันเหมือนที่รุ่นพี่ชุดแชมป์โลกปี 1998 เคยทำไว้ได้หรือไม่