posttoday

พรีวิวกลุ่มเอฟ : อินทรีเหล็กแกร่งทุกแดน

06 มิถุนายน 2561

เยอรมนี แชมป์เก่ายังคงแกร่งทุกขุมกำลัง ปีนี้หวังป้องกันถ้วยเพื่อทำสถิติคว้าโทรฟี่สูงสุดเป็นสมัยที่ 5 เทียบเท่าบราซิล ซึ่งรอบแรกในกลุ่มเอฟคงไม่เหนือบ่ากว่าแรง

เยอรมนี แชมป์เก่ายังคงแกร่งทุกขุมกำลัง ปีนี้หวังป้องกันถ้วยเพื่อทำสถิติคว้าโทรฟี่สูงสุดเป็นสมัยที่ 5 เทียบเท่าบราซิล ซึ่งรอบแรกในกลุ่มเอฟคงไม่เหนือบ่ากว่าแรง

เยอรมนี (อันดับ 2 โลก)

ทัพอินทรีเหล็ก ยังเต็มไปด้วยผู้เล่นมากคุณภาพ หลายคนอยู่ในชุดแชมป์โลกครั้งที่แล้ว อาทิ เมซุต โอซิล โทมัส มุลเลอร์ โทนี โครส ฯลฯ และแน่นอนว่าเป้าหมายไม่มีสิ่งอื่นนอกจากป้องกันแชมป์เท่านั้น เพื่อเพิ่มสถิติเป็นสมัยที่ 5 ต่อจากปี 1954, 1974, 1990 และ 2014

จุดเด่น : แข็งแกร่งทุกแดน ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า และชัดเจนว่าวินัยในการเล่นคือจุดเด่นที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้

โค้ช : โจอาคิม เลิฟ ลองทีมหลากหลายรูปแบบทั้งแผนการเล่นและตัวนักเตะ ทำให้ผลงานยังไม่สู้ดี ไม่ชนะใครในเกมอุ่นเครื่อง 5 นัดหลังสุด (เสมอ 3 แพ้ 2) ทำให้ต้องจับตาดูว่าเมื่อแข่งจริงจะลงตัวขนาดไหน

คีย์แมน : โทนี โครส แม้จะไม่ใช่สไตล์ลากเลื้อยหวือหวา แต่ก็เป็นผู้บงการเกมกลางสนามทั้งหมดของทีม เหมือนที่แสดงให้เห็นมาแล้วในการพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์สโมสรยุโรป

ความน่าจะเป็น : ยังคงเป็นทีมเต็งแชมป์ หากไม่พลาดท่าเองคงยากที่จะหาทีมใดมาหยุดยั้งได้

เม็กซิโก (อันดับ 15 โลก)

เป็นขาประจำ มีเป้าหมายก็คือผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะ 6 ครั้งก่อนหน้านี้แม้จะผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้แต่ก็จอดเพียงรอบ 16 ทีมทุกครั้ง

จุดเด่น : ผู้เล่นหลายคนมีประสบการณ์โชกโชน ไม่ว่าจะเป็น โจวานนี ดอส ซานโตส คาร์ลอส เวลา รวมถึง “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ทำให้มีภาษีเหนือกว่าอีกหลายทีม

โค้ช : ฮวน คาร์ลอส โอซาริโอ กุนซือชาวโคลอมเบีย ทำทีมด้วยเกมรุกที่เร้าใจ แต่เกมรับก็เหนียวแน่น อุ่นเครื่อง 5 นัดหลังสุดชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 และเสียเพียงประตูเดียว

คีย์แมน : เออร์วิง โลซาโน ปีกตัวจี๊ดวัย 22 ปี จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ขึ้นชื่อเรื่องฝีเท้าที่จัดจ้าน มีทีเด็ดอยู่ที่การเลี้ยงตัดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าส่องสกอร์

ความน่าจะเป็น : ยังต้องควบคุมเรื่องความคงเส้นคงวา หากทำได้ดีมีลุ้นบรรลุเป้าหมาย

สวีเดน (อันดับ 23 โลก)

กำราบอิตาลีชิงตั๋วผ่านรอบเพลย์ออฟมาอย่างลุ้นระทึก คัมแบ็กคืนเวทีอีกครั้งในรอบ 12 ปี ครั้งนี้ตัดสินใจไม่เรียก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ศูนย์หน้าวัยเก๋าติดทีมมาด้วย ทำให้ความอันตรายลดลงไปเยอะ ต้องฝากความหวังไว้ที่ ยอห์น กุยเด็ตติ และโอลา ตอยโวเนน

จุดเด่น : ทัพไวกิ้งชุดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เกมรับ นำโดย อันเดรียส แกรนควิสต์ กองหลังกัปตันทีม ผสานงานร่วมกับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ

โค้ช : แยนน์ แอนเดอร์สสัน แม้จะพาทีมผ่านเข้ารอบมาได้แต่ก็ยังต้องพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้เห็น

คีย์แมน : เอมิล ฟอร์สเบิร์ก เพลย์เมคเกอร์จากไลป์ซิก โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตลอดปีจนพาต้นสังกัดจบอันดับ 6 บนตารางบุนเดสลีกา

ความน่าจะเป็น : เกมรับไม่น่าห่วง แต่เกมรุกยังต้องลุ้นว่าจะดีพอพาทีมผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้หรือไม่

เกาหลีใต้ (อันดับ 61 โลก)

ยึดโควตาทวีปเอเชียอย่างเหนียวแน่นเป็นสมัยที่ 9 ติดต่อกัน ปีนี้มีผู้เล่นที่ค้าแข้งในทวีปยุโรป 5 ราย

จุดเด่น : ประสบการณ์ที่โชกโชนทำให้ทัพโสมขาว รู้วีธีต่อกรกับคู่แข่งที่เหนือชั้นกว่าได้เป็นอย่างดี หากทีมไหนประมาทมีโอกาสโดนเล่นงานแน่นอน

โค้ช : ชินแทยัง แม้จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกของเจ้าตัวแต่ก็ไม่น่ากังวล เพราะมีประสบการณ์เพียบ เคยคุมทัพเยาวชนมาตั้งแต่ชุดยู-17 จนถึง ยู-23 ที่สำคัญยังเคยพาสโมสรซองนัม อิลวา คว้าแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2010 และแชมป์เคลีก 6 สมัย

คีย์แมน : ซนฮึงมิน คือความหวังในเกมรุกของเกาหลีใต้ชุดนี้ อยู่ที่ว่าจะสามารถระเบิดฟอร์มเก่งได้หรือไม่เท่านั้น

ความน่าจะเป็น : เป้าหมายแรกคือผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้ ซึ่งก็ถือว่ามีลุ้น เพราะคู่แข่งอย่าง เม็กซิโกและสวีเดน ไม่ได้เหนือกว่าเยอะ