posttoday

'เนย์มาร์' นำทัพแซมบ้าล้างอาย

05 มิถุนายน 2561

ศึกฟุตบอลโลก 2018 กลุ่มอี “เนย์มาร์” ดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก ความฟิตดีวันดีคืน พร้อมนำทัพบราซิล ล้างอายไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 6 มาครอง

โดย...ชมณัฐ

ศึกฟุตบอลโลก 2018 กลุ่มอี “เนย์มาร์” ดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก ความฟิตดีวันดีคืน พร้อมนำทัพบราซิล ล้างอายไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 6 มาครอง ในรอบแรกนี้โอกาสค่อนข้างสดใส เพราะคู่แข่งร่วมสายอีก 3 ทีมประสบการณ์ยังห่างชั้นอยู่เยอะ

บราซิล (อันดับ 2)

สั่งสมความชอกช้ำไว้เต็มอก หลังฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วในบ้านตัวเองผลงานสุดบู่คว้าเพียงอันดับ 4 ครั้งนี้จึงหวังที่จะล้างอายด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 6 และมีโอกาสสูงเมื่อ เนย์มาร์ สตาร์ตัวเก่งของทีมหายเจ็บคัมแบ็กคืนสนามได้แล้ว อีกทั้งยังยิงประตูได้อีกด้วย ในเกมอุ่นเครื่องชนะ โครเอเชีย 2-0 เมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย. ส่วนขุมกำลังอื่นยังเต็มไปด้วยแข้งมากประสิทธิภาพ

“มันเป็นการรอคอยที่ยาวนาน 3 เดือนนับตั้งแต่ที่บาดเจ็บ ผมค่อยๆ ดีขึ้นแม้จะยังไม่เต็มที่ก็ตาม ตอนนี้ผมฟิตประมาณ 80% แล้ว” เนย์มาร์ กล่าว

จุดเด่น : เกมรุกที่ดุดันและหลากหลายครั้งนี้นอกจากเนย์มาร์แล้วยังมี โรแบร์โตฟีร์มีโน ฟิลิปเป คูตินโญ กาเบรียล เฆซุส ฯลฯ ที่พร้อมเป็นทีเด็ด ทว่าแนวรับยังเป็นคำถามว่า เจา มีรันดา กับ ติอาโก ซิลวาจะช่วยทีมรอดพ้นการเสียประตูได้มากน้อยแค่ไหน

โค้ช : “ติเต้” เข้ามารับงานเมื่อปี 2016 พร้อมปรับจูนทีมจนเข้าที่ ผงาดคว้าอันดับ 1 ในรอบคัดเลือกด้วยผลงานชนะ 12 เสมอ 5 แพ้ 1 ยิงมากที่สุด 41 ประตู และเสียเพียง 11 ลูกจาก 18 นัดของรอบคัดเลือก

คีย์แมน : สปอตไลต์ทุกดวงจับจ้องไปที่เนย์มาร์ ว่าจะนำทีมประสบความสำเร็จได้หรือไม่ เหมือนที่เคยแบกทีมชุดโอลิมปิกคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2016

ความน่าจะเป็น : นักเตะในทีมชุดนี้หลายคนยังไม่เคยสัมผัสโทรฟี่สีทองอร่ามใบนี้ ดังนั้นความกระหายจะเป็นตัวแปรสำคัญ

'เนย์มาร์' นำทัพแซมบ้าล้างอาย


สวิตเซอร์แลนด์ (อันดับ 6)

เล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว 11 ครั้ง และสามารถทะลุถึงรอบ 8 ทีมได้ถึง 3 สมัย โดยปีนี้คว้าตั๋วมาได้อย่างเฉียดฉิวด้วยการเพลย์ออฟเฉือนไอร์แลนด์เหนือ ส่วนขุมกำลังใช้แข้งหน้าเดิมเป็นแกน นำโดยสเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ แบ็กขวากัปตันทีมจากยูเวนตุส รวมถึง กรานิต ชากา และเซอร์ดาน ชากิรี

จุดเด่น : ขุนพลสวิสชุดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ทีมเวิร์ก หลายคนร่วมหัวจมท้ายในสีเสื้อทีมชาติมาโชกโชน ถือเป็นทีมที่มีความสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับ

โค้ช : วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช กุนซือชาวบอสเนีย เข้ามาคุมทีมตั้งแต่ปี 2014 เน้นสไตล์เกมรับที่รัดกุมมากกว่าเกมรุกที่
สวยงาม

คีย์แมน : กรานิต ชากา กองกลางจากอาร์เซนอล เป็นแกนสำคัญของทีมทั้งเกมรุกและรับ

ความน่าจะเป็น : มีลุ้นเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ตามบราซิล เพราะภาษีดีกว่าคู่แข่งอีก 2 ทีม

'เนย์มาร์' นำทัพแซมบ้าล้างอาย


คอสตาริกา (อันดับ 25)

เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 5 หวังสานต่อความสำเร็จที่สร้างเซอร์ไพรส์เมื่อครั้งก่อน นักเตะส่วนใหญ่ยังคงเป็นชุดเดิมแต่เพิ่มเติมคือประสบการณ์ที่มากขึ้น

จุดเด่น : โชว์การเล่นรับที่เหนียวแน่นให้ชาวโลกได้เห็นมาแล้วในครั้งก่อนด้วยการเสียเพียง 2 ประตูตลอดทัวร์นาเมนต์ ปีนี้ในรอบคัดเลือกก็ยังทำได้ดีต่อเนื่อง

โค้ช : ออสการ์ รามิเรซ เข้ามาสานงานต่อเมื่อปี 2015 และรักษาจุดเด่นเดิมของทีมไว้ได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุดเพิ่งพาทีมผ่านเข้ารอบตัดเชือกศึกคอนคาเคฟ โกลด์
คัพ 2017

คีย์แมน : เคย์เลอร์ นาบาส ยึดตำแหน่งนายด่านมือ 1 เรอัล มาดริด ได้เต็มภาคภูมิล่าสุดเพิ่มความมั่นใจด้วยแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

ความน่าจะเป็น : หากรักษาเกมรับอันเป็นจุดแข็งได้มีโอกาสทะลุรอบแบ่งกลุ่มได้เช่นกัน

'เนย์มาร์' นำทัพแซมบ้าล้างอาย


เซอร์เบีย (อันดับ 35)

ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มที่แพ้เพียงนัดเดียวจาก 10 เกมในรอบคัดเลือกขุมกำลังเต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีที่โลดแล่นอยู่ทั่วยุโรป อาทิ เนมานยา มาติช และเซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช โดยขาดเพียง มาติยา นาสตาซิช แนวรับจากชาลเก ที่ฟิตไม่ทัน

จุดเด่น : นักเตะมีความสามารถเฉพาะตัวสูง หลายคนมีประสบการณ์ในนามสโมสรโชกโชน แต่ต้องดูว่าเมื่อรวมกันแล้วจะกลมกล่อมแค่ไหน

โค้ช : มลาเดน เคิร์สตายิช อดีตกองหลังทีมชาติ เข้ามารับไม้ต่อแทนที่สลาโวลยุป มุสลิน ที่พาทีมคว้าตั๋ว รายการนี้แต่โดนเด้งฟ้าผ่าเพราะทะเลาะกับสมาคมฟุตบอลของประเทศ ทำให้ต้องจูนทีมพอสมควร

คีย์แมน : มิลินโควิช-ซาวิช จอมทัพจากลาซิโอ โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นจนกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง โดยมีจุดเด่นที่ครบเครื่อง จบสกอร์คมทั้งสองเท้า รูปร่างสูงใหญ่
และครองบอลเหนียวแน่น

ความน่าจะเป็น : จับตาทีมเวิร์ก ถ้าเข้าขากันดีมีโอกาสสดใสถึงรอบน็อกเอาต์


ภาพ - เอเอฟพี