อาชีพนักเทนนิสสะดุด นางฟ้ามาเรียดันธุรกิจทำเงิน

โดย...นูโน่

ด้วยวัยจะครบ 31 ปีในเดือนหน้า มาเรียชาราโปวา ยังต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อทวงความยิ่งใหญ่ในวงการเทนนิสกลับมา นับตั้งแต่พ้นโทษแบน 15 เดือนกรณีถูกตรวจพบสารต้องห้าม สวนทางกับอีกบทบาทในฐานะนักธุรกิจ 

ย้อนไปเมื่อปี 2012 ชาราโปวา ควักกระเป๋า 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16 ล้านบาท) ลงทุนในบริษัทลูกอม “ซูการ์โปวา” ก่อนที่ในปี 2016 จะขยายสินค้าตัวช็อกโกแลตพรีเมียมเพิ่ม และ 6 ปีที่ผ่านมา ได้ขายทั้งสองอย่างไป 22 ประเทศ พร้อมตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้ขึ้น 3 เท่าเป็น 20 ล้านดอลลาร์ภายในปีนี้

ล่าสุด เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 5 สมัยชาวรัสเซีย ยังได้จับมือกับสมาคมเจ้าของธุรกิจสตรีแห่งชาติ (NAWBO) เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการหญิง และมีส่วนช่วยผลักดันกลุ่มสตาร์ทอัพทั้งหลายด้วย

“การได้พบปะกับผู้จัดจำหน่ายจากเครือข่ายค้าปลีกและร้านขายของชำที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่ ฉันจะเป็นเจ้าของธุรกิจหญิงคนเดียวในห้องที่เต็มไปด้วยมืออาชีพและซีอีโอผู้ชาย แม้ว่าฉันจะรู้สึกว่าตัวเองมาจากจุดที่มีพลัง แต่ในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ ฉันยังเชื่อว่ามีปัจจัยเรื่องของความกลัวเช่นเดียวกับตัวแปรเรื่องอายุอยู่” นางฟ้านักหวด กล่าว

แบ่งปันความรู้

“มันต้องใช้เวลาในการสร้างความมั่นใจ และฉันคิดว่านั่นคือสิ่งหนึ่งที่ฉันจะร่วมแบ่งปันความรู้กับผู้หญิงเหล่านี้ โดยเฉพาะสาวๆ วัย 20 หรือ 30 ปี หรือแม้แต่วัยทีนตอนปลาย ที่ยังอยู่ในระดับมัธยม ที่กำลังพัฒนาอะไรบางอย่าง มีความหลงใหลในอะไรบางสิ่ง มีพรสวรรค์และการสร้างสรรค์อย่างทึ่ง แต่ขี้อาย ไม่ต้องการก้าวออกมา ไม่ต้องการคิดค้น”

เพราะเธอเชื่อว่าสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มเหล่านั้นได้ เนื่องจากเคยอยู่ในจุดนั้นมาแล้วหลายครั้ง แม้ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่

ประสบการณ์เสริมทักษะ

ชาราโปวา สร้างเซอร์ไพรส์คว้าแชมป์วิมเบิลดันตั้งแต่อายุ 17 ปี ก่อนก้าวสู่มือ 1 โลกในปีต่อมา และขึ้นแท่นเป็นนักกีฬาหญิงที่มีรายได้สูงสุดในโลก 11 ปี จากเงินรางวัลและสปอนเซอร์เกือบ 300 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 9,600 ล้านบาท) เมื่อปี 2015

ความสำเร็จในวิมเบิลดัน 2004 ทำให้เธอกลายเป็นสตาร์ระดับโลกในชั่วข้ามคืน และนำมาสู่การร่วมมือกับ แม็กซ์ ไอเซนบัด เอเย่นต์คู่ใจที่ไอเอ็มจี สร้างมูลค่าด้านการตลาดและธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการเซ็นสัญญาก้อนโตกับยักษ์ใหญ่อย่าง พอร์ช ไนกี้ เอเวียง และเฮด เป็นหุ้นส่วน ซูเปอร์กูป บริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลผิว รวมถึงยูเอฟซี องค์กรกีฬาที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ตลอดจนลงทุนในประสบการณ์ด้านสังคมและการกุศลที่ชาญฉลาด

“ฉันโชคดีมากที่ได้เรียนรู้จากบริษัทที่ดีเยี่ยมและผู้คนที่มีความรู้มากกว่าฉัน ด้วยเหตุนี้ ฉันสามารถเข้าใจข้อดีในตัว เข้าใจข้อบกพร่อง เข้าใจจุดแข็งของตัวเอง เข้าใจว่าต้องการลงทุนอะไร ฉันมักจะมีคนที่คอยแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วย และคิดว่าผู้หญิงหลายคนอาจไม่มีโอกาสนี้มากนัก แม้ว่าพวกเขาจะมีไอเดียดีๆ อยู่ในมือ ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้ หากพวกเขาได้รับคำปรึกษาอย่างถูกต้อง”

ทำจริงไม่อิงสร้างภาพ

สำหรับโครงการผู้ประกอบการสตรีของชาราโปวานี้ จะเริ่มในฤดูใบไม้ผลิ ด้วยการเปิดรับผู้สมัครจากทั่วประเทศ ซึ่งสามารถเลือกนักธุรกิจหญิงได้ถึง 6 คน เพื่อเข้ารับคำปรึกษาเป็นเวลา 12 เดือน โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกแต่ละรายจะได้รับการสนับสนุนและทรัพยากรจากทีมพัฒนาธุรกิจและการตลาดของชาราโปวา และสถาบัน NAWBO

“ฉันจะอยู่ในห้องกับพวกเขา และจะแนะนำพวกเขากับทีมงานที่ NAWBO และสมาชิกในทีมงานของฉัน ซึ่งคอยช่วยฉันทำให้มีซูการ์โปวาในวันนี้ ตลอดจนธุรกิจอื่นๆ ที่ฉันมีอยู่” ชาราโปวา ยืนยัน

เมื่อถามว่านักธุรกิจคนใดในโลกที่เธอชื่นชอบ เธอเอ่ยถึง เชอรีล แซนด์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของเฟซบุ๊ก, โบโซมา เซนต์ จอห์น ประธานเจ้าหน้าที่แบรนด์สินค้าของอูเบอร์ และ อดัม ซิลเวอร์ กรรมาธิการศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ ซึ่งสาวสวยรัสเซียมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ที่สำนักงานของ ซิลเวอร์ ในนิวยอร์ก เมื่อปี 2016 ระหว่างติดโทษแบน

“แนวทางที่เขานำทีมในห้อง รวมไปถึงการปล่อยให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นของตัวเองและมีสติ ฉันประทับใจมาก ฉันรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ผู้นำควรจะเป็น” เธอพูดถึง ซิลเวอร์

โครงการนี้อาจจะไม่ได้สร้างมูลค่าออกมาเป็นเม็ดเงินเหมือนผลิตภัณฑ์ แต่ ชาราโปวา เชื่อว่าเธอจะได้เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับในเวลาเดียวกัน

“ฉันชอบใช้สมองทำงาน ดังนั้นฉันคิดว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉัน ที่ได้เข้าใจที่มาของผู้คน เข้าใจความกลัวของพวกเขา ได้เห็นผู้คนในตลาดที่หลากหลาย และในประเภทที่แตกต่างกัน รวมทั้งได้รับฟีดแบ็กว่าพวกเขาเห็นตลาดในปัจจุบันเป็นอย่างไร” ชาราโปวา ทิ้งท้าย

เพราะสิ่งเหล่านี้อาจตอบแทนกลับมาเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ