เสียงสะท้อน 'วินเทอร์เทสต์' โมโตจีพีไทยจ่อแจ้งเกิด

โดย ชมณัฐ

โหมโรงกันไปแล้วสำหรับ “โมโตจีพี วินเทอร์เทสต์” ที่เหล่าบรรดานักแข่งระดับโลกทุกค่ายเดินทางมาทดสอบสมรรถภาพรถของตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ รวมถึงทดสอบสนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สังเวียนใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในปฏิทินแข่งขันปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามีกระแสตอบรับมากมายหลายด้านที่เป็นแนวโน้มบ่งชี้ว่าศึก “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018” วันที่ 5-7 ต.ค.นี้ จะประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหน

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี” ฤดูกาล 2018 จะเปิดฉากชิงชัยสนามแรกที่ประเทศกาตาร์ วันที่ 18 มี.ค.นี้ ซึ่งตามธรรมเนียมก่อนเปิดซีซั่นนักแข่งทุกค่ายจะร่วมโปรแกรมวินเทอร์เทสต์ หรือการนำรถมาวิ่งทดสอบเพื่อหาจุดบกพร่องและพัฒนาศักยภาพก่อนแข่งขันจริง ซึ่งปีนี้เปลี่ยนโฉมหน้าเจ้าภาพจากสนามเซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย มาซิ่งกันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 16-18 ก.พ.

ทีมแข่งประทับใจ

แม้จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเป็นปีแรก แต่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ก็ไม่ทำให้ผู้มาเยือนต้องผิดหวัง จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อต้อนรับเหล่าบรรดานักแข่งระดับโลกและทีมงานทั้ง 12 ค่าย ที่เดินทางมาร่วมทดสอบความพร้อม

“เรารู้สึกประทับใจกับสนาม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนามบุรีรัมย์ มันต่างจากที่เราจินตนาการไว้มาก เรารู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลากับการทดสอบในสนามใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งสนามนี้น่าจะเหมาะกับเรา นักแข่งอาจจะยังรู้สึกลำบากจากปัญหาต่างๆ ในสนาม อย่างไรก็ตาม เรายังมีการทำงานเพื่อจะแก้ไขปัญหา และทำให้นักแข่งทำงานได้ดีขึ้น” มาสซิโม เมกัลลี ผู้อำนวยการทีมมูวิสตาร์ ยามาฮ่าโมโตจีพี กล่าว

นอกจากนี้ เจ้าภาพยังอำนวยความสะดวกให้แก่สื่อมวลชนหลากหลายสัญชาติที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเกาะติดสถานการณ์ เพื่อรายงานข่าวด้วย ห้องมีเดียรูมซึ่งเปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางการทำงานมีเจ้าหน้าที่สนามคอยบริการตอบข้อสงสัยและอำนวยความสะดวกทุกด้าน

ความท้าทายเรียกเรตติ้ง

สนามช้างฯ ขึ้นชื่อว่าเป็นสนามที่มีความท้าทายบนระยะทางต่อรอบ 4.554 กม. มีไฮไลต์อยู่หลายจุด อาทิ ทางตรงยาว 1 กม. ที่ให้นักแข่งได้บิดคันเร่งได้เต็มกำลัง โดยในวินเทอร์เทสต์ครั้งนี้นักแข่งสามารถเร่งความเร็วได้ทะลุ 330 กม./ชม. ตลอดจนทางโค้งที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 200 กม./ชม. รวมถึงโค้งยูเทิร์นหักศอกขวา 126 องศา

 “ผมชอบแทรกนี้จริงๆ ผมคิดว่ามันจะมีบางจุดที่เบรกยากและมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ มันยังมีโค้งที่เร็วด้วย พื้นสนามมีสภาพที่ยอดเยี่ยม จุดสำคัญอยู่ที่สองโค้งแรกหลังจากออกตัว เพราะมันจะตามมาด้วยทางตรงยาว และสามโค้งสุดท้ายคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณเร่งสปีดได้มากขึ้น” ดานิลโล เปตรุซซี นักบิดชาวอิตาเลียนสังกัดดูคาติ จีพี 18 ที่ทำความเร็วได้สูงสุดในการทดสอบวันแรกที่ 331.3 กม./ชม. กล่าว

เช่นเดียวกับ มาร์ค มาร์เกวซ แชมป์โลกโมโตจีพี 4 สมัย จากเรปโซล ฮอนด้า ที่ชื่มชมสนามแห่งนี้ว่ามีความท้าทายมาก โดยมีการเบรกและการเร่งความเร็วที่ยากลำบาก รวมถึง วาเลนติโน รอสซี จอมเก๋าจากโมบิสตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพีที่กลับลำมาชมสนามเมืองไทย พร้อมเทียบว่าดีกว่าสังเวียนที่มาเลเซียมาก โดยเฉพาะออกซิเจนในอากาศเวลาหายใจ

ด้าน รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักแข่งโมโตทู ชี้ว่าการที่นักแข่งระดับโลกจะสามารถทำความเร็วระดับนี้ได้บนสังเวียนแห่งนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

“การที่พวกเขาจะทำความเร็วในระดับนี้ได้ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลย ต้องวางแผนเตรียมเครื่องยนต์ เตรียมยางกันมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญแทบทุกโค้งของสนามเป็นโค้งที่ต้องใช้ความเร็ว โดยจะมีเพียงโค้งเดียวที่ต้องชะลอหยุด ดังนั้นทุกคนต้องมีความชินกับสนามอย่างดีถึงจะทำผลงานออกมาได้ดีที่สุด” ฟิล์ม กล่าว

คนดูน้อย?

ตลอดช่วงวินเทอร์เทสต์ต้องยอมรับว่าจำนวนคนดูในสนามไม่ได้ล้นทะลักเต็มความจุ จะมีความคึกคักอยู่บ้างบนฝั่งแกรนด์สแตนด์ แต่ช่วงจุดอื่นๆ หรือสแตนด์ย่อยยังดูเงียบเหงา แม้ยอดซื้อตั๋วโมโตจีพีที่สามารถเข้าชมการทดสอบครั้งนี้ได้ฟรีจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม ทำให้หลายคนเป็นกังวลว่าเมื่อถึงวันแข่งจริงจะมีคนดูเต็มความจุอย่างที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่

“การทดสอบจะไม่เหมือนวันแข่ง เพราะวันทดสอบนักแข่งจะเทสต์ไปเรื่อยๆ ตลอดวัน 8 ชม. คนดูในสนามหลายคนไม่ได้นั่งดูตลอด 3-4 ชม. บางคนสลับออกไปร่วมกิจกรรมพิเศษด้านนอกที่เราจัดเตรียมไว้ให้มากมาย สแตนด์จึงเปลี่ยนขึ้นลงตลอด แต่ภาพรวมแฟนๆ ที่เดินทางเข้ามาร่วมงานนั้นถือว่าเป็นจำนวนที่คึกคักมาก และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ” ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้างฯ กล่าว

ขณะที่ “ฟิล์ม” รัฐภาค มองว่าวินเทอร์เทสต์ที่เมืองไทยมีความคึกคักกว่าที่เคยจัดมาในหลายประเทศ

“จำนวนคนดูที่เข้ามาชมในสนามถือว่าเยอะนะ เพราะเป็นครั้งแรกของเมืองไทยหลายคนจึงอยากเข้ามาดูสตาร์ระดับโลก ที่สำคัญยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมายนอกสนาม ต่างจากสนามเซปังที่จัดเทสต์มาแล้วหลายครั้งคนร่วมงานก็ยังไม่เยอะเท่านี้ หรือแม้แต่สนามเฆเรซ ประเทศสเปน ที่ผมเคยไปทดสอบ เขาก็จะไม่มีกิจกรรมนอกสนามแบบนี้ทำให้คนดูแทบจะไม่มีเลย” อดีตนักบิดขวัญใจชาวไทย ทิ้งท้าย

เรียกได้ว่ากระแสส่วนใหญ่มองไปในทิศทางบวกทั้งความพร้อมของฝ่ายจัดการแข่งขัน รวมถึงคอมเมนต์จากเหล่าบรรดานักแข่งที่พูดถึงความท้าทายของสนามแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นการเรียกเรตติ้งให้แฟนโมโตจีพีไม่พลาดที่จะจับตามองในวันแข่งขันจริงแน่นอน