posttoday

‘เอลกลาซิโก’ ความชอกช้ำของมาดริด

25 ธันวาคม 2560

ศึก เอล กลาซิโก ครั้งที่ 175 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. จบลงด้วยความผิดหวังของเรอัล มาดริด หลังเปิดรัง ซานติอาโก เบอร์นาบิว

โดย...ราชันเบอร์ 23

ศึก เอล กลาซิโก ครั้งที่ 175 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. จบลงด้วยความผิดหวังของเรอัล มาดริด หลังเปิดรัง ซานติอาโก เบอร์นาบิว พ่ายบาร์เซโลนาคู่ปรับตลอดกาล 0-3 ทำให้ "ราชันชุดขาว" มีคะแนนตามหลัง "บาร์ซา" จ่าฝูง 14 แต้ม โดยประเด็นที่น่าสนใจมีหลายอย่าง

"คิง ออฟ เอล กลาซิโก"

ลิโอเนล เมสซี ยิง 526 ประตู ให้กับบาร์ซา ในทุกรายการ ทำสถิติยิงประตูจากการลงเล่นให้กับสโมสรเดียว ตลอดทุกการแข่งขัน มากสุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป แซงหน้า แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานกองหน้าทีมชาติเยอรมันตะวันตก ที่ยิงให้บาเยิร์น 525 ประตู โดยกองหน้าทีมชาติ "ฟ้าขาว" ยิงในเกมเอล กลาซิโก 25 ประตู และมาซัดประตูที่ 15 ที่เบอร์นาบิว จึงได้ฉายาว่า "คิง ออฟ เอล กลาซิโก"

"ชุดขาว" พ่ายแต่สถิติเหนือกว่า

สถิติการพบกันในศึก "เอล กลาซิโก" ทั้งหมด 175 ครั้งในลีก เป็นเรอัล มาดริด ที่เอาชนะได้มากกว่า 72 ครั้ง ส่วนบาร์เซโลนา ชนะ 70 ครั้ง และเสมอ 33 ครั้ง

ส่วนการพบกันในบ้านของเรอัล มาดริด เป็น "ราชันชุดขาว" ที่เอาชนะ 52 ครั้ง แพ้ 21 ครั้ง และเสมอ 15 ครั้ง โดย "โลส บลังโกส" ยิงได้ 283 ประตู และเสีย 299 ประตู

แต่ถ้าหากรวมทุกรายการทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้ว 236 ครั้ง ซึ่ง เรอัล มาดริด ชนะ 95 ครั้ง บาร์เซโลนาชนะ 93 ครั้ง และเสมอ 49 ครั้ง โดยทีมที่ทำประตูได้มากกว่าคือ เรอัล มาดริด ที่ 398 ประตู ขณะที่บาร์เซโลนายิงได้ 384 ประตู

"โรนัลโด" ฟอร์มฝืดซีซั่นนี้

คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าซุป'ตาร์ของมาดริด อยู่ในช่วงฟอร์มตกสุดขีด มีโอกาสหลายครั้งที่จะทำประตูให้เจ้าถิ่นออกนำ แต่ใช้โอกาสเปลือง ทำให้ผ่านไป 17 นัด เขาเพิ่งยิงได้แค่ 4 ประตูเท่านั้น หากเทียบกับซีซั่นก่อนที่จบฤดูกาลคว้าดาวซัลโวอันดับ 3 ด้วยจำนวน 25 ประตู

โอกาสลุ้นแชมป์ริบหรี่

สำนักข้อมูลลูกหนังในสเปนพบว่า ฤดูกาลไหนที่มาดริดตามจ่าฝูง 8-14 แต้ม พวกเขาไม่เคยได้แชมป์ลาลีกาฤดูกาลนั้นแม้แต่ครั้งเดียว โดยช่วงเดือน ต.ค. "ชุดขาว" บุกแพ้คิโรนา 1-2 ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลนา ถึง 8 คะแนน

อย่างไรก็ตาม อันเดรส อิเนียสตา มิดฟิลด์บาร์เซโลนา ประกาศชัด อย่าเพิ่งกาชื่อแชมป์เก่าหลุดวงโคจร แม้ไม่ใช่นัดชี้ชะตาตัดสินแชมป์ เพราะเพิ่งผ่านไป 17 นัด

"ผมไม่คิดว่าระยะห่างช่องว่างระหว่างคะแนนจะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านของคุณภาพของทั้งสองทีม เรายังให้ความเคารพนับถือมาดริดอย่างสูงส่ง เรารู้ดีว่าเรอัล มาดริด คือหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้นเราไม่เคยปฏิเสธพวกเขาออกจากการลุ้นแชมป์ ยังเหลืออีกตั้งหลายเกม และประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มาดริดเคยพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าพวกเขาทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้มาแล้ว"

เปเรซกลับลำเสริมคมด่วน

ก่อนหน้านี้ ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ออกมาบอกใบ้ว่าจะไม่เสริมทัพช่วงเดือน ม.ค. ทว่าหลังพ่ายแพ้ยับเยินในศึกเอล กลาซิโก เมื่อคืนที่ผ่านมา นายใหญ่แห่งเบอร์นาบิวต้องเปลี่ยนความคิดนี้

"ผมคิดว่าพวกเขาลงตัวและเป็นเวลาที่ไม่ควรเข้าไปขัดจังหวะ เราเพิ่งคว้าแชมป์สโมสรโลก แต่ผมก็ต้องคิดใหม่ เรามีคะแนนตามหลังบาร์ซาถึง 14 คะแนน มันมากเกินไป เราต้องเสริมกองหน้าโดยด่วน" บอสใหญ่มาดริด กล่าว

ทว่า ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือเรอัล มาดริด ไม่เห็นด้วย ยังยืนยัน "ราชันชุดขาว" ไม่มีอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลง

"ผมรู้สึกอย่างไรหลังจากแพ้ 0-3 ก็รู้สึกแย่ จริงๆ แล้วเรอัล มาดริด เริ่มต้นเกมกันได้ดี รูปเกมช่วงครึ่งแรกถือว่าสูสี แต่การแพ้ มันเป็นอะไรที่เจ็บปวด และทำใจยอมรับได้ยาก แต่นี่แหละฟุตบอล การเหลือผู้เล่นน้อยกว่า มันทำให้เกมเปลี่ยนและยากสำหรับเรา ช่วงครึ่งหลังเราเล่นพลาดกันเอง เล่นเกมรับก็แย่ ซึ่งความผิดพลาดในเกมระดับนี้มันชี้ผลแพ้-ชนะได้เลย แต่เราจะไม่บ้าคลั่งไปกับการแพ้ครั้งนี้ มันยอมรับได้ยากก็จริง แต่เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร"

สื่อสเปนวิเคราะห์ว่า แผงมิดฟิลด์ของเรอัล มาดริด ที่ส่ง มัตเตโอ โควาซิซ ลงเล่นแทน อิสโก เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเชื่อว่า "ราชันชุดขาว" จะซื้อตัว เคเป อาร์ริซาบาลากา ผู้รักษาประตู แอท.บิลเบา ด้วยค่าตัว 18.8 ล้านปอนด์ (ราว 752 ล้านบาท) เพื่อมาแทน เคย์เลอร์ นาบาส รวมถึงกองหน้ารายใหม่ และตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ช่วงตลาดซื้อขายเปิดเดือน ม.ค.นี้เพื่ออุดช่องโหว่

ซีดานเก้าอี้ร้อน

เคร็ก เบอร์ลีย์ อดีตดาวเตะเชลซีปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวอีเอสพีเอ็น วิเคราะห์ว่า เรอัล มาดริด ยังไม่ปลด ซีดาน ในตอนนี้ แต่หากร่วงแชมเปี้ยนส์ลีก คงไม่รอด

"ปกติเมื่อพวกเขาตามหลังคู่แข่งสำคัญ 14 คะแนน ฟลอเรนติโน เปเรซ จะไม่รอช้าในการปลดผู้จัดการทีม ทว่าผมคิดว่าเขายังมีความเชื่อมั่นในตัว ซีดาน ที่เพิ่งได้แชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัยติด ตอนนี้เขาต้องพุ่งสมาธิไปที่แชมเปี้ยนส์ลีก และหากเขาทำมันได้ เขาก็รักษางานของเขาไว้ได้ หากเขาทำไม่ได้และระยะห่างยังคงเพิ่มขึ้นในลีก เขาก็คงต้องไปตอนจบฤดูกาล"

เกมนี้ไม่ใช่เกมที่ตัดสินแชมป์ลาลีกา สเปน ในฤดูกาลนี้ แต่เชื่อลึกๆ ว่าแฟน "มาดริด" คงเผื่อใจไว้แล้ว

ฤดูกาลนี้คงต้องโฟกัสกับถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก