posttoday

กระหึ่ม"โปรเม"แซงคว้าแชมป์ปิดซีซั่น

20 พฤศจิกายน 2560

เอรียา เฉือนชนะ "เล็กซี่" 1 สโตรก คว้าแชมป์"ซีเอ็มอี"ส่งท้ายปี

เอรียา เฉือนชนะ "เล็กซี่" 1 สโตรก คว้าแชมป์"ซีเอ็มอี"ส่งท้ายปี

"โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 9 ของโลก เฉือนชนะ เล็กซี่ ธอมป์สัน(4/สหรัฐ) หลุมสุดท้าย คว้าแชมป์รายการส่งท้ายปีกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์"ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ"ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20พ.ย.ตามเวลาไทย

เอรียา ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายในตำแหน่งผู้นำร่วม สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ โดยออกรอบก๊วนสุดท้ายกับ มิเชล วี และคิม คอฟแมน 2 โปรชาวสหรัฐ

ช่วง 9 หลุมแรก โปรเมเปิดตัวด้วยโบกี้ที่หลุม 1 จนร่วงจากตำแหน่งผู้นำ จากนั้นมาเก็บ 2 เบอร์ดี้ที่หลุม 4 และ 6 ทำให้ขึ้นไป 11 อันเดอร์พาร์ และขึ้นไปนำร่วมชั่วคราวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม บรรดานักหวดชั้นนำของโลกต่างก็ทำสกอร์ไล่บี้กันอย่างสูสี เล็กซี่ ธอมป์สัน (4/สหรัฐ)ซึ่งนำคะแนนสะสม "Race to CME Globe" แรงขึ้นนำที่ 13 อันเดอร์พาร์หลังผ่าน 9 หลุมแรก ขณะที่มิเชล วี ผลงานขึ้นๆ ลงๆ ตลอดทั้งวัน เริ่มจากขึ้นไปนำเดี่ยวหลังเก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์เมื่อผ่านหลุม 7 แต่ก็ไปพลาดดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 9 พาร์ 4 จนร่วงไปตามเล็กซี่ที่ 11 อันเดอร์พาร์

ในช่วง 9 หลุมหลัง เล็กซี่เก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 14 หนีขึ้นไปนำเดี่ยวที่ 14 อันเดอร์พาร์ แต่โปรเมก็ลากเบอร์ดี้ยาวลงไปที่หลุม 13 พาร์ 4 เช่นเดียวกับมิเชล วี เพื่อนร่วมก๊วน ทำให้สกอร์ของทั้งคู่เป็น 12 อันเดอร์พาร์ ขึ้นไปเป็นอันดับ 2 ร่วมกับปาร์ก ซุง ฮยุน มือ 2 ของโลกชาวเกาหลีใต้ ตามหลังเล็กซี่ 2 สโตรก

ไฮไลต์อยู่ที่หลุมสุดท้าย คือ หลุม 18 พาร์ 4  เอรียา ทีออฟด้วยหัวไม้ 3 ไปตกกลางแฟร์เวย์ และเล่นช็อต 2 ขึ้นกรีนในระยะหวังผล ก่อนเก็บเบอร์ดี้ได้สำเร็จ รวมในรอบสุดท้าย โปรเมทำผลงาน 6 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ เก็บเพิ่มอีก 5 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมเป็น 15 อันเดอร์พาร์ 273 แซงคว้าแชมป์ได้ในหลุมนี้ รับเงินรางวัล 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (16.5 ล้านบาท) ขณะที่เล็กซี่ ธอมป์สัน และเจสซิก้า คอร์ด้า คว้าอันดับ 2 ร่วม สกอร์ 14 อันเดอร์พาร์ 274 นับเป็นแชมป์ที่ 2 ของโปรเมในปีนี้ต่อจากศึก Manulife LPGA Classic เมื่อมิ.ย.

ด้าน "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล จบ 3 วันแรก มีสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ ในรอบสุดท้ายเปิดหัวด้วยการเสียโบกี้ติดๆ กันที่หลุม 2 และ 3 แต่ก็แก้ตัวด้วย 3 เบอร์ดี้ที่หลุม 8, 11 และ 17 ทำให้เก็บเพิ่มอีก 1 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมเป็น 5 อันเดอร์พาร์ 283 คว้าอันดับ 30 ร่วม เท่ากับรยู โซยอน มือ 3 ของโลก

ส่วน "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ จบอันดับ 16 ร่วม สกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 279 เท่ากับลิเดีย โค อดีตมือ 1 ของโลกชาวนิวซีแลนด์

ด้านปาร์ก ซุง ฮยุน มือ 2 โลกชาวเกาหลีใต้ คว้าอันดับ 6 ร่วม สกอร์ 12 อันเดอร์พาร์ 276 และเฟิง ฉานฉาน มือ 1 โลกชาวจีน จบอันดับ 21 ร่วม 7 อันเดอร์พาร์ 281

ทั้งนี้ แม้เล็กซี่ ธอมป์สัน จะพลาดแชมป์ แต่ก็ได้เงินโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (33 ล้านบาท) จากคะแนนสะสม "Race to CME Globe" และรางวัล "Vare Trophy" สำหรับนักกอล์ฟที่ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุดในฤดูกาล

ขณะที่รางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ Rolex Player of the Year เป็นการครองร่วมกันของ 2 โปรเกาหลีใต้ ปาร์ก ซุง ฮยุน และรยู โซยอน เนื่องจากทั้งคู่มีคะแนนสะสมสูงสุดเท่ากันที่ 162 คะแนน โดยปาร์กนับเป็นนักกอล์ฟคนแรกต่อจากแนนซี่ โลเปซ เมื่อปี 1978 ซึ่งคว้ารางวัล Player of the Year และ Rookie of the Year ได้ในปีเดียวกัน

นอกจากนี้ ปาร์กยังคว้าตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดด้วยเงินรางวัลรวม 2,335,883 ดอลลาร์สหรัฐ (77 ล้านบาท)