นาดาล vs เฟดเอ็กซ์ ไคลแมกซ์ในฝันทิ้งทวน 2017

โดย นูโน่

การการันตีจบฤดูกาลในฐานะมือ 1 ของโลกด้วยอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ถือเป็นการตอกย้ำ "ปีแห่งความสำเร็จ" ของ ราฟาเอล นาดาล อีกครั้ง หลังเอาชนะปัญหาบาดเจ็บกลับมาทวงตำแหน่งมือท็อปโลกในรอบ 3 ปี เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา แต่นี่อาจยังไม่เพียงพอสำหรับนักหวดกล้ามโตจากสเปน

เพราะมีอีกรายการสำคัญที่เขายังไม่เคยประสบความสำเร็จ นั่นคือ ศึกเอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ที่จะเปิดฉากวันที่ 12 พ.ย.นี้

นาดาล เคยผ่านเข้าชิงชนะเลิศ 2 ครั้ง ในปี 2010 และ 2013 แต่ต้องพ่ายให้กับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ โนวัก โจโควิช ตามลำดับ และด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ บวกกับการขาด โนเล และ แอนดี เมอร์เรย์ 2 คู่แข่งบิ๊กเนมที่ผูกขาดแชมป์ใน 5 ปีล่าสุด ทำให้เขาถูกจับตามองว่ามีโอกาสดีที่จะปลดล็อกสำเร็จในปีนี้

ไม่เพียงเท่านั้น การโคจรมาเจอกันของ 2 มือพระกาฬอย่าง นาดาล และ เฟเดอเรอร์ ถือเป็น "ไคลแมกซ์ในฝันของปี 2017" ในเอทีพี ไฟนอลส์ ปีนี้เลยก็ว่าได้ หลังพร้อมใจกันคัมแบ็กได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ทั้งคู่ โดยคว้าแชมป์แกรนด์สแลมคนละ 2 รายการ และครองมือท็อป 2 ของโลก

กระนั้นก็ตาม ยังมีตัวแปรสำคัญที่เจ้าตัวและผู้จัดการแข่งขันแอบหวั่นจะทำปาร์ตี้กร่อย นั่นคือ ปัญหาความฟิตของ นาดาล หลังมีอาการบาดเจ็บเข่า ที่เป็นเหตุให้ถอนตัวจากศึกปารีส มาสเตอร์ส เมื่อสัปดาห์ก่อน และเจ้าตัวเองยอมรับว่า ไม่สามารถซ้อมได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้ว่าเชื่อว่าจะฟิตพอลงแข่ง

"ถ้าผมไม่เชื่อว่าผมจะพร้อมลงแข่ง ผมคงไม่มาอยู่ตรงนี้ ผมทำงานทุกวัน ฝึกซ้อม และพยายามเตรียมความพร้อมเต็มที่เพื่อลงแข่ง การได้มาอยู่ที่นี่เป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งทัวร์นาเมนต์ การลงแข่งเกือบทุกสัปดาห์ด้วยฟอร์มที่ดี ไม่มีปัญหาบาดเจ็บจนกระทั่งที่ปารีส" นาดาล กล่าว

ขณะที่ เฟดเอ็กซ์ บอกว่าคงแย่มาก หากคู่ปรับคนสำคัญไม่สามารถลงแข่งได้ เพราะปัญหาบาดเจ็บ

"เขาเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งของวงการเทนนิส หากเขาอยู่ที่นี่ นั่นคือสัญญาณที่ดีมาก มันจะน่าสนใจ แต่เราหวังว่าเขาจะลงเล่นได้ดีด้วย" ยอดนักหวดชาวสวิส กล่าว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยสไตล์การเล่นอันดุดันของ นาดาล ซึ่งแม้จะมีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยในปีนี้ จำเป็นต้องใช้พลังและร่างกายที่แข็งแรงพอสมควร เพราะฉะนั้น หากเจ้าตัวไม่อยู่ในสภาพฟิตสมบูรณ์เต็มที่ ก็มีโอกาสจะจบลงด้วยความผิดหวังอีกครั้ง

โดยเฉพาะหากต้องเจอกับขวากหนามคนสำคัญอย่าง เฟเดอเรอร์ ที่เจ้าตัวต้องการจะถอนแค้นให้ได้ หลังเป็นฝ่ายปราชัยมา 4 ครั้งรวดในปีนี้ โอกาสยิ่งยากขึ้นไปอีก

"มันคงจะดีมากที่ได้จบปีด้วยการดวลกับเขาอีกครั้ง และให้โอกาสผมอีกครั้ง คุณต้องไม่ลืมว่าเราเจอกันทุกครั้งบนพื้นสนามที่เขาชอบมากกว่าผม แค่ต้องยอมรับมันและหากแนวทางที่ต่างไปในการลงแข่ง หากมันเกิดขึ้นและผมแข็งแรงพอ ผมหวังว่าจะมีโอกาสของผม" นาดาล กล่าว

นอกจากนี้ เส้นทางสู่การไปเจอกับ เฟเดอเรอร์ ก็ยังต้องผ่านอีก 3 ด่านในรอบแบ่งกลุ่ม นักหวดวัย 31 ปี จะประเดิมสนามกับ เดวิด ก็อฟฟิน มือ 8 ของโลกจากเบลเยียม ในวันที่ 12 พ.ย. และต้องเจอกับ โดมินิค ธีม (ออสเตรีย/4) และ กริกอร์ ดิมิตรอฟ (บัลแกเรีย/6) ในกลุ่มพีท แซมพราส

ในขณะที่มือ 2 ของโลกชาวสวิส พกความมั่นใจและกำลังใจอย่างดีจากการคว้า 3 รางวัลประจำปีของเอทีพี คือ ขวัญใจแฟนเทนนิส น้ำใจนักกีฬายอดเยี่ยม และคัมแบ็กยอดเยี่ยม โดยเฉพาะรางวัลสุดท้าย เอาชนะ นาดาล ที่มีชื่อเข้าชิงด้วย ลงล่าแชมป์เอทีพี ไฟนอลส์ สมัยที่ 7 ของตัวเอง

"ปีที่แล้ว ผมไม่ได้มาแข่ง ดังนั้นมันดีที่ได้มาอยู่ที่นี่อีกครั้ง เพราะปีนี้ผมเริ่มอันดับกลับมา" เฟเดอเรอร์ กล่าว

อดีตมือ 1 โลก วัย 36 ปี เผยว่า รู้สึกสดชื่นไม่น้อย หลังจากปีนี้มีฤดูกาลที่ดีเกินคาดในฤดูกาลนี้ และไม่ลงแข่งมากเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก สำหรับความพร้อมในการลงแข่งปิดท้ายฤดูกาล

เฟเดอเรอร์ อยู่ในกลุ่มบอริส เบ็คเกอร์ ร่วมกับ อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ (เยอรมนี/3) มาริน ซิลิช (โครเอเชีย/5) และ แจ็ค ซ็อก (สหรัฐ/9) ซึ่งหากดูจากรายชื่อแล้ว คนที่ถูกจับตามองว่าน่าจะเป็นม้ามืดดับฝันขวาง "แมตช์ในฝัน" ระหว่างเฟเดอเรอร์ และนาดาล ได้มากที่สุด น่าจะเป็น ซเวเรฟ ซึ่งคว้าแชมป์ 5 รายการในปีนี้ ซึ่งรวมถึงศึกมาสเตอร์ส 2 รายการ

"การคว้าแชมป์มาสเตอร์ส ซีรี่ส์ 2 รายการ เป็นสิ่งพิเศษสำหรับทุกคนในยุคที่รายการระดับท็อปถูกผูกขาดโดย "บิ๊ก 4" หนุ่มเยอรมัน กล่าว

ท้ายที่สุดแล้ว หากการแข่งขันครั้งจบลงด้วยความผิดหวังอีกครั้ง นาดาล ไม่ยืนยันว่าจะมีผลต่อความมั่นใจของเขาหลังจากนี้หรือไม่ แต่ยอมรับว่า มันคงยังอยู่ในใจเขาเสมอ แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ได้ผ่านเข้ามาเล่นถึง 13 ครั้ง และไม่เคยลงเล่นในพื้นสนามที่ต่างจากนี้เลย

"ผมจะดูวันต่อวัน ผมไม่ได้ซ้อมตามปกติ ผมลงเล่นแค่ 1.30 ชม. เมื่อวานนี้ และ 2 ชม.ในวันนี้ และ 1 ชม. เมื่อ 2 วันที่แล้ว ผมระมัดระวังและไม่ฝืนทำมากกว่าที่ทำได้ ผมไม่อาจคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก 2-3 วันข้างหน้าได้ แต่ความรู้สึกของผม คือ ผมมาที่นี่เพื่อลงแข่งและทำให้ดีที่สุด" นาดาล ทิ้งท้าย