หงส์ไร้ ‘คูตี้’ ฟัดเรือใบ

โดย ราชันเบอร์ 23

กลับมาฟาดแข้งสำหรับศึกพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ โดยคู่บิ๊กแมตช์ "เรือใบ" เปิดรังรับมือ "หงส์แดง" ในวันที่ 9 ก.ย. หลังจากทั้งสองทีมยังไม่แพ้ทีมใดเลย

แมนฯ ซิตี้-ลิเวอร์พูล

สนาม : เอติอัด เวลา 18.30 น.      

"เรือใบ" ของ เปป กวาร์ดิโอลา มีสถิติที่ไม่ดีในช่วง 3 ปีหลัง ในการรับมือ "หงส์แดง" ทั้งเหย้า-เยือน ทว่ากุนซือชาวสแปนิชกระตุ้นลูกทีมอย่าไปสนใจเรื่องสถิติ ขอให้เล่นตามแผนเป็นพอ

"เรื่องของสถิติมันเป็นอดีต ผมอยากให้ทุกคนโฟกัสกับผลงานปัจจุบันเท่านั้น ลิเวอร์พูลอยู่ในช่วงที่ดี แน่นอนเราต้องเจอกับงานยาก แต่ที่นี่เรามีแฟนหนุนหลัง ผมเชื่อว่าเราจะมีผลงานที่ดี" อดีตกุนซือบาร์เซโลนา กล่าว

สภาพความพร้อม "เรือใบ" ไม่มี แวงซองต์ กอมปานี กัปตันทีมมีอาการบาดเจ็บน่อง นับเป็นการเจ็บน่องครั้งที่ 15 ในรอบ 5 ปี คาดว่า เปปจะใช้บริการของ นิโกลัส โอตาเมนดี จอห์น สโตนส์ หรือ เอเลียกวิม ม็องกาลา ขณะที่ แนวรุก เควิน เดอ บรอย์น ยังเป็นตัวหลักในแดนกลาง โดยทำเกมให้ แซร์จิโอ อกูเอโร และกาเบรียล เฮซุส

ด้าน "หงส์แดง" ประเดิม ผลงานได้สวยจากการชนะ 2 เสมอ 1 มี 7 แต้ม ออกสตาร์ทฤดูกาลได้ดีในรอบ 29 ปี โดย คลอปป์ ไม่รีบเร่งให้ ฟิลิปเป คูตินโญ เพลย์เมกเกอร์ บราซิเลียนคืนสนาม โดยยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการยื่นคำร้องขอย้ายสังกัด แต่เป็นเพราะยังไม่ฟิตเต็มร้อย

"คูตินโญ มีปัญหาที่หลังตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ก่อน และไม่ได้ซ้อม เขาจะต้องพักอีก 3 สัปดาห์ ตอนนี้เราต้องเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลตามปกติ เรามีโปรแกรม 7 เกม ก่อนถึงเบรกทีมชาติเดือน ต.ค. เราเห็นเขาที่สนามซ้อม แล้วคิดว่าเราน่าจะใช้งานเขาทันที เขาทำได้ดีจริงๆ แต่มันไม่เข้าท่าเลย เราต้องให้เขาซ้อมแบบพรีซีซั่นต่อไป คงไม่นานเกินรอ น่าจะอีก 2-3 นัด" กุนซือวัย 49 ปี กล่าว

สภาพความพร้อม อดัม บ็อกดาน แดนนี อิงค์ อดัม ลัลลานา และเนธาเนียล ไคลน์ ยังบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ คูตินโญ และดาวเตะตัวใหม่อย่าง อเล็กซ์ อ็อดเลด-แชมเบอร์เลน ยังไม่พร้อม กองหลังใช้ เดยัน ลอฟเรน จับคู่กับ โจเอล มาติป แดนกลางใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ประสานงาน กับ เอมเร ชาน และจอร์จินโญ ไวจ์นัลดุม แนวรุกยังเป็นสามประสาน ซาดิโอ มาเน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และโรแบร์โต ฟีร์มิโน คอยล่าตาข่าย

ลิเวอร์พูล คือ สโมสรที่ทำผลงานดีที่สุด หากนับเฉพาะการเจอกันเอง ระหว่าง 6 ทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ คลอปป์ ก้าวเข้ามารับงานในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อเดือน ต.ค. 2015 โดย เจอกับ สเปอร์ส เรือใบสีฟ้า อาร์เซนอล แมนฯ ยู และเชลซี รวม 19 นัด พวกเขามีสถิติชนะสูงถึง 47% และเก็บได้ถึง 36 คะแนน (ชนะ 9 เสมอ 9 และแพ้ 1)

ขณะที่ "เรือใบ" มีสถิติย่ำแย่ที่สุด ในการลงเจอกับทีมในกลุ่มท็อปซิกซ์ เก็บได้เพียง 15 คะแนน จาก 18 นัดที่ผ่านมา โดยเอาชนะคู่แข่งได้ 3 เกม หรือคิดเป็น 17%

ความน่าจะเป็น : "หงส์แดง" ฟอร์มดีกว่า แถมสถิติที่ผ่านมาก็บ่งบอกได้ชัดว่าเหนือกว่าอีก เกมนี้ลูกทีมของคลอปป์น่าจะบุกมาแบ่งแต้มได้เป็นอย่างน้อย

สโตก ซิตี้-แมนฯ ยูไนเต็ด

สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม       

วันที่ 9 ก.ย. เวลา 23.30 น.      

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังจะรักษาสถิติออกสตาร์ทยอดเยี่ยมต่อไป หลังนำเป็นจ่าฝูงด้วยผลงานชนะรวดมา 3 นัด และยังไม่เสียประตูเลย อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่เคยบุกมาชนะที่บริทานเนีย สเตเดี้ยม นับตั้งแต่ มาร์ก ฮิวจ์ส อดีตกองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด เข้ามานั่งตำแหน่งกุนซือสโตก เมื่อปี 2013 และอังเดร์ เอร์เรรา กองกลางผีแดง รู้ดีว่าทีมต้องเจองานยากแน่นอน

"ตอนนี้เราต้องเจอกับสโตก และเราไม่ชนะที่นี่มา 4 ฤดูกาลแล้ว มันเป็นการออกสตาร์ทฤดูกาลที่ดีในปีนี้ แต่เราไม่สามารถผ่อนคลายได้ เราพร้อมจะเผชิญหน้ากับพวกเขา และหวังว่าสภาพอากาศที่นั่นจะไม่แย่ เพราะถ้ามันเลวร้าย มันจะเล่นยากมาก เราพร้อมแล้ว ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ พยายามคว้าชัยที่นั่น เราคือแมนฯ ยูไนเต็ด ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกลัว" เอร์เรรา กล่าว

สภาพทีมของ โจเซ มูรินโญ ไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่น แข้งหลักพร้อมใช้งาน ดาบิด เดเคอา ยังคงรับหน้าที่เฝ้าเสา โดยมี อัตโตนิโอ วาเลนเซีย เอริก ไบญี ฟิล โจนส์ และดาลีย์ บลินด์ คุมแนวหลัง ขณะที่ ปอล ป็อกบา และเนมานยา มาติช รับหน้าที่แดนกลาง ส่วนแนวรุก มาร์คัส แรชฟอร์ด จะได้ลงเป็นตัวจริงร่วมกับ ฮวน มาตา และเฮนริก มคิตาร์ยาน โดยมี โรเมลู ลูกากู เป็นหน้าเป้า

ขณะที่ สโตก หวังคว้าชัยในบ้านเป็นนัดที่สองติดต่อกัน หลังเอาชนะ อาร์เซนอล 1-0 เมื่อเดือนที่แล้ว โดย เอริก ชูโป-โมติง กองหน้าน้องใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญาช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา กำลังเรียกความฟิตอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยทีมทำผลงานเยี่ยมต่อในการเจอกับผีแดง หลังมีอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเล็กน้อยจากการรับใช้ทีมชาติแคเมอรูน

"ผมมีประสบการณ์แตกต่างกันสิ้นเชิงใน 2 เกม ทีมเวสต์บรอม อาจจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับอาร์เซนอล ในเรื่องความสามารถเฉพาะตัว แต่สภาพร่างกายพวกเขาแข็งแกร่งมาก และมันอาจจะเป็นเกมที่หนักกว่าด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือด ตอนนี้เป็นเกมใหญ่อีกแมตช์หนึ่งในการเจอกับแมนฯ ยูไนเต็ด และจะเป็นบททดสอบอีกครั้ง" ชูโป-โมติง ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงใน 2 เกมล่าสุด กล่าว

ฮิวจ์ส อาจจะไม่มี ดาร์เรน แฟลตเชอร์ ซึ่งไม่มีชื่อในทีมสกอตแลนด์ เพราะปัญหาบาดเจ็บเข่า และไรอัน ชอว์ คอรสส์ ที่มีปัญหาบาดเจ็บหลัง โดยแนวรับ 3 คนคาดใช้ เคิร์ท ซูมา เควิน วิมเมอร์ และมาร์ตินส์ อินดี ส่วนแดนกลางอาจดัน เจฟฟ์ คาเมรอน ลงประสานงานกับ โจ อัลเลน และแนวรุกยังคง เฆเซ เซอร์ดาน ชากิรี และชูโป-โมติง น่าจะฟิตทันลงสนาม

ความน่าจะเป็น : ผีแดงกำลังฟอร์มดีและมีความมั่นใจ และมีอาวุธครบที่จะบุกมาปลดล็อกสถิติไม่ชนะที่บริทานเนีย สเตเดี้ยม มา 4 ปีได้ไม่ยาก