posttoday

‘ช้างศึก’ กรีธาทัพล่าเหรียญทอง

13 สิงหาคม 2560

ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ 2017 ออกเดินทางสู่ประเทศมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อย แน่นอนว่าเป้าหมายคือคว้าเหรียญทอง

โดย...ชมณัฐ

ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ 2017 ออกเดินทางสู่ประเทศมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อย แน่นอนว่าเป้าหมายคือคว้าเหรียญทองกลับมาฝากคนไทยให้ได้เพียงสถานเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นงานง่าย เพราะขุมกำลังไม่ได้เหนือชั้นกว่าคู่แข่งเหมือนเมื่อครั้งที่แล้ว

ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ประกาศชื่อ 20 ขุนพลสู้ศึก “กัวลาลัมเปอร์เกมส์” ออกมาแล้ว ต้องถือว่าขุมกำลังชุดนี้ศักยภาพยังห่างชั้นจากชุดคว้าแชมป์ 2 สมัยติด เมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา ที่มีสตาร์ดังอย่าง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และธนบูรณ์ เกษารัตน์ นำขบวน

“ต้องยอมรับตามตรงว่า นักเตะชุดนี้ถ้าเทียบกันตำแหน่งต่อตำแหน่งยังเทียบกับชุดที่คว้าแชมป์ทั้ง 2 สมัยที่แล้วมาไม่ได้ เพราะชุดนั้นนักเตะเกือบทั้งทีมเลื่อนขั้นขึ้นทีมชาติชุดใหญ่เกือบยกทีม และยังมีผู้เล่นที่มีศักยภาพเกินวัยและฝีเท้าเหนือกว่าในอาเซียนอย่างชัดเจน แต่ทีมชุดปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นนั้น เรายังไม่ทิ้งคู่แข่งมากนัก” โค้ชโย่ง กล่าว

นอกจากนี้ วรวุธ ยังเผยต่อว่า การที่ศักยภาพของทีมไม่ได้เหนือกว่าคู่แข่งมาก ทำให้การศึกครั้งนี้แฟนบอลไทยอาจจะไม่ได้เห็นรูปเกมที่สวยงาม เดินหน้าบุกอย่างเร้าใจ หรือต่อบอลสั้นสไตล์ติ๊กต๊อกเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากต้องเล่นเอาชัวร์เพื่อเน้นผลการแข่งขัน และที่สำคัญก็คือการที่จะเล่นบอลสวยงามได้ ต้องมีเวลาให้นักเตะได้พักอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้เคลื่อนที่ได้ตลอดทั้งเกม

ขณะเดียวกันได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลบางกลุ่มเรื่องการเลือกตัวผู้เล่นที่ตัด 2 แนวรุก อย่าง “เต๋าดินโญ” ธนาสิทธิ์ ศิริผลา (สุพรรณบุรี เอฟซี) กับ สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ออกจากทีม ซึ่ง โค้ชโย่ง ยืนยันว่าทุกอย่างมีเหตุผล

“เราต้องเลือกผู้เล่นที่พร้อมสมบูรณ์ที่สุด เพราะเราต้องแข่งวันเว้นวันและต้องโรเตชั่นทุกนัด ดังนั้นผู้เล่นที่เลือกมาจะต้องใช้งานได้เลย สามารถเล่นได้ 90 นาทีเต็ม หรือถ้าเล่นแล้วมีอาการเจ็บเล็กน้อยก็จะหายได้เร็วกว่าพวกที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งสองคนดังกล่าวถ้าฟิตสมบูรณ์ก็คงจะติดแน่นอน แต่ทั้งคู่เพิ่งหายเจ็บกลับมาเล่นให้กับต้นสังกัดได้เพียงไม่กี่นัด และที่สำคัญคือเรายังมีผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกันที่เลเวลฝีเท้าไม่ต่างกัน แต่มีความพร้อมมากกว่าอยู่”

สำหรับทัพ “ช้างศึก” ชุดไล่ล่าเหรียญทองสมัยที่ 16 แนวรุกฝากความหวังไว้ที่ เจนรบ สำเภาดี กัปตันทีมฟอร์มแรงจาก บีอีซี เทโรศาสน โดยมี สิทธิโชค กันหนู กับ พิชา อุทรา คอยสอดแทรก ส่วนแดนกลางมี “เจ้าบอล” ชัยวัฒน์ บุราญ เป็นจอมทัพคอยบัญชาเกมร่วมกับ เชาว์วัตน์ วีระชาติ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ศศลักษณ์ ไหประโคน พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล พร้อมด้วย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่ได้โอกาสติดธง

“ความพร้อมของผมตอนนี้ถือว่าพร้อมมาก อาการบาดเจ็บไม่มีแล้ว สภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์ พร้อมสำหรับการฝึกซ้อมและลงแข่งขันแล้ว ผมหวังว่าเราจะได้แชมป์และนำเหรียญทองมาฝากแฟนบอลทุกคน” ชัยวัตน์ กล่าว

‘ช้างศึก’  กรีธาทัพล่าเหรียญทอง วรวุธ ศรีมะฆะ

ขณะที่แนวรับ เควิน ดีรมรัมย์ สุริยา สิงห์มุ้ย ศฤงคาร พรมสุภะ ชินภัทร์ ลีเอาะ วรวุฒิ นามเวช และรัตนากร ใหม่คามิ พร้อมสลับกันลงได้ทุกคน โดยมี อนุศิษฏ์ เติมมี กับ นนท์ ม่วงงาม ที่ยังต้องเบียดแย่งตำแหน่งผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีม

“จุดเด่นของทีมชุดนี้คือใจสู้ สภาพจิตใจเกินร้อย แม้ในเกมอุ่นเครื่องบางครั้งจะติดขัดไม่เข้าขากันบ้าง ก็เพราะผู้เล่นติดภารกิจกับต้นสังกัดจึงมากันไม่พร้อมหน้า แต่ทุกคนก็เคยเล่นร่วมกันมานาน ผมเชื่อว่าทีมชุดนี้จะไม่ทำให้คนไทยผิดหวังแน่นอน เราต้องการทำให้แฟนบอลไทยมีความสุข” กุนซือวัย 45 ปี มั่นใจ

โปรแกรมรอบแรก ไทย อยู่ร่วมสายบี พบ อินโดนีเซีย ติมอร์เลสเต กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ตามลำดับ ขณะที่สายเอ “เจ้าภาพ” มาเลเซีย อยู่กลุ่มเดียวกับ เมียนมา สิงคโปร์ ลาว และบรูไน คัดอันดับ 1-2 ของแต่ละกลุ่มผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่ง โค้ชโย่ง เชื่อว่าคู่แข่งอีกฝั่งน่าจะเป็นเสือเหลืองและเมียนมาที่คว้าตั๋วเข้ารอบ

“ผมคงไม่พูดว่าเราการันตีแชมป์ เพราะผู้เล่นเรากับคู่แข่งฝีเท้าไม่ต่างกัน อย่างเช่น เมียนมา เราจะบอกว่าเราเหนือกว่าเขาแล้วไม่ได้ เพราะเมียนมาชุดนี้ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีมาแล้ว แต่เด็กเรายังไม่ได้ไป เพียงแค่เรามักจะมีผลงานที่ดีกว่าตอนพบกันเท่านั้น ดังนั้นเป้าหมายแรกของเราคือผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้ก่อน ไม่ว่าจะป็นแชมป์หรือรองแชมป์กลุ่ม จากนั้นก็ต้องไปดูในรอบต่อไปว่า เรามีผู้เล่นบาดเจ็บ ติดใบเหลือง หรือติดโทษแบนกี่คน” โค้ชโย่ง กล่าว

อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทย ยังทิ้งท้ายเตือนลูกทีมให้ควบคุมอารมณ์ระหว่างแข่งขัน เพราะเชื่อว่า ทุกเกมจะต้องเจอคู่แข่งเข้าปะทะหนักแน่นอน ที่สำคัญมีถึง 3 เกมในรอบแรกที่ต้องลงเล่นช่วงเวลาบ่าย 3 โมง ซึ่งอากาศร้อนอาจจะทำให้อารมณ์เดือดได้ง่าย