posttoday

เบิร์บกดแฮตทริกหักปีกหงส์3-2

19 กันยายน 2553

ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ เหมาคนเดียว 3 ประตูช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือน ลิเวอร์พูล สุดมันส์ 3-2 ในเกมแดงเดือด ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 19 ก.ย.

ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ เหมาคนเดียว 3 ประตูช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือน ลิเวอร์พูล สุดมันส์ 3-2 ในเกมแดงเดือด ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 19 ก.ย.

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ใน “ศึกแดงเดือด” ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 19 ก.ย. โดยเจ้าถิ่นไม่มี ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนตำแหน่งอื่น ทั้ง 2 ทีมส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม หลังใช้นักเตะสำรองลงเล่นในเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์

ช่วงต้นเกม แมนฯ ยูไนเต็ด โหมเปิดเกมรุกเข้าใส่ทันทีและเป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่มีโอกาสยิงประตูแบบชัดเจน จนกระทั่งนาทีที่ 16 ได้จังหวะสวนกลับ เวย์น รูนีย์ ยิงหน้ากรอบเขตโทษ บอลไปติดกองหลังลิเวอร์พูลก่อนมาเข้าทาง นานี ได้ยิงเหน่งๆในเขตโทษ แต่กลับซัดหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้น 5 นาที ทีมปีศาจแดงก็ได้ลุ้นอีกครั้งจาก พอล สโคลส์ ที่ได้ซัดเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปเยอะ  กว่าลิเวอร์พูลจะได้ลุ้นบ้างต้องรอถึงนาทีที่ 25 เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาเติมเกมขึ้นมาส่องไกลหลุดกรอบ

ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที แฟนบอลผีแดงได้เฮลั่นสนามจากลูกเตะมุม ไรอัน กิกส์ เปิดเข้ามาให้ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ ย่อตัวโขกบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไป จบ 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ดนำ 1-0

กลับมาลงสนามครึ่งหลังยังเป็น แมนฯ ยูไนเต็ดที่บุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่า โดยนาที 56 นานีได้หวดด้วยขวาเต็มข้อในกรอบเขตโทษ บอลผ่านมือ เรนา ไปแล้ว แต่พุ่งไปชนเสาอย่างจัง

และหลังจากนั้น 3 นาที ทีมปีศาจแดงก็ได้ประตูที่ 2 จากความยอดเยี่ยมของเบอร์บาตอฟ  ที่ใช้ต้นขาพักลูกเปิดจากฝั่งขวาของ นานี ก่อนที่กองหน้าบัลแกเรียจะตวัดยิงกลับหลัง บอลพุ่งเช็ดคานเข้าไปชนิดที่ เรนา ทำได้เพียงใช้สายตาป้องกัน

เบิร์บกดแฮตทริกหักปีกหงส์3-2 ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ / ภาพ:เอเอฟพี

หลังจากโดนนำไป 2 ลูก ลิเวอร์พูลปรับแผนมาเล่นกองหน้าคู่ โดยส่ง ดาวิด เอ็นก็อก ลงมาประสานงานกับ ตอร์เรส และได้ผลทันทีเมื่อ ตอร์เรส โดน จอนนี อีแวน เสียบล้มกลิ้งในเขตโทษ สตีเวน เจอร์ราร์ด สังหารไม่พลาดให้ทีมหงส์แดงไล่มาเป็น 1-2

ลิเวอร์พูลคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น และนาทีที่ 70 มาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะประมาณ 20 หลา เจอร์ราร์ดรับหน้าที่ปั่นบอลทะลุกำแพงตุงตาข่ายตามตีเสมอได้สำเร็จ 2-2

เกมเปิดแลกกันอย่างเมามันส์ นาที 84 แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ โอเชีย เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ เบอร์บาตอฟ เทกตัวขึ้นโขกเช็ดเปลี่ยนทางบอลเข้าประตูไปและเป็นแฮตทริกของดาวยิงอารมณ์ติสต์รายนี้ พร้อมกับเป็นประตูชัยในศึกแดงเดือดที่จบลงด้วยชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, เนมานยา วิดิช, จอนนี อีแวนส์, ปาทริซ เอวรา, นานี (อันแดร์สัน น.87), ดาร์เรน เฟลตเชอร์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิกส์ (เฟเดริโก มาเคดา น.81), ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ  (ดาร์รอน กิบสัน น.87), เวย์น รูนีย์

ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา, เกล็น จอห์นสัน, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี (แดเนียล แอ็กเกอร์ น.81), ราอูล ไมเรเลส (มิลาน โยวาโนวิช น.79), คริสเตียน โพลเซน, มักซี โรดริเกซ (ดาวิด เอ็นก็อก น.62), สตีเวน เจอร์ราร์ด, โจ โคล, เฟอร์นานโด ตอร์เรส

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์