posttoday

"ช้างศึก" เฉือนจุดโทษ 5-4 คว้าแชมป์คิงส์คัพ สมัยที่ 15

16 กรกฎาคม 2560

"ช้างศึก" คว้าแชมป์คิงส์คัพ สมัยที่ 15 ได้สำเร็จ หลังเฉือชนะจุดโทษเบลารุส 5-4

"ช้างศึก" คว้าแชมป์คิงส์คัพ สมัยที่ 15 ได้สำเร็จ หลังเฉือชนะจุดโทษเบลารุส 5-4

มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย จัดผู้ชุดเดิมจากนัดแรกที่ชนะเกาหลีเหนือ 3-0 ลงสนามดวล เบลารุส ในนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 45 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา

เปิดฉากมาทัพ "ช้างศึก" เดินเกมบุกเข้าใส่อย่างดุดันและเกือบได้ประตูตั้งแต่นาทีที่ 7 จากจังหวะลากเข้าไปยิงของ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แต่ไม่ผ่านเซฟ จากนั้นทั้งคู่สู้กันได้อย่างสูสีผลัดกันลุ้นสกอร์แต่ยังไม่ดีพอเสมอกันอยู่ 0-0

 

"ช้างศึก" เฉือนจุดโทษ 5-4 คว้าแชมป์คิงส์คัพ สมัยที่ 15

 

ครึ่งหลังรูปเกมยังสูสี ราเยวัช แก้หมากด้วยการส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง (น.58), ธีรเทพ วิโนทัย (น.68) และฟิลิปป์ โรลเลอร์ (น.83) แทน อดิศักดิ์ ไกรษร, สรรวัชญ์ เดชมิตร และมงคล ทศไกร ตามลำดับ แต่สุดท้ายทำอะไรกันไม่ได้จบ 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องตัดสินกันที่จุดโทษ

ผลปรากฎว่า 5 คนแรกพลาดกันฝั่งละคน ต้องดวลแบบซัดเดิลเดธและเป็น "ช้างศึก" ที่แม่นกว่าเฉือนชนะไป 5-4

ผลการยิงจุดโทษ ไทย : ธีรเทพ วิโนทัย (เข้า), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (ไม่เข้า), ฟิลลิปส์ โรลเลอร์ (เข้า), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (เข้า), ธีราทร บุญมาทัน (เข้า), สิโรจน์ ฉัตรทอง (เข้า)

รายชื่อ 11 คนแรก ทีมชาติไทย ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู: กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, กองหลัง: อดิศร พรหมรักษ์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, กองกลาง: ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, มงคล ทศไกร, ธีราทร บุญมาทัน, สรรวัชญ์ เดชมิตร, กองหน้า: อดิศักดิ์ ไกรษร

ภาพจาก ฟุตบอลทีมชาติไทย

"ช้างศึก" เฉือนจุดโทษ 5-4 คว้าแชมป์คิงส์คัพ สมัยที่ 15

 

 

 

"ช้างศึก" เฉือนจุดโทษ 5-4 คว้าแชมป์คิงส์คัพ สมัยที่ 15