posttoday

เห็นอะไรบ้างจากเกมแรกของ "ราเยวัช"

07 มิถุนายน 2560

"ราเยวัช" ประเดิมคุมทัพช้างศึกไม่สวยนัก แต่ยังพอมองเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดย...ชมณัฐ

คงยังวัดอะไรไม่ได้มากสำหรับเกมอุ่นเครื่องที่ "ช้างศึก" บุกแพ้ ทีมชาติอุซเบกิสถาน 0-2 ในการคุมทีมอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ มิโลาน ราเยวัช เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆอย่างทั้งการขาดผู้เล่นระดับท็อปของประเทศ ตลอดจนเวลาการเตรียมทีมที่มีเพียง 1 สัปดาห์

สิ่งที่หลายคนชื่นชมก็คือการได้ทดสอบผู้เล่นหน้าใหม่ ซึ่งเกมนี้ 6 นักเตะที่ติดธงครั้งแรกได้ลงสัมผัสเกมครบถ้วนและหลายคนมีฟอร์มที่เข้าตาโดยเฉพาะ 3 แนวรับที่ได้ออกสตาร์ทตัวจริงทั้ง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์ และเควิน ดีรมรัมย์ รวมถึงหน้าเก่าที่คัมแบ็กอย่าง นูรูล ศรียานเก็ม, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หรือ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ซึ่งเหล่านี้สามารถที่จะก้าวขึ้นเป็นตัวเลือกบนม้านั่งให้กับทีมได้ แต่หากเทียบกับผู้เล่นในตำแหน่งเดิมของทีมชุดเก่าอาจยังต้องใช้เวลาหากจะเบียดลงตัวจริง

แต่สิ่งที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมที่สุดก็คือแผนและสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรับสุดเหนียวแน่น เกมที่กรุงทาชเคนท์ ราเยวัชเลือกติดตั้งระบบ 4-2-3-1 ให้กับทีมโดยใช้มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คน คือ ฐิติพันธ์ และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ยืนคุมเชิงทำหน้าที่ปัดกวาดบอลหน้าแผงหลังและเชื่อมเกม  พร้อมเน้นแพ็คเกมแน่นหนาตลอดทั้ง 90 นาที วิงแบ็กซ้าย-ขวา ประจำการอยู่กับที่และแทบจะไม่ได้เติมเกมรุกขึ้นมาถึงสุดเส้นหลัง

ขณะที่เกมรุกใช้ผู้เล่นเพียง 2-3 คนคอยฉกฉวยโอกาสเท่านั้น คือ ปีกซ้าย-ขวา และเพลย์เมกเกอร์ โดยมีศูนย์หน้าตัวเป้าวิ่งหาช่องเข้าไปลุ้นสกอร์ ดังนั้นแม้จะเสียบอลขณะครองเกมรุกแต่ก็ไม่โดนโต้กลับไปยิงง่ายๆเพราะผู้เล่นที่เหลือยังแพ็คเกมรับแน่น และกุนซือชาวเซอร์เบียเลือกที่จะคงแท็คติคนี้ยันสิ้นเสียงนกหวีดแม้จะมีสกอร์ตามหลังก็ตาม โดยเปลี่ยนตัวแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะให้นักเตะทุกคนได้ซึมซับและจดจำกับวิธีการเล่นแบบนี้

ประกอบกับก่อนหน้านี้ที่มีข่าวอย่างต่อเนื่องว่า ราเยวัชได้ให้ความสำคัญในการฝึกซ้อมไปที่เกมรับ พยามฝึกนักเตะให้มีวินัยในการตั้งรับ เล่นบอลอย่างทีมรองบ่อน จ่ายบอลด้วยความชัวร์

ดังนั้นหลังจากนี้จึงมีโอกาสสูงที่แฟนบอลจะไม่ได้เห็น "ช้างศึก" ที่เดินเกมรุกต่อบอลเร้าใจ วิงแบ็กเติมเกมหวือหวาซ่าบซ่าเหมือนแต่ก่อน แต่อาจจะเป็น "ช้างศึก" ที่เล่นด้วยความรัดกุมน่าอึดอัดเพื่อเน้นผลการแข่งขันโดยเฉพาะ

คำถามก็คือ ? ระบบนี้อาจจะลดทอนประสิทธิภาพเกมรุกอันเป็นจุดเด่นของทีมที่มีมาตลอด 3-4 ปีหลัง ดังนั้นหากเกมรับไม่สามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นจุดแข็งทดแทนได้ก็คงจะเป็นปัญหา

ท้ายที่สุดแล้วเกมนัดต่อไปที่ทีมชาติไทยจะได้ผู้เล่นฟูลทีมคงจะตอบคำถามได้กระจ่างมากขึ้นอีก โดยจะเปิดบ้านรับมือทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 13 มิ.ย.นี้