posttoday

นักชกไทยกวาด8ทองมวยไทยโลก

13 พฤษภาคม 2560

ทัพมวยไทยสมัครเล่นสร้างชื่อกระหึ่มเบลารุส คว้า 8 ทอง มวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2017

ทัพมวยไทยสมัครเล่นสร้างชื่อกระหึ่มเบลารุส คว้า 8 ทอง มวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2017

การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก ศึก "อิฟม่า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017" รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ณ กรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส  ทัพไทย คว้าเพิ่มได้อีก 7 เหรียญทองจากการเข้าชิง 9 รุ่น หลังก่อนหน้านี้นักมวยหญิงของไทยคว้ามาได้แล้ว 1 เหรียญทองจาก รุ่นฟลายเวท 51 กก. "น้องแป้ง สส.ปกรณ์" อภัสรา โกศล"

"โลมา ลูกบุญมี" สุภิสรา ได้ความสดและอออาวุธได้จะแจ้งกว่าไล่ทุบ ลูดามิรา คลาสโลว่า ชาวเบลารุสไปหายห่วง 30-27 คะแนน คว้าแชมป์รุ่น 48 กก. หญิง ส่วน รุ่น 48 กก. ชาย "วิทยาเล็ก เพชรสี่หมื่น" ทิวากร เดินหน้าไม่มีหยุดชนะคะแนน ซูเบอร์ บาลิน ชาวตุรกี ไปอีก 30-27 คะแนน คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน รุ่น 51 กก. "นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด" อานนท์ ซึ่งมีรอยแผลแตกที่คิ้วซ้ายมาจากรอบรองชนะเลิศอาศัยชั้นเชิงที่ดีกว่าชนะคะแนน เยเลยาเมน ซายาซาทอฟ จากคาซัคสถานไปอย่างสนุก 30-27 คะแนน คว้าเหรียญทองได้เป็นสมัยที่ 4 และรุ่น 54 กก. "สปรินท์เตอร์ แป๋งกองปราบ" โชติชนินทร์ ยังอาศัยเหลี่ยมเชิงมวยที่คมกว่าทั้งฟันศอกและตีเข่าชนะคะแนน เอซินเบก ซิเลเยฟ จากรัสเซียไปดุเดือด 30-27 คะแนน ซิวแชมป์เป็นสมัยแรก เช่นเดียวกับ รุ่น 57 กก. "แสน ปิ่นสินชัย" วิวัฒน์ เดินหน้าบุกออกอาวุธได้อย่างรัดกุมก่อนชนะคะแนน เอซินเบก ซิเลเยฟ จากรัสเซียไปสวยหรู 30-27

ขณะที่รุ่น 60 กก. "ขวัญ ส.เพลินจิต" ประวิทย์ อาศัยเดินหน้าแทงเข่าคลุกวงในชนะคะแนน ฟิลลิป วาลดี้ จากสวีเดนไปได้ 30-27 คะแนน ได้แชมป์เป็นครั้งแรกอีกคน และปิดท้ายกันที่รุ่น 71 กก. "ซุปเปอร์บอล บัญชาเมฆ" ศุภชัย ขวัญใจกองเชียร์ทั้งสนามไม่ต้องออกแรงเหนื่อยเมื่อคู่ต่อกร วาดิน วาคอฟ ของเจ้าภาพเบลารุส ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณจมูกมาตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ จึงขอยอมแพ้บายให้กับ "ซุปเปอร์บอล" ทำให้เพิ่มสถิติซิวเหรียญทองเป็นสมัยที่ 3

สำหรับ 2 นักมวยไทยที่พลาดท่าได้แค่เหรียญเงินมาครอง คือ รุ่น 67 กก. "มานะศักดิ์ ส.จ.เล็กเมืองนนท์" หรือ มานะ แพ้น็อก วาลาส ดิไนตี จากเบลารุส และ รุ่น 81 กก. "ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง" ศรานนท์ แพ้คะแนน เจ้าภาพ วาเลน ดิไนตี ชาวเบลารุส 27-30
สรุปผลงานนักชกไทยสามารถคว้ามาได้ทั้งสิ้น 8 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง จากทั้งหมด 12 คนที่สมาคมฯส่งเข้าร่วม มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่มีเหรียญรางวัล คือ รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท 63.5 กก. "หยกวิทยา เพชรสี่หมื่น" ฤทัยพันธ์ ทรัพย์มะณี อดีตแชมป์เก่า 4 สมัย หลังถูกเจ้าภาพเบลารุสประท้วงพลิกคำตัดสิน ทั้งที่เจ้าตัวชนะไปแล้ว จนทำให้ต้องตกรอบ 8 คนสุดท้ายไป

นอกจากนี้ชัยชนะดังกล่าวยังส่งให้ทัพมวยไทยสมัครเล่นทีมชาติไทย จะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนการพัฒนากีฬาแห่งชาติ แยกไว้คือ เหรียญทอง 500,000 บาท เหรียญเงิน 250,000 บาท และ เหรียญทองแดง 100,000 บาท รวมได้มาทั้งสิ้น 8 ทอง 2 เงิน กับ 1 ทองแดง คิดเป็นเงินทั้งหมด 4,600,000 บาท

ผศ.สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ดีใจกับความสำเร็จของนักมวยไทยทุกคนที่สามารถสร้างผลงานได้เกินเป้าหมาย จากเดิมตั้งเอาไว้แค่ 5 เหรียญทองเท่านั้น เพราะปัจจัยหลายอย่างที่มีอยู่ทั้งระยะเวลาในการฟิตซ้อม และมาตรฐานของผู้ตัดสินในครั้งนี้ยังไม่สากลเท่าที่ควรนัก ส่วนตัวไม่อยากเรื้อฝอยหาตะเข็บว่า มีเรื่องอะไรบ้าง เพราะการทำทีมมวยไทยบ้างครั้งมันก็ต้องทำใจ หากนักชกของเราสู้ต่างชาติไม่ได้ ตัวเองจะไม่พูดอะไรเลย แต่นี่มันมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง บางครั้งเราก็ต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับนักมวยและส่วนรวมคือ ประเทศชาติเอาไว้ก่อน