‘ตราไก่’ จัดเต็มลุ้นจิก ‘ยักษ์เขียว’

โดย...ราชันเบอร์23

คืนนี้ (26 มิ.ย.) ฟุตบอลยูโร 2016 รอบ 16 ทีม มีดวลแข้ง 3 คู่ เต็งหนึ่ง ฝรั่งเศส พบ ไอร์แลนด์ และเยอรมนี แชมป์โลกปี 2014 ประกาศล้างแค้นสโลวาเกีย ที่เคยแพ้ในเกมอุ่นเครื่อง ต้องดูว่า “อินทรีเหล็ก” ของ โจอาคิม เลิฟ จะทำได้หรือไม่

ฝรั่งเศส - ไอร์แลนด์

สนาม : ปาร์ก โอลิมปิก ลียง

เวลา : 20.00 น. ช่อง 13

ฝรั่งเศส เข้ารอบด้วยผลงานแชมป์กลุ่มเอ ด้วยสถิติไร้พ่าย ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือ “ตราไก่” ยอมรับกดดันที่ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งของรายการ แต่เชื่อว่าลูกทีมจะช่วยกันเล่นจนทีมเก็บชัยได้

“ไอร์แลนด์เป็นทีมที่ดี พวกเขามีสไตล์การเล่นที่ดุดัน เข้าบอลหนัก ผมได้กำชับอย่าเข้าปะทะเพราะอาจได้รับบาดเจ็บ มั่นใจจะสามารถผ่านเข้ารอบก่อนรองได้” กุนซือวัย 48 ปี กล่าว

สภาพทีมไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ กองหลังใช้ โลร็องต์ กอสเซียลนี จับคู่กับ อาดิล รามี แดนกลางคาดว่า มุสซา ซิสโซโก จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ทำงานร่วมกับ เอ็นโกโล ก็องเต และ ปอล ป็อกบา แนวรุกมี อองตวน กรีซมันน์, ดิมิทรี ปาเยต์ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ล่าตาข่าย

ยักษ์เขียวเป็น 1 ใน 4 ทีมของอันดับ 3 ที่ดีที่สุด มาร์ติน โอนีล ยอมรับเป็นรอง พร้อมกระตุ้นลูกทีมให้วิ่งสู้ฟัด เอาสปิริตทีมสู้กับเจ้าภาพ

“เราผ่านเข้ารอบสองถือว่าประสบความสำเร็จ ต่อจากนี้ถือเป็นโบนัส ยอมรับว่าเป็นรอง แต่ผมจะให้ลูกทีมใช้สปิริตทีมสู้กับพวกเขา” อดีตกุนซือซันเดอร์แลนด์ กล่าว

สภาพทีมยังคงไม่มี โจนาธาน วอลเตอร์ส กองหน้าตัวเก๋าที่ยังไม่หายบาดเจ็บ นอกนั้นเป็นชุดเดียวกับในรอบแรก แนวรับยังเป็น จอห์น โอเชีย จับคู่กับ คีแรน คลาร์ก แดนกลาง เจมส์ แม็คคาร์ธีย์ จะได้ประสานงานกับ เกล็น วีแลน และ เจฟฟ์ เฮนดริก แนวรุกมี เวส ฮูลาฮาน คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลังคู่กองหน้า โรเบิร์ตเบรดี และ ร็อบบี คีน

ความน่าจะเป็น : ฝรั่งเศสครบเครื่องเหลือเกินทั้งรุกและรับ ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งของรายการ ด้าน “ยักษ์เขียว” ผ่านมาถึงรอบนี้ถือว่ามาไกลเกินเป้า แผงหลังค่อนข้างช้า น่าจะต้านเจ้าถิ่นไม่อยู่

เยอรมนี - สโลวาเกีย

สนาม : สตาด ปิแอร์ โมรัว

เวลา : 23.00 น. ช่อง 28

เยอรมนี ผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มซี ไม่แพ้ทีมใด โจอาคิม เลิฟ ลั่นล้างแค้นสโลวาเกีย ที่เคยแพ้ในเกมอุ่นเครื่อง พร้อมบอกตอนนี้เกมรุกของ “อินทรีเหล็ก” จูนกันติดแล้ว

“ตอนนี้นักเตะทุกคนมั่นใจขึ้นมากหลังจากโดนวิจารณ์อย่างหนักในรอบแบ่งกลุ่ม ที่เรายิงประตูได้น้อย ผมบอกพวกเขาว่าเราต้องทำให้ได้เหมือนตอนปี 2014 ที่คว้าแชมป์โลก ครั้งนั้นเราก็โดนปรามาสอย่างนี้ ผมเชื่อว่าลูกทีมจะล้างแค้นสโลวาเกียได้ เพราะตอนนั้นผมส่งดาวรุ่งค่อนทีม” กุนซือวัย 56 ปี กล่าว

สภาพทีมต้องลุ้นว่า เจอโรม บัวเต็ง จะพร้อมลงสนามหรือไม่ นอกนั้นสมบูรณ์ทุกตำแหน่ง แดนกลางมี ซามี เคดิรา ประสานงานกับ โทนี โครส แนวรุก มาริโอ เกิตเซ น่าจะได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงประสานงานกับ โธมัส มุลเลอร์ และ เมซุต โอซิล ขณะที่กองหน้า มาริโอ โกเมซ ล่าตาข่าย

สโลวาเกีย เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 3 กลุ่มบี แยน โคซัค กุนซือคนเก่ง เผยมีทีเด็ดย้ำแค้น “อินทรีเหล็ก” อีกครั้ง

“หากพูดถึงเยอรมนี จะนึกถึงเกมรับที่เหนียวแน่น แต่ผมรู้วิธีที่จะเอาชนะพวกเขา ไม่เชื่อคอยดูกัน ผมเคยทำได้ตอนอุ่นเครื่อง” กุนซือวัย 63 ปี กล่าว

สภาพทีมไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ใช้นักเตะชุดเดียวกับที่เสมออังกฤษเป็นหลัก แนวรับยังใช้ มาร์ติน สเคอร์เทล จับคู่กับ แยน ดูริกา แดนกลางมี ยูราจ คุชกา ประสานงานกับ พาทริก โรซอฟสกี แนวรุกใช้สามประสาน โรเบิร์ต มาค, มาเร็ค ฮัมซิค และ วลาดิเมียร์ ไวส์ คอยปั้นเกม ขณะที่กองหน้า อองเดร ดูดา จะได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

ความน่าจะเป็น : “อินทรีเหล็ก” ต้องปรับปรุงเรื่องเกมรุกที่กองหน้าใช้โอกาสเปลือง เชื่อว่า โจอาคิม เลิฟ ต้องปรับปรุงจุดนี้ เจอกับสโลวาเกียที่มีทีเด็ดที่ฮัมซิค กับไวส์ ช่วงแรกอาจจะสูสี แต่สุดท้ายเยอรมนีเก๋ากว่า น่าจะเบียดคว้าชัยได้

ฮังการี - เบลเยียม

สนาม : สตาด มูนซิพัล ตูลูส

เวลา : 02.00 น. ช่อง 13

ฮังการี แชมป์กลุ่มเอฟ แบรนด์ สต๊อก มั่นใจจะสู้กับเบลเยียมได้สนุก หวังเทพีแห่งโชคเข้าข้าง

“เบลเยียมเกมรุกอันตราย โดยเฉพาะโรเมลู ลูกากู ผมได้สั่งให้กองหลังจับตายแต่ทั้งนี้ฟุตบอลบางครั้งก็ต้องมีโชคด้วยเหมือนกัน” กุนซือชาวเยอรมัน กล่าว

สภาพทีมไม่มี แอตธิลา ฟิโอลา ที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่ได้ โซลตัน เกรา ฟิตกลับมาทันเวลา กองหลังใช้ โรแลนด์ ยูฮาสซ์ จับคู่กับริชาร์ด กุซมิคส์ เกมรุกมี บาลาส ซุดซัค,อากอส เอเล็ค และ คริสเตียน เนเมธ เป็นตัวขับเคลื่อน โดยมี อดัม ซาไล คอยล่าตาข่าย

เบลเยียม ผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มอี มาร์ก วิลมอตส์ มั่นใจลูกทีมยิ่งเล่นยิ่งดี โดยเฉพาะเกมรุกที่มี เควิน เดอ บรอยน์ และ ลูกากู

“นัดแรกลูกทีมยังเกร็งๆ ตอนนี้พวกเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะ เดอ บรอยน์ และ ลูกากู แต่ก็จะประมาทฮังการีไม่ได้ เพราะมีเกมรุกที่อันตราย โดยเฉพาะลูกเซตพีซ” กุนซือวัย 47 ปี กล่าว

สภาพทีมต้องรอเช็กความฟิตของ มุสซา เดมเบเล ว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่ แนวรับยังใช้ โธมัส แฟร์มาเลน จับคู่กับ โทบีอัลเดอร์ไวเรลด์ แดนกลางคาดว่า เดมเบเล น่าจะฟิตทันออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ประสานงานกับ อาเซล วิตเซล ขณะที่แนวรุก ยานนิคการ์ราสโก จะลงปั้นเกมร่วมกับ เอเดน อาซาร์ และ เดอ บรอยน์ โดยมี ลูกากู ยืนเป็นหัวหอก

ความน่าจะเป็น : ฮังการีเล่นรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยสถิติไร้พ่าย น่าจะสู้กับเบลเยียมได้ไม่เป็นรอง แต่ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เริ่มคืนฟอร์มเก่ง โดยเฉพาะ ลูกากู กับ เดอ บรอยน์ สุดท้ายยังเชื่อใจเบลเยียมน่าจะได้ไปต่อ