posttoday

"สุภัค-สุธิยา" คว้ารางวัลนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่นชาย-หญิง

28 ธันวาคม 2558

สุภัค นักกีฬาเจ็ตสกี และ สุธิยา(ยิงเป้าบิน) ซิวรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่นชาย-หญิง

สุภัค นักกีฬาเจ็ตสกี และ สุธิยา(ยิงเป้าบิน) ซิวรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่นชาย-หญิง

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานใน งานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติว่า  การที่นักกีฬาซึ่งเป็นตัวแทนของชาติ ได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ฝึกซ้อม ทุ่มเทพลังทั้งหมดในการแข่งขันจนชนะเลิศ สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ถือเป็นการเสียสละ เพื่อประเทศชาติตามรอยพระยุคลบาท คณะนักกีฬา เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ และนักกีฬาอื่นๆ ก็มีส่วนทำให้เกิดความสำเร็จในการแข่งขัน ทุกๆ ท่านนับว่าเป็นบุคคล ที่ได้เสียสละ อดทนต่อความยากลำบากในการฝึกซ้อม  ต้องอดทนกับความกดดันต่างๆ 

ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ชัยชนะนำชื่อเสียงเกียรติยศมาสู่วงศ์ตระกูล และประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรา  ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า  การแข่งขันกีฬาต้องมีแพ้ มีชนะ เพราะฉะนั้น สิ่งที่พวกเราได้ประสบความสำเร็จก็ขอให้รักษาไว้  สิ่งที่ยังไม่ประสบความสำเร็จก็ขอให้เป็นบทเรียน เพื่อการพัฒนา ในอนาคตต่อไป  แต่หัวใจหลักของการแข่งขันกีฬา คือ นักกีฬา ต้องมีน้ำใจ รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้อภัย สำหรับการประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่นแห่งชาติ ในปีนี้ ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลทุกรางวัล ซึ่งได้สร้างชื่อเสียง เกียรติยศ ด้านการกีฬาในแก่ประเทศชาติด้วยกันทั้งสิ้น

สำหรับรางวัลนักกีฬาและบุคลากรดีเด่นทางการกีฬา จำนวน 10 ประเภท  ดังนี้ รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่น ได้แก่ นาย สุภัค  เสร็จธุระ (เจ็ตสกี), รองดีเด่น ได้แก่ เรืออากาศตรี วุฒิชัย มาสุข (มวยสากล) และสิบตำรวจตรี ชนาธิป สรงกระสินธ์ (ฟุตบอล), รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นหญิงดีเด่น ได้แก่ นางสาวสุธิยา  จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน) รองดีเด่น ได้แก่นางสาวรัชนก  อินทนนท์ (แบดมินตัน), นางสาวธันยพร  พฤกษากร (ยิงปืน)

รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นชายดีเด่น  ได้แก่ นายสินธุ์เพชร  กรวยทอง (ยกน้ำหนัก) รองดีเด่น ได้แก่  เด็กชายฉันทัช  ฉันทะสันติธรรม (เจ็ตสกี), นายบุญญฤทธิ์  เกียรติกุล (สนุกเกอร์),รางวัลนักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นหญิงดีเด่น ได้แก่  นางสาวพาณิภัค  วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด) รองดีเด่น ได้แก่ นางสาวนวพร  แดงศรี (ยกน้ำหนัก), นางสาวบุศนันทน์  อึ๊งบำรุงพันธุ์ (แบดมินตัน)

รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น  ได้แก่ นายอำนาจ  รื่นเริง หรือเพชร ป.บูรพา (มวยอาชีพ) รองดีเด่น ได้แก่ นายเทพไชยา  อุ่นหนู (สนุกเกอร์),รางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น  ได้แก่ นายวสันต์  อิสลาม (เสกสรร อ.ขวัญเมือง)  รองดีเด่น ได้แก่ นายรณชัย  แสวงทรัพย์ (รณชัย  สันติอุบล)

รางวัลนักกีฬาพิการชายดีเด่น  ได้แก่ นายเรวัตร์  ต๋านะ (วีลแชร์เรสซิ่ง) รองดีเด่น ได้แก่ นายพัทธยา  เทศทอง (บอคเซีย) , รางวัลนักกีฬาพิการหญิงดีเด่น  ได้แก่ นางสาวอำนวย   เวชวิฐาน  (แบดมินตัน)  รองดีเด่น ได้แก่ นางสาวสายสุนีย์  จ๊ะนะ  (วีลแชร์ฟันดาบ) ,รางวัลนักกีฬาพิการดาวรุ่งดีเด่น  ได้แก่  นางสาวอัญชญา   เกตุแก้ว  (ว่ายน้ำ)

รางวัลชนิดกีฬาทีมดีเด่น (SPORT) ได้แก่  ฟุตบอลทีมชาย (ทีมชาติชุดใหญ่) , รางวัลประเภทกีฬาทีมดีเด่น (EVENT) ได้แก่ กีฬายิงปืน ประเภทปืนยาวท่านอนทีมหญิง

รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาสมัครเล่นดีเด่น ได้แก่ ร้อยตำรวจโท เกียรติศักดิ์  เสนาเมือง (ฟุตบอล), รางวัล

ผู้ฝึกสอนนักกีฬาต่างประเทศดีเด่น ได้แก่  Mr.Daniele  Ferri (โปโลน้ำ), รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาอาชีพดีเด่น ได้แก่ นายกิตติพงศ์  พรชาติยิ่งชีพ (วอลเลย์บอล), รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาส่วนภูมิภาคดีเด่น ได้แก่ นายไกรวัล  ศุภประเสริฐ (เทเบิลเทนนิส) จ.ระนอง, รางวัลผู้ฝึกสอนนักกีฬาคนพิการดีเด่น ได้แก่ นายสุเมธ  มุกดาพิทักษ์  (แบดมินตัน)

รางวัลสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่น ได้แก่ สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย, รางวัลสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดดีเด่น ได้แก่ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดจันทบุรี

รางวัลผู้บริหารดีเด่น  ได้แก่  นายเนวิน  ชิดชอบ (ฟุตบอล) และนายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี (กีฬาคนพิการ), รางวัลนักวิชาการดีเด่น  ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.เจริญ  กระบวนรัตย์, รางวัลผู้จัดการทีมดีเด่น  ได้แก่ นายสมชาย  พูลสวัสดิ์  (มวยสากล), รางวัลผู้ตัดสินดีเด่น  ได้แก่ นางสาวกัลยา   สุดใด (เทควันโด) และรางวัลผู้ทรงคุณวุฒิดีเด่น ได้แก่ นายนิพนธ์  ฮะกีมี และนายวิวัฒน์  วิกรานตโนรส