posttoday

ไขปริศนา บัวขาวหายตัว

12 ตุลาคม 2557

สมมติฐานดราม่า บัวขาว ใช้วิชานินจาหายตัวจากเวทีK-1 แท้จริงแล้วอะไรน่าจะอยู่เบื้องหลัง ???

โดย...มิวโกโตะ

เมื่อวานนี้คำถามสุดฮิตที่ถูกถามไถ่ ไม่ใช่กินข้าวหรือยัง แต่เป็นคำว่า “บัวขาวหายไปไหน???” ก็ได้แต่ตอบไปตามข้อมูลที่ได้รับเบื้องต้น ว่าอาจมีเรื่องพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง ทว่าพอหายเมาหมัดจากคำถาม และค่อยๆประติดประต่อเรื่องราว การหายแว้บไปครั้งนี้อาจมีเบื้องหลังอยู่ก็เป็นได้

ก่อนอื่นผมออกตัวก่อนว่าการไขปริศนาบทความนี้เป็นเพียงการตั้งสมมติฐานบนพื้นฐานข้อมูลที่ได้รับ ส่วนความจริงจะเป็นอย่างไรคงต้องให้ บัวขาว บัญชาเมฆ เป็นคนออกมาพูดเอง ซึ่งเวลานี้แชมป์มวยK-1 สองสมัยโพสต์เฟซบุคสั้นๆเพียง “ขอโทษที่ทำให้แฟนๆ งง เดี๋ยวคงเข้าใจผมครับ” 

เท้าความถึงคนที่ไม่ได้ตามประเด็นร้อนมาตั้งแต่ต้น โดยช่วงดึกเมื่อวันที่ 11 ต.ค. บัวขาว บัญชาเมฆ ตัดสินใจเดินลงจากเวทีศึกมวยชิงแชมป์โลก เค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ ไฟนัล (ประเทศไทย) หลังชกเสร็จ 3 ยก ซึ่งตามกฏเมื่อกรรมการให้เสมอ จะต้องมีการชกต่อในยกที่ 4 เกิดขึ้น แต่นักชกชื่อดังชาวไทยเลือกหายตัวเข้ากลีบเมฆ เข็มขัดแชมป์ส้มหล่นเลย ตกอยู่กับ เอ็นริโก เคห์ล คู่ชกชาวเยอรมัน

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความมึนงงให้แก่ทุกแฟนมวยที่ชมทั้งในสนามและผ่านการการถ่ายทอดสดไม่น้อย จึงเกิดกระแสนั้นร้อนฉ่าในโลกออนไลน์ทันที ส่วนใหญ่มาแนวอารมณ์ล้วนๆจับใจความได้ประมาณ ไม่ล้มมวยก็เรื่องการพนัน ส่วนคอมเมนต์เอาฮามาแซวว่ารีบไปหา “น้ำเพชร” สุณัณณิภาร์ กฤษณสุวรรณ อดีตรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ที่เป็นข่าวกุ๊กกิ๊กกัน (ก็ว่ากันไป)

แต่พอรุ่งเช้าวันที่ 12 ต.ค. เรื่องราวก็มาสะเด็ดน้ำและต่างเทน้ำหนักไปที่เรื่องการพนัน เพราะส่งกลิ่นตุๆตั้งแต่ก่อนชก เนื่องจากทีมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา “เจ้าดำดอทคอม” พร้อมทีมกฎหมายได้เดินทาง เข้าไปลงบันทึกประจำวันที่กองบังคับการปราบปราม โดยหวั่นว่าตัวเองจะเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการขึ้นชกไฟต์นี้ เหตุศึก K-1 หนนี้มีการพนันออนไลน์เกิดขึ้น ซึ่งแหล่งข่าววงในแฉว่าไฟต์นี้มีการล็อคผลการแข่งขันมาก่อน แต่ที่กำปั้นชาวไทยต้องขึ้นเวทีเพราะต้องชกตามสัญญา

อย่างไรก็ตามล่าสุดบริษัท เค-วัน โกลบอล สำนักงานใหญ่ เตรียมทำเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบัวขาวคืนเช่นกัน จากกรณีที่ไม่ชกครบตามสัญญา และเตรียมเปิดแถลงข่าวในเรื่องนี้กับสื่อมวลชน ในวันที่ 13 ต.ค. เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน พระราม 9 (คืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ)

นั่นคือบทสรุปสมมติฐานแรกแบบไม่ซับซ้อน คือไม่ขึ้นชกตัดสินเพราะหวั่นผีพนันล็อคผล ทำเสียชื่อ 

ส่วนบทวิเคราะห์แบบดราม่าสมมติฐานที่ 2 เป็นเรื่องของการหักเหลี่ยมมวย โดยบัวขาวอาจไม่ต้องการชกไฟต์นี้แต่แรก เหตุรู้ตัวดีว่าต่อยยังไงก็แพ้(ถ้าไม่น็อคคู่ปรับกลางเวที) เพราะก่อนหน้านี้ทาง K-1 ยังไม่ต่อสัญญากับนักชกไทย คงเพราะตกลงตัวเลขกันไม่ได้ เนื่องจากชื่อเสียงของเจ้าดำดอทคอมสามารถขายได้แน่นอน 

ในเมื่อไม่มีการขยายสัญญา ส่งผลให้สัญญาของบัวขาวและเค-วัน สิ้นสุดในไฟต์นี้ ซึ่งตามหลักการตลาด ถ้า เค-วัน ต้องหานักชกคนใหม่เพื่อมาแทนที่จอมเตะแดนสยาม วิธีการที่ง่ายที่สุดเพื่อรักษาเรตติ้ง คือหาแชมป์หน้าใหม่มาแทนซะ (ย้ำอีกรอบทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดานะครับ) 

ทุกวันนี้วงการกีฬาถูกผูกติดกับธุรกิจอย่างแยกกันไม่ได้ แล้วไอ้เรื่องเงินๆทองๆนี่แหละ เป็นตัวการทำให้เกิดปัญหามามากมายแทบทุกวงการ สมมุติว่าเรื่องที่เดาถูกต้อง ก็น่าเห็นใจนักกีฬาที่ต้องถูกอำนาจมืดวงการธุรกิจแทรกแซงผลการแข่งขัน แต่อีกมุมหนึ่งความเป็นมืออาชีพก็ควรชกตัดสินให้จบเช่นกัน ส่วนจะมีหมัดเด็ดตอบโต้อย่างไร ค่อยงัดหลักฐานมาว่ากันภายหลัง 

ถ้าให้นับนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ บัวขาว เลือกใช้วิธีหายตัว ก่อนหน้าตอนมีปัญญากับค่าย ป.ประมุข ก็เคยใช้วิชานินจาไปรอบหนึ่ง ต่อมามีกรณีพิพาทกับไทยไฟต์ เจ้าตัวก็หนีไปดื้อๆ แถมหันหน้าไปจัดศึกแม็กมวยไทยแข่งด้วยซ้ำ กว่าจะเคลียร์กันนอกรอบจนเข้าใจ

ผมคิดว่าทั้ง 2 ฝ่ายทราบดีถึงเบื้องลึกว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นไม่ขอตัดสินเรื่องถูกผิด แต่ขอตำหนิทั้งคู่ที่ไม่เคลียร์กันล่างเวที และปล่อยให้เป็นประเด็นฉาวอย่างที่เห็น