บิ๊กกร๊องชูนโยบาย "ทำตรงข้ามบังยี"

บิ๊กกร๊อง ยึดหลักแค่ "ทำตรงข้ามบังยี" ก็พัฒนาลูกหนังไทยแล้ว วางเป้าไปฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

“บิ๊กกร๊อง” วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมด้วย “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อดีตประธานพัฒนาเทคนิคฟุตซอลทีมชาติไทย ร่วมแถลงแผนงานและยุทธศาสตร์ “ถึงเวลาบอลไทยก้าวหน้า” และ เปิดตัวสภากรรมการ ที่สโมสรกองทัพบก เมื่อวันที่ 9 ต.ค. วางเป้าหมายพาทีมชาติไทยไปเล่นฟุตบอลโลกในอีก 9 ปีข้างหน้า ที่กาตาร์ โดยจะเริ่มต้นด้วยการเป็นแชมป์อาเซียนภายใน 2 ปี เป็น ท็อป 5 ของเอเชียใน 6 ปี พร้อมทั้งมีแผนปรับปรุงสมาคมฟุตบอลฯ พัฒนาฟุตบอลลีก และ จัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรฟุตบอลภูมิภาค

“เราจะปรับปรุงโครงสร้างของสมาคมฟุตบอล โดยเฉพาะด้านการตลาด สิทธิประโยชน์ เพิ่มการเก็บสถิติสารสนเทศ จัดหามืออาชีพเข้ามาทำงาน โปร่งใสยุติธรรมและตรวจสอบได้ กล่าวคือ แนวทางการบริหารสมาคมฟุตบอล หากผมได้รับเลือก ก็คือ ทำอะไรก็ได้ที่ตรงข้ามกับวรวีร์ มะกูดี ทุกอย่างก็จะดีขึ้น" คู่แข่งของ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย กล่าว

บิ๊กกร๊อง ยังฝากถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 72 ทีมตามธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่า ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ที่โรงแรมโกลด์เด้น ทิวลิป พระรามเก้า เวลา 14.00 น. ว่า "หนึ่งเสียงของคุณคือการกำหนดทิศทางของฟุตบอลไทย เราต้องการเห็นวงการฟุตบอลไทยเปลี่ยนแปลงเพื่อนำความสุขกลับมาให้คนไทย หรือจะย่ำอยู่กับที่ กับความล้มเหลวแบบเดิมๆ"

ขณะด้าน อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาลีกในประเทศว่า จำเป็นต้องจัดหาซีอีโอเข้ามาบริหารงานและให้สโมสรเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นภายใน 2 ปี แรก จากนั้นภายใน 3-6 ปี จะส่งเสริมให้ทุกทีมในไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชั่น 1 ได้รับคลับไลเซนซิ่งคือมีมาตรฐานที่เอเอฟซียอมรับ

“นอกจากนี้เราจะเปิดศูนย์พัฒนาบุคลากรภายใน 2 ปี แรก จะเปิดศูนย์ภูมิภาคจำนวน 6 แห่ง ภายใน 3-6 ปี จะเพิ่มเป็น 11 แห่ง และภายใน 7-10 ปี จะยกระดับเป็นเครือข่ายนานาชาติ"