ที่สุดแห่งกีฬาไทย

วงการกีฬาไทยในรอบปีที่ผ่านมา นับเป็นปีแห่งความสุขที่ควงคู่มากับข่าวฉาว ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ และนี่คือ 8 ที่สุดแห่งปี

โดย ...นูโน่
         
ประสบความสำเร็จที่สุด
         
คงต้องยกให้กับ "โปรเล็ก" ถาวร วิรัตน์จันทร์และทัพนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมไม่แพ้กันถาวร คว้าแชมป์ 3 รายการ ทุบสถิติคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์สูงสุด 15 สมัย และรองแชมป์อีก 4 รายการ ซึ่งทำให้เขาจบปีด้วยตำแหน่งมือ 1 เอเชียน ทัวร์ สมัยที่ 2 ต่อจากปี 2005 พร้อมทั้งสร้างประวัติศาสตร์เป็นมือ 1 ที่อายุมากที่สุด
         
นอกจากนี้ โปรวัย 46 ปี ยังกวาดอีก 4 รางวัลเอเชียน ทัวร์ ได้แก่ ทำเงินสูงสุด นักกอล์ฟยอดเยี่ยม รางวัลพิเศษ และเบอร์ดีรวมสูงสุด ตอกย้ำปีทองอย่างแท้จริง
         
ขณะที่ทัพนักกีฬาคนพิการในพาราลิมปิกเกมส์แก้ตัวแทนทัพโอลิมปิกเกมส์ ด้วยการทำผลงานคว้า 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง
         
แม้ไม่ใช่ความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์แต่ทะลุเป้าหมายที่วางไว้และมากที่สุดในรอบ 8 ปีอีกทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการคว้าเหรียญทองจากกีฬาอื่นๆที่ไม่ใช่วีลแชร์เรซซิงและวีลแชร์ฟันดาบ โดยครั้งนี้ได้จาก บอกเซีย(พัทธยา เทศทอง (2), วิษณุ ฮวดประดิษฐ์, มงคลจิตรเสงี่ยม, วัชรพล วงษา เทเบิลเทนนิส (รุ่งโรจน์ไทยนิยม) และวีลแชร์ฟันดาบ (สายสุนีย์ จ๊ะนะ)
         
 ล้มเหลวที่สุด
         
เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่ทัพนักกีฬาโอลิมปิกไทย กลับบ้านโดยไร้เหรียญทอง นับตั้งแต่สมรักษ์ คำสิงห์ ประเดิมเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ที่แอตแลนตา ประเทศสหรัฐ เมื่อปี 2000
         
หลังจากขึ้นสูงสุด 3 เหรียญทองที่เอเธนส์ ผลงานนักกีฬาก็ตกลงเรื่อยๆหลังได้ 2 เหรียญทองมาครั้งนี้ทำได้ดีที่สุดแค่ 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง จาก แก้ว พงษ์ประยูร (มวยสากลสมัครเล่น) พิมศิริ ศิริแก้ว (ยกน้ำหนัก) และ ชนาธิปซ้อนขำ (เทควันโด) ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2 เหรียญทอง
         
 ประทับใจที่สุด
         
บรรยากาศหลังคว้าเหรียญทองบอกเซียประเภทบุคคลของ พัทธยา เทศทอง ในกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ยังตราตรึงอยู่ในใจคนไทย
        
 ทันทีที่ชนะ เดวิด สมิธ คู่แข่งของเจ้าถิ่น หนุ่มอารมณ์ดีจากอำนาจเจริญ ตะโกนสุดเสียงด้วยความดีใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงกับพื้นและก้มลงกราบขอบคุณผู้ชมทั่วสนาม ที่พร้อมกันลุกขึ้นยืนปรบมือดังลั่น เป็นภาพความประทับใจที่ถูกตีแผ่ไปทั่วโลกและยังเรียกน้ำตาคนไทยหลายคน
          
อัปยศที่สุด
        
เป็นอะไรไปเสียไม่ได้ นอกจากความอับอายไปทั่วโลกจากกรณีสนามบางกอก ฟุตซอล อารีนา ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามหลักการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ด้วยงบประมาณ 1,239 ล้านบาทถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งแบนไม่ให้จัดแข่งขัน เพราะสร้างไม่เสร็จตามกำหนด
         
ทั้งที่มีหลายเสียงคัดค้านให้ดำเนินการต่อ หลังแผนล่าช้าเพราะเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ก็ยังยืนยันเสร็จทันกำหนดแน่นอนท่ามกลางเสียงโจมตี ขณะที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยก็โยนความรับผิดชอบให้ กทม. โดยไม่มีการร่วมด้วยช่วยกันและสุดท้ายฟีฟ่าก็มีมติไม่ให้ใช้ หลังจากเลื่อนแล้วเลื่อนอีกโดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความอัปยศราคาแพง
         
ที่สุดแห่งมหากาพย์

ก่อนจะป้องกันแชมป์ไทยไฟต์ 2012 สำเร็จเรื่องราวความขัดแย้งของบัวขาว บัญชาเมฆ หรือบัวขาว ป.ประมุข กับค่ายป.ประมุข ที่มีปัญหามาจากเรื่องเงินๆทองๆ แทบจะเป็นหนังซีรีส์ที่มีครบทุกรสชาติและพลิกไปพลิกมา
         
นับจาก บัวขาว มีข่าวหายตัวไปจากค่ายตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ก็กินเวลาถึง4 เดือนกว่าทั้งสองฝ่ายจะเคลียร์กันได้ หลังจากบานปลายจนต้องพึ่งผู้ใหญ่ในวงการเข้ามาเป็นตัวกลาง และมีการลงโทษแบนรวมทั้งฟ้องศาล ก่อนจะลงเอยด้วยการไกล่เกลี่ยและยอมความกันที่ศาลแพ่ง ด้วยสัญญาเรื่องค่าตัวบัวขาว-ป.ประมุข 60/40 เปอร์เซ็นต์และสิทธิประโยชน์ต่างๆ 75-25 เปอร์เซ็นต์
         
 มอบความสุขที่สุด
         
ทุกแมตช์ที่ชม ทุกทัวร์นาเมนต์ที่ได้เชียร์ ไม่ว่าจะจบด้วย "แชมป์" หรือไม่ พวกเธอได้มอบความสุขให้แฟนกีฬาชาวไทยมาตลอด นั่นคือ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
         
แม้จะพลาดตั๋วไปโอลิมปิกอย่างชอกช้ำใจ จากความพ่ายแพ้แบบคาใจของญี่ปุ่นต่อเซอร์เบีย ในการแข่งขันรอบคัดเลือก แต่สาวไทยก็ชนะใจแฟนๆ และเก็บเอาความผิดหวังมาเป็นแรงผลักดันคว้าอันดับ 4 ในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุด และยังเอาชนะ จีนคว้าแชมป์เอวีซี เอเชียน คัพ ที่คาซัคสถาน
         
ฮอตที่สุด
         
แม้จะไร้เหรียญติดมือกลับมาจากโอลิมปิกเกมส์ แต่ "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันดาวรุ่งของไทย ก็กลายเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศจากการโชว์ฟอร์มประทับใจ
         
เดี่ยวมือ 1 ของไทยผ่านเข้าถึงรอบ8 คนสุดท้ายด้วยการเก็บชัยชนะรวดก่อนพ่ายให้กับ หวังซิน มือ 2 ของโลกแบบสุดมันส์ 1-2 เกม ท่ามกลางเสียงปรบมือของคนทั้งสนาม และได้รับความสนใจจากสื่อทุกแขนงและแฟนๆ อย่างล้นหลาม เมื่อเดินทางกลับถึงเมืองไทย
หลังดังแล้ว น้องเมย์ ก็ยังรักษาฟอร์มยอดเยี่ยมจนจบปีด้วยอันดับ 9 ของโลก
         
ชอกช้ำที่สุด
         
กีฬาย่อมมีแพ้-ชนะเป็นธรรมดา แต่ความพ่ายแพ้ต่อ ซูชิหมิง บนเวทีรอบชิงชนะเลิศมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 49 กก. ลอนดอนเกมส์วันนั้น มันยากที่จะรับได้สำหรับ แก้ว พงษ์ประยูร
         
คำตัดสินของกรรมการไม่เพียงดับความหวังเหรียญทองของคนไทย แต่ยังค้านความรู้สึกของทีมเสื้อกล้ามไทยและแฟนๆ ทั้งที่ชมการถ่ายทอดสดอยู่ในประเทศไทยและชาวต่างชาติในสนาม นั่นทำให้เจ้าตัวคิดว่า "ถูกปล้นชัย"