posttoday

เวลาเปลี่ยน...ใจคนเปลี่ยน

17 กันยายน 2555

“เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน ช่างกระไรใจหนอใจคน”

“เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน ช่างกระไรใจหนอใจคน”

เชื่อว่าหลายคนคงยังจำประโยคนี้กันได้ เพราะมันอยู่ในเพลงยอดฮิต “ก็เคยสัญญา” ของ อัสนี-วสันต์ โชติกุล เมื่อในอดีต

โดยขอเอามาเปรียบเทียบกับใจของ รอรี แม็คอิลรอย โปรกอล์ฟมือ 1 โลกชาวไอร์แลนด์เหนือ เปล่าหรอกนะ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องความรักของยอดโปรวัย 23 กับแฟนสาวอย่าง แคโรไลน์ วอซเนียกกี อดีตนักเทนนิสมือ 1 โลกจากเดนมาร์ก เพราะยังไม่มีใครนอกใจใครไปมีแฟนใหม่ เหมือนกับเนื้อหาในเพลง ทั้งคู่ยังรักกันดี...ขอบอก

แต่ใจของ แม็คอิลรอย ในที่นี้หมายถึง ความคิดความอ่าน ซึ่งไม่เกี่ยวกับความรัก โดยเป็นเรื่องของความเคารพ หรือมารยาทซะมากว่า

คนเรานั้น เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความคิดก็ย่อมเปลี่ยนตามไปด้วย อาจเป็นเพราะอายุมากขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น รู้จักคิดมากกว่าเดิม ทำให้มีทัศนคติที่ดีขึ้น

เวลาเปลี่ยน...ใจคนเปลี่ยน

 

หากจำกันได้สมัยยุคตกต่ำของ “พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ ที่โดนมรสุมชีวิตกระหน่ำ หลังคบกิ๊กมากมายและถูก เอลิน ภรรยา จับได้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2009 จนทำเอาเมียที่เป็นอดีตนางแบบชาวสวีดิชถึงกับหอบลูกสองคนหนี ก่อนที่จะขอฟ้องหย่าแบ่งสมบัติแล้วเลิกรากันไปในที่สุด ช่วงนั้นหากมีใครถาม แม็คอิลรอย ถึง ไทเกอร์ ก็มักได้คำตอบแบบงั้นๆ หรือพูดง่ายๆ คือ ค่อนข้างจะดูถูกยอดโปรชาวสหรัฐวัย 36 เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 14 สมัยซะเหลือเกิน เหมือนไม่อยู่ในสายตาเอาซะเลย

ช่วงตกอับของ ไทเกอร์ ถือว่าเป็นเวลาเดียวกับที่ แม็คอิลรอย กำลังพุ่งสวนทางขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จนบรรดาเกจิวงการสวิงโลกต่างคาดหมายว่า หนุ่มหัวหย็อยวัย 23 นี่แหละ คือคนที่จะก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่แทน ไทเกอร์

แล้วทุกอย่างก็เป็นจริงขึ้นมา โดยเริ่มจาก แม็คอิลรอย ผงาดชูโทรฟีระดับเมเจอร์ได้เป็นครั้งแรกใน “ยูเอส โอเพน 2011” แล้วก็ก้าวขึ้นนั่งบัลลังก์กอล์ฟชายโลกได้สำเร็จ ก่อนจะมาเก็บเมเจอร์ที่ 2 ได้อีก จาก “พีจีเอ แชมเปียนชิพ 2012” เมื่อเดือนที่แล้ว

เวลาเปลี่ยน...ใจคนเปลี่ยน

 

และแล้วจากที่เคยเป็นคนมั่นใจในตัวเองสุดๆ แถมพูดจาก้าวร้าวโอ้อวดดูถูกเหยียดหยาม ไทเกอร์ มาตลอด จน ลี เวสต์วูด อดีตมือ 1 โลกจากอังกฤษ ถึงกับเคยออกมาเตือนนั้น ทุกวันนี้ แม็คอิลรอย เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยออกอาการนอบน้อมถ่อมตน และยังไม่บังอาจเทียบชั้นกับความยิ่งใหญ่ของ ไทเกอร์ เมื่อในอดีต

“มันเป็นช่วงเวลาที่ผมเล่นกอล์ฟได้ดีที่สุดเท่าที่เคยเล่นมาเลยทีเดียว โดยยิ่งขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ (มือ 1 โลก) มากเท่าไหร่ ยิ่งคว้าแชมป์และถ้วยรางวัลมาครองได้มากขึ้นเรื่อยๆ มันก็ค่อยๆ กลายเป็นเรื่องธรรมดา มันเหมือนกับว่า นี่คือสิ่งที่ต้องทำให้ได้อยู่แล้ว ทว่าผมยังไม่คิดว่าจะสามารถก้าวไปอยู่ในจุดเดียวกับที่ ไทเกอร์ เคยอยู่ แต่ผมกำลังจะไปถึงจุดที่ผมคิดว่าน่าจะทำได้” แม็คอิลรอย กล่าว หลังกวาด 2 แชมป์ศึกเฟดเอ็กซ์คัพ ซีรีส์ 2 รายการติดต่อกัน (ดอยช์แบงก์ แชมเปียนชิพ, บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิพ) เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่ ไทเกอร์ ซึ่งยังหาแชมป์เมเจอร์ไม่เจออีกเลยนับแต่ชูถ้วย “ยูเอส โอเพน 2008” ก็ถือว่ากำลังคืนฟอร์มเก่งขึ้นเรื่อยๆ หลังปีนี้กวาดมาแล้ว 3 แชมป์ จนตอนนี้ขยับขึ้นมารั้งมือ 2 โลกแล้ว

“รอรี มั่นใจกับเกมการเล่นของตัวเองอย่างมาก และกำลังทำในสิ่งที่เขาต้องการเขาเล่นได้ดีมาก แล้วพัตต์ก็ยอดเยี่ยม เขาสุดยอดมาก ครบเครื่องจริงๆ” ไทเกอร์ กล่าว

นับเป็นความโชคดีของแฟนๆ กอล์ฟยุคนี้ ที่มีสุดยอดนักกอล์ฟ 2 คนมาอยู่ร่วมยุคเดียวกัน แม้อายุจะห่างกันถึง 13 ปีก็ตาม เนื่องจากในสังเวียนสวิงนั้น อายุไม่ถือเป็นข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันมากนัก

แต่หลังจาก “เวลาเปลี่ยน ใจแม็คอิลรอยเปลี่ยน (ในทางที่ดีขึ้น)” ทำให้ดูๆ แล้ว เก่งเล็กน่าจะมีภาษีดูดีกว่าเก่งใหญ่

เวลาเปลี่ยน...ใจคนเปลี่ยน