แม็คอิลรอย...วัดรอยเท้าเสือ

ต้องยอมรับว่าช่วงที่มีมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิก 2012” ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (27 ก.ค.-12 ส.ค.) นั้น ทำเอารายการกีฬาอื่นๆ โดนลดความสนใจลงไปเยอะเลยทีเดียว ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ศึกกอล์ฟเมเจอร์สุดท้ายของฤดูกาล “พีจีเอ แชมเปียนชิพ” ณ สนามเคียวาห์ ไอแลนด์ รีสอร์ต ที่เซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐ (9-12 ส.ค.)

แม้แต่หน้ากีฬาของโพสต์ทูเดย์เองก็ต้องยกพื้นที่ในหน้าส่วนใหญ่ให้กับลอนดอนเกมส์ ทำให้ไม่มีโอกาสมากนักที่จะเขียนถึงความยิ่งใหญ่ของ รอรีแม็คอิลรอย ซึ่งผงาดครองแชมป์เมเจอร์เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต พร้อมขึ้นนั่งบัลลังก์โลกอีกครั้งแบบสุดยิ่งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามากนัก หลังโปรไอร์แลนด์เหนือจบด้วยสกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ 275 ทิ้งห่างอันดับ 2 เดวิด ลินน์ จากอังกฤษ ถึง 8 สโตรก ซึ่งเป็นสถิติชนะขาดมากที่สุด ทำลายสถิติเดิม (7 ช็อต) ของ “หมีทอง” แจ็ก นิกคลอส เมื่อปี 1980

ขณะที่ “พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ ที่หยุดแชมป์เมเจอร์ไว้ที่ 14 สมัย มาตั้งแต่ชูโทรฟี “ยูเอส โอเพน 2008” จบแค่อันดับ 11 ร่วม สกอร์ 286 ทำให้ ไทเกอร์ ที่หวังไล่ทุบสถิติแชมป์เมเจอร์มากที่สุดตลอดกาล 18 สมัยของ นิกคลอส ตำนานกอล์ฟโลกชาวอเมริกันด้วยกันยังคงต้องหยุดชะงักต่อไป

ก่อนหน้านี้ แม็คอิลรอย ที่คบหาดูใจกะหนุงกะหนิงสวีตหวานแหววกับแคโรไลน์ วอซเนียกกี อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 โลก จากเดนมาร์ก ที่กำลังรั้งอันดับ 8 ในปัจจุบัน รู้สึกกดดันอย่างมากที่โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า “ลักกี อิน เลิฟ อัน ลักกี อิน เกม” เพราะฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย ไม่เพียงหาแชมป์ไม่เจอ แต่ยังไม่ผ่านตัดตัวถึง 3 รายการติดต่อกัน เช่นเดียวกับ วอซเนียกกี อันดับโลกก็ตกลงเรื่อยๆ นับแต่เสียมือ 1 โลกให้ วิกตอเรีย อซาเรนกา จากเบลารุส หลังจบศึกแกรนด์สแลมแรกของปี “ออสเตรเลียน โอเพน” เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

 

ผู้คนพากันเมาท์มอยว่า ฟอร์มของคู่รักคู่นี้พากันลงเหว แต่แล้วแชมป์พีจีเอฯ นี้มันเหมือนช่วยให้ แม็คอิลรอย ได้ปลดปล่อยพร้อมลบคำสบประมาทได้สำเร็จ

“ผมเคยผิดหวังกับฟอร์มการเล่นที่ผ่านมา และยังโดนสื่อโยงเรื่องนี้เข้ากับเรื่องความรักของผมอีกด้วย แต่โชคดีที่ผมเอามาเป็นแรงกระตุ้นให้ตัวเอง และแล้วผมก็สามารถทำสำเร็จ ซึ่งน่าจะสยบเสียงวิจารณ์ต่างๆ ลงได้ซะที” แม็คอิลรอย กล่าวอย่างสะใจ

เหลือก็แต่แฟนสาวจากแดนโคนมที่ยังไม่สามารถลบข้อครหาได้ เพราะไม่เพียงไร้แชมป์แกรนด์สแลมประดับบารมี แต่ล่าสุดยังพลิกพ่าย อนาสตาเซีย พาฟลิวเชนโควา จากรัสเซีย 2 เซตรวด ตกรอบ 3 “ซินซินเนติ มาสเตอร์ส” ที่โอไฮโอ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งที่มี แม็คอิลรอย ไปคอยให้กำลังใจอยู่ด้วย โดยแฟนหนุ่มมีคิวลงเล่น ยูโรเปียน ทัวร์ “จอห์นนี วอล์กเกอร์ แชมเปียนชิพ” ที่สกอตแลนด์ สัปดาห์หน้า ส่วนนักหวดลูกสักหลาดสาวกำลังจะลงแข่งแกรนด์สุดท้ายของปี “ยูเอส โอเพน” ที่จะเริ่มวันที่ 27 ส.ค.นี้

ไทเกอร์รับคืนมือ 1 สุดหิน

แม็คอิลรอย วัย 23 ปี 3 เดือน ที่ได้จุมพิตถ้วยระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกใน“ยูเอส โอเพน 2011” แล้วมาครองแชมป์เมเจอร์สมัยที่ 2 นี้ ยังทำลายสถิติแชมป์เมเจอร์ 2 สมัยอายุน้อยสุดของ ไทเกอร์ (23 ปี 8 เดือน) อดีตมือ 1 โลกผู้ยิ่งใหญ่ที่รั้งอันดับ 3 ปัจจุบันอีกด้วย

 

“ผมเคยได้ยิน ไทเกอร์ เพิ่งพูดเอาไว้ว่า หากทำผลงานได้ดีก็ถือเป็นฤดูกาลที่ดี แต่หากสามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ มันจะกลายเป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว เท่ากับว่าตอนนี้ผมมี 2 ฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตแล้ว และหวังว่าจะรักษาฟอร์มสุดยอดไปจนถึงฤดูกาลหน้า เพื่อลุ้นเก็บเมเจอร์เพิ่มอีก”

ขณะที่ ไทเกอร์ ก็ซูฮกโปรรุ่นน้องเช่นกัน และยังบอกอีกว่า ความฝันของเขาที่จะคืนสู่มือ 1 โลกอีกครั้งมันยากขึ้นเรื่อยๆ และท้าทายสุดๆ เพราะเพิ่งโดน แม็คอิลรอย ตัดหน้าไปเรียบร้อยแล้ว โดยมี ลุค โดนัลด์ จากอังกฤษ ที่เพิ่งตกบัลลังก์ รั้งมือ 2 โลกคั่นกลางระหว่างเขาและแม็คอิลรอย

“เราต่างรู้ดีว่า รอรี เยี่ยมมากขนาดไหน โดยเขา (รอรี) เพิ่งเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งเราทุกคนต่างก็ต้องเคยพบกับสิ่งเหล่านี้มาด้วยกันทั้งนั้น และเมื่อเขาสามารถผ่านมันมาได้ นับแต่นี้เขาก็น่าจะมีสิ่งที่น่าตื่นเต้นเร้าใจให้เรารอชมอีกแน่” ยอดโปรวัย 36 กล่าว

 

ตำนานสวิงผู้ดีเชียร์รอรี

ครบ 4 สแลม

หากเอ่ยชื่อ เซอร์นิโคลาส อเล็กซานเดอร์ ฟัลโด หลายคนคงงง แต่ถ้าบอกว่าเขาคือ นิก ฟัลโด ทุกคนร้องอ๋อทันที เพราะเขาคืออดีตโปรมือ 1 โลกชาวอังกฤษ ที่ได้รับเครื่องราชย์ชั้น เอ็มบีอี (MBE) นั่นเอง

ฟัลโด เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 6 สมัย (เดอะ มาสเตอร์ส 3 / ดิ โอเพน 3) ออกโรงเชียร์ แม็คอิลรอย สุดลิ่ม ให้ช่วยทำสถิติโปรยุโรปคนแรกที่กวาดโทรฟีแกรนด์สแลมได้ครบหมดทั้ง 4 รายการ เพราะตอนนี้ได้ “ยูเอส โอเพน” กับ “พีจีเอ แชมเปียนชิพ” มาแล้ว และยังมีเวลาอีกมากที่จะไล่ล่ามาให้ได้

หากสังเกตให้ดี แม็คอิลรอย คว้า 2 แชมป์เมเจอร์ที่ ฟัลโด ไม่เคยได้ ส่วนฟัลโด ก็ทำสำเร็จในเมเจอร์ที่ แม็คอิลรอย ยังไม่เคยได้เหมือนกัน

“รอรี ผ่านมาแล้วครึ่งทาง และกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง อนาคตอะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ เราคงไม่สามารถคาดเดาได้หรอก มีแค่เขา (รอรี) คนเดียวเท่านั้นที่น่าจะรู้ดี เพราะเขาแกร่งและมีความมุ่งมั่นที่ต้องการจะทำให้ได้ ผมเชื่อว่าตัวเขาเองก็แทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ไปเล่นที่สนามออร์กัสตา (เดอะ มาสเตอร์ 2013) เพื่อซิวเมเจอร์มาเพิ่มให้ได้อีกในปีหน้า” ยอดโปรแดนผู้ดีวัย 55 กล่าว

ทั้งนี้ มีนักกอล์ฟที่สามารถกวาดได้ครบทั้ง 4 เมเจอร์ แค่ 5 คนเท่านั้น โดยเป็นโปรสหรัฐ 4 คน ได้แก่ ไทเกอร์, นิกคลอสเบน โฮแกน, เกน ซาราเซน และอีกคนคือแกรี เพลเยอร์ จากแอฟริกาใต้