ฉัตรชัยรับแพ้จริงแต่ขอแก้ตัวที่บราซิล

ฉัตรชัย รับสภาพสู้คิวบาไม่ได้ แต่ยืนยันขอสู้ต่อในโอลิมปิกครั้งหน้า ขณะที่ เสธ.อ้าย ยืนยันคำเดิมไร้ทองขอลาออก

ฉัตรชัย บุตรดี ยอมรับ โรบิซี รามิเรซ คาร์ราซานา สมควรเป็นผู้ชนะ เพราะเหนือกว่าทั้งจังหวะเข้าทำและความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหลังจบยกแรกแต้มเป็นรอง ต้องเร่งจังหวะยิ่งเข้าทางคู่ต่อสู้

“ผมเตรียมตัวมาพร้อม ไม่ตื่นเต้นและมีความมั่นใจด้วยซ้ำก่อนขึ้นชก แต่ประสบการณ์แข่งต่างประเทศไม่เพียงพอ เสียใจ แต่ไม่เป็นไร เตรียมใจไว้ตั้งแต่ก่อนแข่งแล้วเหมือนกัน เพราะเป็นโอลิมปิกครั้งแรก” ฉัตรชัย กล่าวหลังพ่าย 10-22 หมัด ในรอบ 16 คนสุดท้าย รุ่น 52 กก.

เช่นเดียวกับ พ.ท.ธง ทวีคูณ ผู้ฝึกสอน ซึ่งยอมรับว่ามวยคิวบามาดีกว่าไฟต์แรก โดยเฉพาะการ บล็อกการ์ดไม่มีตกและดีกว่าทั้งจังหวะและร่างกาย ขณะที่ฉัตรชัยมีอาการไข้ด้วย

อย่างไรก็ตาม นักชกไทยเผยว่าเสียดายที่ไม่สามารถนำเหรียญกลับไปฝากชาวไทยและเป็นของ ขวัญต้อนรับลูกคนแรกที่มีกำหนดคลอด 25 ส.ค.นี้ แต่ยืนยันจะสู้ต่อเพื่อโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล

ขณะที่ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ยืนยันหนักแน่นจะลาออกจากตำแหน่งแสดงความรับผิดชอบ หากไม่สามารถคว้าเหรียญทองกลับไปให้ชาวไทย

“ที่ผ่านมาพลเอกทั้ง 3 คน นำทัพได้เหรียญทองมาทั้งหมด มาถึง พล.อ.บุญเลิศ ทำไม่ได้ก็เหมือนไม่เป็นมวยก็ต้องลาออกให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทน” เสธ.อ้าย กล่าว

การทยอยตกรอบของนักกีฬาความหวัง ทำให้ทัพไทยมีโอกาสไร้เหรียญทองติดมือเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีไม่น้อย แต่ กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และประธานเตรียมนักกีฬาไทย ยังเชื่อว่ายังมีลุ้นอยู่ โดยเฉพาะเทควันโดจะลงแข่งวันที่ 8-9 ส.ค.

“การแข่งขันยังไม่จบ ทัพไทยยังมีโอกาสทำผลงานคว้าเหรียญเพิ่ม แต่ผมก็ไม่ต้องการไปกดดันให้นักกีฬาให้ทำได้ตามเป้าหมาย” บิ๊กหนุ่มกล่าว

ด้าน ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ยอมรับมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่ทัพไทยจะไร้เหรียญทอง หลังปรับเป้าจาก 2 เหรียญทองก่อนมาแข่งขันเหลือ 1 เหรียญทองตอนนี้

นอกจากนี้ เป้าคว้าอันดับ 5 ในเอเชีย รองจาก จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และคาซัคสถาน ก็ต้องปรับเป้ามาอยู่อันดับ 6 แทน หลังเกาหลีเหนือ ทะยานขึ้นมา 4 เหรียญทอง แต่ยังต้องยึดเบอร์ 1 แห่งอาเซียน