เดนมาร์ก เล็งหักปากกาเซียน

โดย...นูโน่

ฉายา : โคนม

สตาร์เด่น : คริสเตียน อีริกเซน

อันดับฟีฟ่า : 10

ผลงานดีสุดในยูโร : แชมป์ (1992)

โค้ช : มอร์เทน โอลเซน

เดนมาร์กสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มเอ โดยแพ้เพียงนัดเดียวให้กับโปรตุเกสในนัดสอง ก่อนจะเปิดบ้านถอนแค้นทีมฝอยทอง 2-1 ในนัดสุดท้าย เหมือนหนังคนละม้วน เมื่อเทียบกับยูโร 2008 ซึ่งไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม การจับสลากอยู่กลุ่มบี หรือ “กรุ๊ปออฟเดท” ร่วมกับ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และโปรตุเกส ทำให้บรรดาเซียนเชื่อว่า แข้งโคนมจะเป็นไม้ประ ดับในรอบแรกเท่านั้น โดยฟันธงเป็นอันดับบ๊วยของกลุ่ม

แต่ในทางกลับกัน มอร์เทน โอลเซน กุนซือเดนมาร์ก ยังมองโลกในแง่ดีว่า การแบกความกดดันน้อยกว่าทีมคู่แข่ง บวกกับประสบการณ์ของเขาและการรู้จักลูกทีมเป็นอย่างดี จะช่วยให้พวกเขาหักปากกาเซียนเหมือนในรอบคัดเลือกได้อีกครั้ง

“ผมเป็นโค้ชมา 12 ปีแล้ว และนี่ก็เป็นรอบสุดท้ายครั้งที่ 4 ของผม โค้ชใหม่อาจจะหาวิธีการใหม่ๆ เข้ามา แต่เรามีประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยได้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน” โอลเซน กล่าว

จุดเด่นของเดนมาร์ก ซึ่งใช้ระบบการเล่น 4-2-3-1 คือ ศักยภาพของโอลเซนในการพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วเรื่องการทำให้นักเตะงัดฟอร์มเก่งและมุ่งมั่นกับงานหนักของพวกเขา

แม้ตัวผู้เล่นจะไม่โดดเด่นเหมือนอีก 3 ทีมร่วมกลุ่ม แต่ความสุขุมเยือกเย็นของ โทมัส โซเรนเซน ผู้รักษาประตูของทีมสโตก เมื่อเล่นให้ทีมชาติก็น่าจะสร้างความอุ่นใจในแดนหลังได้บ้าง

นอกจากนี้ ก็มี แดเนียล แอ็กเกอร์ และ ไซมอน เคียร์ 2 ปราการหลังจากลิเวอร์พูลและโรมา เป็นที่พึ่งในแดนรับ โดยมี คริสเตียน อีริกเซน มิดฟิลด์ดาวรุ่งอาแจกซ์ คอยปั้นเกมรุกร่วมกับ นิคลาส เบนต์เนอร์

ปัญหาของพวกเขา คือ ความฟิตของแอ็กเกอร์ หลังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เรื่อยๆ เช่นเดียวกับฟอร์มของเคียร์ ที่มีลูกเฟอะฟะให้เห็น จนทำให้เสียจุดโทษหรือโปรเฟสชันแนลฟาวล์ และโอลเซน หวังว่า นักเตะของพวกเขาจะรักษาความฟิตและมีโชคเข้าข้างเพื่อช็อกโลกอีกครั้ง

เมื่อย้อนไปปี 1992 เดนมาร์กผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับเยอรมนี ซึ่งเป็นเต็งจ๋าคว้าแชมป์ที่สวีเดน แต่กลับเป็นแข้งโคนมที่อาศัยความหนึบของ ชไมเคิล บวกทีมเวิร์ก พลิกล็อกคว้าแชมป์สมัยแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ