posttoday

ศึกแห่งศักดิ์ศรี...(ถ้วย ก.)บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด-ชลบุรี เอฟซี

10 มีนาคม 2555

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก. ถือเป็นทัวร์นาเมนต์เก่าแก่ของฟุตบอลเมืองไทยกว่า 100 ปี

โดย...ราชันเบอร์23

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก. ถือเป็นทัวร์นาเมนต์เก่าแก่ของฟุตบอลเมืองไทยกว่า 100 ปี แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนเทรนด์มาเป็นถ้วยการกุศล หรือเรียกให้เก๋ว่า “แชริตีชิลด์เมืองไทย” ซึ่งเตะก่อน 1 สัปดาห์ก่อนที่ฟุตบอลลีกจะเริ่มโม่แข้งปีนี้ เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ 4 ถ้วย พบ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี รองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก

ซึ่งจะดวลแข้งกันในวันอาทิตย์ที่ 11 มี.ค. ที่สนามศุภชลาศัย ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ทีวี และฟุตบอลสยาม ทีวี ทรูวิชั่นส์ 74 ถ่ายทอดสดให้ชมถึงบ้าน เวลา 17.00 น.

ศึกแห่งศักดิ์ศรี...(ถ้วย ก.)บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด-ชลบุรี เอฟซี

 

ถือว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพราะทั้งสองทีมถือเป็นบิ๊กทีมเมืองไทย ไม่มีใครยอมใครแน่นอนในเรื่องของเม็ดเงินและศักดิ์ศรีนักเตะ

แต่ดูเหมือนว่าทีมของ “บิ๊กเน” ประสบการณ์จะเป็นรอง “ฉลามชล” อยู่บ้าง เพราะเพิ่งเข้าชิงฯ เป็นครั้งแรก ส่วนทีมจากเมืองชลฯ เป็นแชมป์มา 3 สมัยแล้ว ปี 2551 2552 และล่าสุดปี 2554

“โค้ชแต๊ก” อรรถพล บุษปาคม กุนซือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งเป้าคว้าแชมป์ที่ 5

“ถ้วย ก. เป็นถ้วยอันสูงสุด และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หวังที่จะคว้าแชมป์เพื่อเปิดศักราชใหม่ นอกจากนั้นยังเป็นถ้วยที่เรายังไม่เคยได้สัมผัส ดังนั้นทุกคนคาดหวังกับเกมนัดนี้เป็นอย่างมาก เพื่อเป็นแรงผลักดันในการสู้ศึกฤดูกาลใหม่ ส่วนความพร้อมของทีม ถึงตอนนี้ทุกตำแหน่งสมบูรณ์หมด เหลือเพียงรอเวลาแข่งขันเท่านั้น” อรรถพล วัย 50 ปี กล่าว

ด้าน ชลบุรี เอฟซี ของ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล หวังสร้างสถิติคว้าแชมป์ทุกครั้งที่เข้าชิงฯ

“เราพร้อมแค่ 60–70 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีนักเตะบาดเจ็บจากเอเอฟซี คัพ เมื่อกลางสัปดาห์หลายคน และบางคนบาดเจ็บที่เรื้อรังมานาน อย่างไรก็ดี ในความไม่พร้อมของทีม ทว่าผู้บริหารและนักเตะทุกคนหวังที่จะคว้าถ้วยพระราชทานประเภท ก. มาครองให้ได้” วิทยา วัย 58 ปี กล่าว

โดยสถิติของชลบุรี ชิงถ้วย ก. 3 ครั้ง คว้าแชมป์ทั้ง 3 ครั้ง ดังนั้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ชลบุรีอยากสร้างสถิติคว้าแชมป์ถ้วย ก. ทุกครั้งที่เข้าชิงฯ

สำหรับศึกชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. พรีเซนเต็ด บาย โคคา-โคลา ประจำปี 2555 ถือเป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งสองทีมในรายการนี้ ซึ่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้สิทธิในฐานะแชมป์ไทยลีก และมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี เป็นรองแชมป์ไทยลีก โดยฝั่ง “ปราสาทสายฟ้า” เข้าชิงฯ ถ้วย ก. เป็นสมัยแรก ส่วนชลบุรี เอฟซี เข้าชิงฯ เป็นสมัยที่ 4 ซึ่ง 3 ครั้งที่ผ่านมา ชลบุรีคว้าแชมป์ได้ทั้ง 3 สมัย

ต้องดูว่าใครจะสร้างสถิติใหม่ให้วงการฟุตบอลเมืองไทย ระหว่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เซาะกราว หรือชลบุรี เอฟซี รองแชมป์ไทยลีก!!!

อาทิตย์นี้มีคำตอบ!!!