Team Terry vs. Team Bridge!
โดย AgsMan หลังจากที่แชมป์เก่า แมนฯ ยูไนเต็ดพลาดท่าพ่ายต่อเอฟเวอร์ตันไป แม้จะแก้ตัวโดยการถล่มเวสต์แฮมเมื่อกลางสัปดาห์ แต่สถานการณ์การลุ้นแชมป์ขณะนี้ถือว่า เชลซี ได้เปรียบมาก เพราะแต้มมากกว่า 1 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด และสุดสัปดาห์นี้ สิงโตน้ำเงินครามก็สบโอกาสที่จะทำแต้มฉีกหนีไปอีก เนื่องจากแมนฯ ยูไนเต็ดติดภารกิจชิงแชมป์คาร์ลิงคัพกับแอสตันวิลล่าในวันอาทิตย์ อย่างไรก็ดี ใช่ว่าจะเป็นงานที่ง่ายนัก เพราะผู้มาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ คือ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี ซึ่งแม้จะขาดผู้เล่นสำคัญไปหลายรายในช่วงที่ผ่านมาจนทำให้ฟอร์มค่อนข้างยวบลงไป โดยลงแข่งในลีก 5 นัดหลังสุด ชนะไปเพียง 2 นัดเท่านั้น ล่าสุดก็ตกรอบเอฟเอคัพอีก และในเกมวันเสาร์นี้ เอมมานูเอล อเดบายอร์ติดโทษแบน ทำให้โรแบร์โต มันชินีได้แต่หวังว่า คาร์ลอส เตเบซ ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนไตน์ จะกลับมาช่วยทีมได้ ส่วนเชลซี ฟอร์มในลีกถือว่าไปเรื่อย ๆ คาร์โล อันเชลอตติสามารถนำทีมกลับมาถล่มวูลฟ์ได้ 2-0 หลังพลิกพ่ายเอฟเวอร์ตันก่อนหน้า แต่ล่าสุดบุกไปซานซิโรปราชัยต่ออินเตอร์ มิลาน 1-2 ในศึกแชมเปียนส์ลีกเมื่อคืนวันพุธ แถมยังเสียผู้รักษาประตู ปีเตอร์ เช็ก ไ
โดย AgsMan
หลังจากที่แชมป์เก่า แมนฯ ยูไนเต็ดพลาดท่าพ่ายต่อเอฟเวอร์ตันไป แม้จะแก้ตัวโดยการถล่มเวสต์แฮมเมื่อกลางสัปดาห์ แต่สถานการณ์การลุ้นแชมป์ขณะนี้ถือว่า เชลซี ได้เปรียบมาก เพราะแต้มมากกว่า 1 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด และสุดสัปดาห์นี้ สิงโตน้ำเงินครามก็สบโอกาสที่จะทำแต้มฉีกหนีไปอีก เนื่องจากแมนฯ ยูไนเต็ดติดภารกิจชิงแชมป์คาร์ลิงคัพกับแอสตันวิลล่าในวันอาทิตย์
อย่างไรก็ดี ใช่ว่าจะเป็นงานที่ง่ายนัก เพราะผู้มาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ คือ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี ซึ่งแม้จะขาดผู้เล่นสำคัญไปหลายรายในช่วงที่ผ่านมาจนทำให้ฟอร์มค่อนข้างยวบลงไป โดยลงแข่งในลีก 5 นัดหลังสุด ชนะไปเพียง 2 นัดเท่านั้น ล่าสุดก็ตกรอบเอฟเอคัพอีก และในเกมวันเสาร์นี้ เอมมานูเอล อเดบายอร์ติดโทษแบน ทำให้โรแบร์โต มันชินีได้แต่หวังว่า คาร์ลอส เตเบซ ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนไตน์ จะกลับมาช่วยทีมได้
ส่วนเชลซี ฟอร์มในลีกถือว่าไปเรื่อย ๆ คาร์โล อันเชลอตติสามารถนำทีมกลับมาถล่มวูลฟ์ได้ 2-0 หลังพลิกพ่ายเอฟเวอร์ตันก่อนหน้า แต่ล่าสุดบุกไปซานซิโรปราชัยต่ออินเตอร์ มิลาน 1-2 ในศึกแชมเปียนส์ลีกเมื่อคืนวันพุธ แถมยังเสียผู้รักษาประตู ปีเตอร์ เช็ก ไปอีกจากอาการบาดเจ็บ ยังดีที่ได้แฟรงก์ แลมพาร์ด กลับมาช่วยทีม นัดนี้นอกจากจะเป็นการเผชิญหน้ากันของคู่กรณีฉาวอย่างจอห์น เทอร์รี กับ เวย์น บริดจ์ แล้ว ยังถือเป็นการล้างแค้นของเชลซีหลังจากที่เจอกันเมื่อครึ่งแรกของฤดูกาล พลิกพ่ายแมนฯ ซิตี้ไป 1-2 ล่าสุดทั้งคู่แพ้มาในบอลถ้วย คงใส่กันเต็มที่เพื่อล้างอาย แต่เชลซีดูดีมีภาษีกว่าจากสถิติการเล่นในบ้านที่ชนะถึง 12 จาก 13 นัด คู่ต่อมา ทีมที่เพิ่งคว่ำแชมป์เก่ามาหมาด ๆ อย่าง เอฟเวอร์ตัน จะต้องลงไปเยือนสนามไวท์ฮาร์ทเลนของ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส
ด้านเอฟเวอร์ตันฟอร์มน่ากลัวไม่น้อย 6 นัดล่าสุดในลีก ชนะถึง 5 นัด นักเตะทุกคนทุ่มเทการเล่นให้กับทีมเป็นอย่างดี แม้จะขาดทิม เคฮิลล์ กับ มารูยาน เฟลไลนีไป แต่ก็ไม่กระทบกับทีมมากอย่างที่คาดไว้ ในขณะที่โรมัน พาฟลิวเชนโกของสเปอร์สฟอร์มกำลังยอดเยี่ยม การพบกันของคู่นี้ในลีก 3 นัดหลังสุดในถิ่นสเปอร์ส เจ้าบ้านกลับเป็นฝ่ายแพ้เรียบวุธ แต่การพบกันครั้งนี้ คาดว่าน่าจะออกผลเสมอกันไป
สุดท้าย เป็นการพบกันของสองทีมที่กำลังตกที่นั่งลำบาก อย่าง เบิร์นลีย์ กับ ปอร์ตสมัท เจ้าบ้านเบิร์นลีย์แพ้มา 5 จาก 6 นัดหลังสุด ส่วนปอร์ตสมัทยิ่งแย่ไปกว่านั้น โดยชัยชนะครั้งสุดท้ายในลีกก็ต้องมองย้อนไปถึงปลายปีที่แล้วโน่นเลยทีเดียว แม้การพบกันในครึ่งแรกของฤดูกาล ปอมปีย์เป็นฝ่ายกำชัยไปได้ 2-0 ก็ตาม แต่สภาพทีมตอนนี้เต็มไปด้วยปัญหา ดูแล้วไม่น่าสู้เบิร์นลีย์ซึ่งเล่นเป็นพระเอกในบ้านได้ สุดท้ายก็คงกลับบ้านมือเปล่าตามเคย