posttoday

เมื่ออ่าวไทยเน่า?

19 สิงหาคม 2561

อ่าวไทยตอนในกำลังเน่า ทะเลกำลังร้องไห้ ถ้าไม่ตระหนักและเอาจริงกับเรื่องนี้ ผลกระทบจะเกิดขึ้นอย่างแสนสาหัส

อ่าวไทยตอนในกำลังเน่า ทะเลกำลังร้องไห้ ถ้าไม่ตระหนักและเอาจริงกับเรื่องนี้ ผลกระทบจะเกิดขึ้นอย่างแสนสาหัส

************************************

โดย...ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เมื่อสัปดาห์ก่อน รศ.ดร.เชษฐพงษ์ เมฆสัมพันธ์ คณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกสำรวจพื้นที่อ่าวไทยตอนในหรืออ่าวไทยรูปตัว ก. โดยขับเรือสำรวจตั้งแต่สัตหีบไล่มาจนถึงศรีราชา พบน้ำทะเลเป็นสีเขียวปี๋ขุ่นคลั่ก ท่านวกมาสำรวจตามชายฝั่ง ปลาตาย คลื่นสีเขียวสาดซัดเข้าฝั่ง ยังพาขยะพลาสติกเข้ามา จากนั้นท่านขอผมให้ช่วยบอกคนทั้งหลายว่า เรากำลังอยู่ในสถานการณ์แสนสาหัส อ่าวไทยตอนในกำลังเน่าอย่างรุนแรง

ปัญหาดังกล่าว คือ น้ำเปลี่ยนสี (ขี้ปลาวาฬ) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเกิดขึ้นเป็นระยะในช่วงหน้าฝน รวมถึงปลายฝนต้นหนาวเกิดจากคุณภาพน้ำผิดปกติ มีธาตุอาหารสูงมาก แพลงก์ตอนพืชมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และทำให้สัตว์น้ำตาย

อย่างไรก็ตาม จากรายงานการสำรวจตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา บอกเราว่า ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ในอดีตเคยเกิดในบางพื้นที่และเป็นช่วงสั้นๆ ปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างมาก เหตุผลสำคัญ คือ การพัฒนาที่ควบคุมไม่ได้ ระเบียบกติกาที่ไม่สามารถบังคับใช้ ทำให้สิ่งที่ลงมากับแม่น้ำลำคลองทำลายสมดุลแห่งท้องสมุทร

ธาตุอาหารที่มาจากปุ๋ยเคมีภาคการเกษตร น้ำที่ปราศจากการบำบัดจากแหล่งชุมชน การปล่อยน้ำเสียลงตรงๆ จากแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและแออัด การตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ตัวกรองตั้งแต่ต้นน้ำหายไป การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดน้ำท่วมน้ำหลากพัดพาของเสียลงสู่ทะเล ยังมีเหตุผลอีกมาก แต่เราจะต้องเจอกับปัญหามากขึ้นและมากขึ้น โดยผมยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด

ทะเลเป็นปลายน้ำเป็นจุดสุดท้ายที่รองรับทุกอย่างจากแผ่นดิน โดยเฉพาะอ่าวไทยตอนในเป็นที่รองรับทุกอย่างจากแม่น้ำสำคัญที่สุด 4 สาย (บางปะกง เจ้าพระยา ท่าจีน และแม่กลอง) เป็นชายฝั่งที่มีคนอาศัยมากที่สุด มีเมืองท่องเที่ยวทางทะเลขนาดใหญ่ที่สุด มีท่าเรือใหญ่สุด และมีการพัฒนาในทุกด้าน ยังเป็นทะเลที่อยู่ติดกับพื้นที่แห่งความหวังอีอีซี

แต่ถ้าทะเลอ่าวไทยตอนในตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ขณะที่อีอีซี กำลังจะเกิด ผมบอกได้ว่าในแง่สิ่งแวดล้อมทางทะเล เราไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ เราเริ่มจากติดลบ เพราะสภาพน้ำเปลี่ยนสีที่เกิดขึ้นอย่างถี่ยิบ เตือนเราว่าทะเลแถบนี้กำลังอยู่ในสภาพน่าเป็นห่วง เราจะลำบากแน่และลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการเติบโตของประเทศ และตามสภาพภูมิอากาศแปรปรวนที่นับวันจะรุนแรงและคาดเดาได้ยาก

ผลกระทบจากน้ำเปลี่ยนสีตลอดชายฝั่ง ทำให้ความหวังหลายอย่างเป็นไปแทบไม่ได้ เราจะมีนักท่องเที่ยวที่ยินดีจ่ายเงินในอัตราสูงได้อย่างไร หากน้ำทะเลเราเน่าจนไม่มีใครอยากลงเล่น...หรือแม้แต่ดู เราจะพัฒนาอาหารทะเลมูลค่าสูงได้อย่างไร หากปลาในทะเลขาดออกซิเจนหายใจจนตายเกลื่อนหาด

เรากำลังลำบากและหากภาคส่วนอื่นๆ ไม่เข้าใจ ปล่อยให้คนทะเลแก้ปัญหาทะเลเพียงลำพังเหมือนที่ผ่านมาสถานการณ์จะพาเข้าสู่จุดสิ้นหวัง เพราะการแก้ปัญหาที่ปลายน้ำทำได้ยากเย็นแสนสาหัส ยิ่งถ้าทุกคนสุมปัญหาลงมาที่ทะเล จากนั้นหวังว่านักวิชาการจะช่วยแก้ปัญหาให้

อยากจะบอกว่าไม่มีคนกลุ่มนั้นอยู่ในโลก ไม่มีฮีโร่ที่คิดค้นยาที่หยดติ๋งลงไปแล้วทำให้มหาสมุทรสะอาด ไม่มีโรงบำบัดน้ำเสียใดๆ ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยีเลิศเลอจากที่ไหน ก็ไม่สามารถบำบัดน้ำเสียที่ถูกปล่อยลงมาอย่างไร้ความรับผิดชอบ ตั้งแต่ต้นทาง ตั้งแต่บ้าน ร้านอาหาร โรงแรม ชุมชน โรงงาน ไร่นา บ่อปลา ฯลฯ

มันมีเพียงแต่คำว่า “รับผิดชอบ” ร่วมกันของทุกฝ่าย

ในฐานะกรรมการปฏิรูปประเทศและกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ผมเสนอไปว่า ให้จัดทำพื้นที่ต้นแบบ 2 แห่ง คือ คลัสเตอร์ท่องเที่ยวอันดามัน และพื้นที่อ่าวไทยตอนใน & อีอีซ ผมเริ่มเห็นการทำงานอย่างจริงจังในคลัสเตอร์อันดามันที่เร่งเครื่องมากขึ้น หลังเหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ที่สร้างผลกระทบอย่างแรงต่อรายได้ประเทศ แต่ยังไม่เห็นความหวังใดๆ ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในและอีอีซี ในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเล

จึงอยากนำภาพและคำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลมาบอกไว้ อ่าวไทยตอนในกำลังเน่า ทะเลกำลังร้องไห้ ถ้าเราไม่ตระหนักและเอาจริงกับเรื่องนี้ ผลกระทบจะเกิดขึ้นอย่างแสนสาหัสและเราจะไม่สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนได้